Telever ตอบทุกความโศกและอ่อนไหวด้วยเกมชีวิตถึงความจริงของช่วงวัย

by Nattha.C
1.3K views
Telever Interview

Telever คือวงดนตรีที่ก่อตั้งในปี 2018 พวกเขาถูกพูดถึงจากความเป็นสายเลือดอัลเทอร์เนทีฟ และดนตรีลูกผสมที่เริ่มด้วยชูเกสจาก EP ‘have a good health’ สู่การหยิบแนวทางสไตล์ฮาร์ดคอร์และโพสต์กรันจ์มาระเบิดพลังแบบเต็มข้อในอัลบั้ม ‘Inside the Game’

และไม่นานหลังจากปล่อยอัลบั้ม เทเลเวอร์ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่น่าจับตามองมากที่สุดในปีนี้ เพราะพวกเขายังได้รับเลือกให้เล่นเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคมนี้ โดยทีมผู้จัด HAVE YOU HEARD? กับการมาไทยเป็นครั้งที่สองของ Slowdive วงดนตรีชูเกสฟุ้งฝันสัญชาติอังกฤษ

COSMOS Transmission ครั้งนี้เรามาพูดคุยกับ Telever ถึงเกมชีวิตและความจริงที่ส่งให้พวกเขาตอบโจทย์ทุกความโศกและอ่อนไหวของช่วงวัย พร้อมด้วยความซื่อตรงปนเฮฮาที่ทุกคนอาจสัมผัสได้จากบทความนี้

สมาชิก
เต้—กิตติธัช ตุ่นหรัด (ร้องนำ, กีตาร์)
ซี—ทวีเดช นาคจิตรการ (เบส)
เจมส์—ธนาดล ตาบุตร (กีตาร์)

Telever band members
สมาชิกเรียงจากซ้ายไปขวา: เจมส์ (กีตาร์), เต้ (ร้องนำ, กีตาร์), ซี (เบส)

ขอย้อนความไปเมื่อช่วงปี 2019 เราจำได้ว่าเทเลเวอร์เคยเล่นเปิดให้ Nothing ชูเกสแบนด์จากสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นบัตรหมดแถมคนเยอะมาก เยอะชนิดที่ Speakerbox ก็เอาไม่อยู่ นับเป็นงานแรกที่ได้เล่นเปิดวงนอกเลยหรือเปล่า? เล่าความรู้สึกให้ฟังหน่อย
ต้องบอกก่อนว่า Nothing เป็นแรงบันดาลใจในการทำเพลงของพวกเราเลยครับ เมื่อรู้ว่าจะได้เล่นเปิดให้เขาก็รู้สึกเซอร์ไพร์สมาก และเป็นงานแรกที่เทเลเวอร์ได้เล่นเปิดให้วงนอกด้วยครับ ยังจำความรู้สึกในวันนั้นได้เป็นอย่างดี ก้าวแรกที่เปิดประตู Speakerbox เข้าไปเห็นวงเขากำลังซาวด์เช็ค พวกเราได้ยืนดูอย่างใกล้ชิด และมีการพูดคุยกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พิเศษจริง ๆ ครับ

ช่วงโควิด ทุกคนไปทำอะไรกันมาบ้าง? รวมถึงตอนที่ได้ส่งเพลงที่ใครก็ต่างชื่นชอบอย่าง Shatterd World ที่ถูกบรรจุอยู่ในอัลบั้ม normalexotic: Thai Shoegaze and Related Genre Compilation Vol.2 โปรเจกต์รวบรวมเพลงและวงดนตรีจากทีมงาน The Year Shoegaze Broke
ช่วงโควิดเป็นช่วงที่พวกเรามีเวลาว่างมาก ๆ ทำให้มีเวลาฟังเพลงและเวลาฝึกซ้อมเยอะขึ้น ในขณะที่งานแสดงสดถูกหยุดชะงัก ประกอบกับช่วงที่ผม (เต้) ออกจากงานประจำ เลยได้ทบทวนตัวเองและเรียนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับกระบวนการทำเพลงทั้งหมดครับ ’Shattered World’ น่าจะเป็นเพลงแรกที่มีความเป็น Shoegaze จ๋ามาก ๆ และพวกเราเริ่มใช้เครื่องมือในโปรแกรมทำเพลงเป็นบ้างแล้ว เลยรู้สึกภูมิใจในตัวเองระดับหนึ่ง (หัวเราะ) คือดองมันไว้อยู่สักพักใหญ่ จนได้จังหวะที่โปรเจกต์ Vol.2 ประกาศเปิดรับพอดี จึงตัดสินใจส่งไปเลยครับ แถมดีใจมากที่มีคนชอบเพลงนี้ และหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเพลงนี้อัดสดจากในสตูดิโอ ต้องขอบคุณพี่นาย พี่เต๊ะ Death of Heather ที่ทำให้เพลงนี้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ครับ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศิลปินสังกัด Native Vision Records ค่ายเพลงสัญชาติอินโดนีเซีย วงเคยตั้งเป้าหมายไว้ไหมว่า สักวันวงเราจะได้เล่นไปเล่นที่ต่างประเทศ ออกทัวร์เอเชีย เพราะช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซีนดนตรีฝั่งเพื่อนบ้านเราอย่าง ฟิลลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซียและอื่น ๆ เริ่มเปิดรับและค่อนข้างมีคอมมิวนิตี้ที่แข็งแรง
แน่นอนครับ วงมีความมุ่งหวังเป็นอย่างมากที่จะได้แสดงในหลายประเทศฝั่งเอเชีย พวกเราอยากออกไปชมโลกกว้างกับสิ่งที่เรารักแล้ว (หัวเราะ) ยังไงคิดว่าเร็ว ๆ นี้ได้ไปแน่นอน ฝากทุกคนติดตามกันต่อไปด้วยนะครับผม

ซีนดนตรีโดยรวมในจังหวัดนครสวรรค์เป็นยังไงบ้าง?
ตอนนี้ที่นครสวรรค์น่าจะเริ่มเปิดกว้างขึ้นในเรื่องของการฟังเพลงนะครับ มีหลายคนเริ่มรู้จักว่า Telever เป็นวงบ้านเกิดจากนครสวรรค์ อาจเป็นประตูบานหนึ่งที่พาให้คนนครสวรรค์ได้รู้จักกับดนตรีนอกกระแสมากขึ้นครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือการแสดงสดของเทเลเวอร์ ทุกครั้งที่เราได้ดูก็จะมีคาแรกเตอร์บางอย่างที่สะท้อนออกมาผ่านเครื่องดนตรีดุ ๆ อะไรที่สามารถอธิบายความแตกต่างหรือตัวตนของวงได้มากที่สุด ณ ตอนนี้?
เพลงของพวกเราอาจเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยตอบสนองความเศร้าของคนฟัง เพื่อช่วงปลดปล่อยและทำลายล้างในทุกความรู้สึกที่ทุกคนมี ประกอบกับดนตรีที่สื่อถึงความเยาว์วัย (Youth) หรือช่วงวัยที่มีทั้งความเกรี้ยวกราดและอ่อนไหว เพราะฉะนั้น พวกเราจึงอยากทำเพลงและแสดงออกไปในแบบที่รู้สึกจากหัวใจครับ

อิทธิพลการเล่น สไตล์เพลง ความลับ และคอนเซ็ปต์คร่าว ๆ ของอัลบั้ม Inside the Game ที่ยังไม่มีใครรู้
ส่วนใหญ่อิทธิพลการเล่นหรือสไตล์เพลงจะมาจากวงอัลเทอร์เนทีฟที่มีลูกผสมระหว่าง Shoegaze, Hardcore และ Grunge อาทิ Soulblind, Fleshwater, Day Aches และ Bleed (สมาชิกส่วนหนึ่งจาก Narrow Head) รวมไปถึงพาร์ทเมโลดี้ต่าง ๆ พวกเราตั้งโจทย์กับตัวเองเลยว่า ถ้ากลิ่นอายแบบ Glassjaw ผสมกับ Slowdive หรือ Vein.fm ผสมกับ Ride จะออกมาเป็นยังไง

ส่วนการทำงานในแต่ละเพลง ด้วยช่วงเวลาของแต่ละปี พวกเราพบเจอเรื่องราวมาหลากหลายรูปแบบมากครับ ทั้งความกดดันในสังคมการเมือง ปัญหาความอดอยากยากจน รวมไปถึงเรื่องของความสัมพันธ์ เราสามารถรู้สึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งหมด เลยกลายมาเป็นคอนเซ็ปต์อัลบั้ม ‘Inside the Game’ เพราะพวกเรารู้สึกว่ามนุษย์ทุกคนกำลังเล่นเกมซึ่งมีเหตุให้พบเจอสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อเจอบอสด่านนี้ เราจะสู้มันได้ไหม เราจะผ่านด่านนี้ยังไง เปรียบเสมือนชีวิตจริงเลยครับ เมื่อปัญหาถาโถมเข้ามา เราจะผ่านมันไปได้อย่างไร ซึ่งในแต่ละเพลงเราพยายามจะสะท้อนออกไป ถ้าคุณชอบเพลงไหนสักเพลงนึง เราน่าจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกันครับ

มีหนึ่งถึงสองเพลงในอัลบั้มที่เป็น Interlude คั่นด้วยซาวด์อิเล็กทรอนิกส์ บีทสังเคราะห์ ที่แอบโดดออกมาจากผลงานเพลงก่อนหน้า อะไรเป็นไอเดียที่ทำให้เราทดลองใส่เข้ามาในบางช่วง?
บางครั้งพวกเราก็หวนนึกถึงเพลงที่เคยฟังในอดีต หรือบางเสียงที่เคยได้ยินผ่านหูมาอย่างซาวด์ของวง Enter Shikari และอื่น ๆ ทำให้เราอยากเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องการสร้างสรรค์ มันเลยเป็นการทดลองกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ เต้: ช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเคยลองทำ Trap แล้วใส่กีตาร์โปร่งเข้าไป ตอนนั้นยังใช้โปรแกรมไม่เป็น รั่วมากครับ คือไปโหลดบีตมาในยูทูปแล้วเอามาวางใน Premier Pro พร้อมอัดเสียงกีตาร์โปร่งใส่ สมัยนั้นอยากเป็น Nothing, Nowhere (หัวเราะ) ตอนนี้เลยอยากทดลองด้วยการเอาสิ่งที่เราเคยฟัง เคยชอบ มาใส่ให้หมดเลยครับ พอมันเสร็จเป็นเพลงได้ก็สนุกดีครับ

ประสบการณ์การได้ร่วมงานกับวง Flowers for Daryl ทั้งงานเปิดอัลบั้ม A Blessing in Disguise จนมาถึงเพลง ‘Wednesday’ ที่ได้พวกเขามาฟีทและโปรดิวซ์บางส่วนในอัลบั้มนี้
ในพาร์ทของการทำงาน ทุกคนต่างเป็นนักดนตรีที่เก่งครับ พวกเรานับถือเพื่อนมาก ทุกคนเต็มที่และใส่ใจ ทำให้รู้เลยว่าพวกนี้แหละ ของแทร่ (ของแท้) ขอบคุณ อิง ที่ช่วยดูแลทุกขั้นตอนในสตูดิโอ ขอบคุณ Twobeasts Studio และขอบคุณ ฟลุ๊ค มือกลองคนปัจจุบันที่มาเล่นให้เรา ซึ่งก็คือมือกลองของ Flowers for Daryl ด้วยครับ

เต้: คือผมใช้เวลา FFD บ่อยมาก ผมมักจะไปหาพวกเขาบ่อย ๆ เราชอบคุยกันทั้งเรื่องเพลง เรื่องเครื่องดนตรี เลยทำให้ผมได้ความรู้จาก เอ็ม (ร้องนำ) และ อิง (มือกีตาร์) ซึ่งตอนทำเพลง ‘Wednesday’ ยอมรับเลยว่ายาก ด้วยความที่เราอยากให้มันเป็นเพลงเนื้อหาซอฟต์ แต่ไม่ใช่ทางสักเท่าไหร่ (หัวเราะ) แต่ได้อิงมาช่วยเกลาให้ทั้งหมดจนเป็นแบบที่ปล่อยออกมาเลยครับ ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ มากเพราะซัพพอร์ตเราในหลายเรื่องจริง ๆ

ฟีดแบ็กหลังปล่อยอัลบั้ม
เนื่องจากเราใช้เวลากับอัลบั้มอย่างต่ำ 2 ปีในการทำเพลงก็จัดแบบเต็มข้อเลยครับ ส่วนฟีดแบ็กที่ได้รับกลับมาถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพร์สและเป็นไปตามคาดพอสมควรครับ อารมณ์เดียวกับตอนที่ปล่อยอีพีแรก พอเราได้ทำอะไรที่อยากทำ แล้วเสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน เราดีใจเสมอครับ แล้วถ้ามีคนที่ชื่นชอบมัน แค่นี้ก็โคตรใจฟูแล้วครับ

Telever live

ก่อนจะขึ้นโชว์จริงในงาน Slowdive Live In Bangkok 2024 มีอะไรอยากฝากแฟนคลับ ผู้ชม หรือคนที่ไม่เคยเจอเรามาก่อน แต่จะได้ดูการแสดงสดของวงเป็นครั้งแรกไหม?
พวกเราเทเลเวอร์ขอฝากตัวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของชาว Shoegazer ทุกท่านด้วยนะครับ และพวกเราจะไม่ทำให้ผิดหวังครับ!

+ posts

แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy