ถามตอบกับ Sherry แบบ ‘ไม่ต้องเกรงใจ’ ถึงเพลงใหม่และการเข้าค่ายที่ผลักดันวงมาอยู่แถวหน้า

by McKee
1.4K views
Sherry ไม่ต้องเกรงใจ Spicydisc interview

เราติดตาม Sherry ตั้งแต่ EP แรกของพวกเขาในชื่อ Without Theory 101 ที่เต็มไปด้วยความฝันและความหวัง ซึ่งถ่ายทอดออกมาผ่านดนตรีร็อกโดนใจวัยรุ่น ไลน์กีตาร์เท่ ๆ และเนื้อเพลงจริงใจที่พร้อมจะพูดทุกอย่างที่รู้สึก กลายเป็นจุดขายที่ทำให้ต่อติดกับเราทุกเพลง

จนเมื่อมรสุมของโรคระบาดผ่านไป พวกเขาก็ยังปล่อยเพลงใหม่ ๆ ออกมาบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำงานอย่างที่มันควรจะเป็น จนกระทั่งทุกคนได้ฟัง เธอไม่ได้สอนให้ฉันอยู่คนเดียว ที่เดบิวภายใต้บ้านหลังใหม่ Spicydisc ซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจ แต่วงก็พิสูจน์แล้วพวกเขาสร้างสูตรสำเร็จของพวกเขาเองได้ และกลับมายืนแถวหน้าในฐานะวงป๊อปรุ่นใหม่

ล่าสุดพวกเขาก็ปล่อยเพลงใหม่ออกมาในชื่อว่า ไม่ต้องเกรงใจ ที่พยายามหยิบสิ่งที่เขาชอบกับสิ่งที่เขาเชื่อมาผสมกัน Transmission วันนี้เราอยู่กับ แจ็ค และ จีน และพูดคุยถึงเพลงใหม่ของพวกเขา และการเติบโตในฐานะศิลปินของพวกเขาในค่ายใหม่

Sherry ไม่ต้องเกรงใจ

สมาชิก Sherry
แจ็ค—อรรถพล ละมูล” [ร้องนำ, กีตาร์]
จีน—พันธุ์กวี สัมมาชีวานันท์ [กีตาร์]

มาอยู่ Spicydisc ได้ยังไง

แจ็ค: ตอนนั้นงาน Cat Expo 8 เหมือนเราตั้งบูธข้าง Moving and Cut ด้วยความบังเอิญ แล้วผมเพิ่งรู้ว่าพี่หยางมือเบสเขาทำงานที่นี่ เขาก็มาสะกิดผมว่า พี่ก้อ—ณฐพล อยากคุยด้วยนะ พี่ก่อสนใจ ชอบวง ก็นึกว่าเขาอำ เพราะผมเป็นคนติดอำอยู่ละ (หัวเราะ) ผมคิดว่าเขาพูดฮา ๆ ผมก็บอกได้ครับพี่ ๆ นึกว่าไม่มีอะไร เขาก็เงียบไปเป็นอาทิตย์อยู่นะ ตอนนั้นก็คิดว่าโดนอำจริง (หัวเราะ) ตอนนั้นลุ้นว่า ก็ดีนะเราก็อยากมีค่าย แล้วเขาก็ติดต่อมาจริง ๆ ก็นัดมาคุยมาทานข้าวด้วยกัน คุยกันนานอยู่นะ (จีน: เดือนสองเดือน) นัดแล้วก็หาย ผมก็ชิปหายเขาจะเอาเรามั้ยเนี่ย (หัวเราะ)

เขาบอกมั้ยว่าทำไมเขาถึงชอบ Sherry

จีน: ตอนแรกที่นัดเขาก็บอกว่ามาทำความรู้จักกันก่อน

แจ็ค: เขาก็ถามว่าวงทำงานอะไรยังไงกันบ้าง เขาก็บอกว่าชอบสองเพลงชุดใหม่คือ ก็รู้ดี กับ แม้พยายาม เขาบอกว่ามันดูไปจาก EP แรกและดูเป็นไปได้ที่จะทำงานด้วยกัน ก็ดีใจเลย แต่ตอนนั้นเราไม่มีเพลงเก็บเลย เป็นช่วงโรคระบาดที่ผมก็ไปทำงานอย่างอื่น จีนก็มีงานอย่างอื่นที่ต้องทำ พวกผมคิดถึงเรื่องเพลงน้อยลงโดยไม่รู้ตัว ก็เลยไม่มีเพลงเก็บไว้ เขาก็บอกให้ไปทำเพลงมา เลยเป็นเพลง เธอไม่ได้สอนให้ฉันอยู่คนเดียว

ทุกคนดูตกใจมากที่วงเลือกไปอยู่ Spicydisc ทำไมเราทั้งสองคนถึงเลือกค่ายนี้

แจ็ค: ผมปรึกษาคนเยอะมากครับว่ามันจะเวิร์คมั้ย ทุกที่มันมีข้อดีข้อเสีย ผมกลัวว่าเขาไม่ได้ทำซีนอินดี้มานานเป็นสิบกว่าปีแล้ว ตอนนั้นก็มี Squeeze Animal วงเดียวที่มาหน่อย ก็กลัวว่าผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างในจะเก็ตมั้ย แต่กลายเป็นว่าเขาเรียกเรามาคุยว่าตอนนี้เป็นยังไง เขาทำกันยังไง จริงหรอวงอินดี้ต้องขายราคานี้หรอ มันต้องทำแบบนี้หรอ แล้วเขาแบบฟังเรา เลยโอเคงั้นผมลองอยู่ด้วยกัน ก็เวิร์คครับ (หัวเราะ) ตอนแรกก็กังวลว่าแบรนดิ้งจะไปกับเราได้มั้ย แต่รู้สึกว่าตัววงเราต้องแข็งแรงก่อน ก็ลุยเลยลองดู ก็เป็นเหมือนที่คิดไว้ เดี๋ยวมันจะเท่ตามกันแหละ ใจเย็น ๆ (หัวเราะ)

สิ่งที่ค่ายนี้ยังซัพพอร์ตเราได้ดีที่สุดคืออะไร

แจ็ค: ที่เห็นกันชัด ๆ เลย คือวงอินดี้เขาทำ PR กันไม่เป็นครับ จริง ๆ ผมด้วย (หัวเราะ) เราคิดว่า แค่ส่งคลื่นวิทยุแค่นี้ก็พอ จริง ๆ มันมากกว่านั้น มันคือแพลนทุกอย่างที่ต้องทำ ทุกอย่างที่ต้องทำกับเพลงนี้ เพิ่งเก็ตว่ามันต้องทำแบบนี้เว้ย วงอินดี้ใหญ่ ๆ ที่เขาปล่อยเพลงเขาก็ทำกันแบบนี้เว้ย แล้วค่ายเพลงเขามีคนทำ PR ไง นี่คือสิ่งที่เห็นชัดสุด

แต่ค่ายไม่ได้มายุ่งเรื่องการทำเพลงเลย

แจ็ค: ไม่นะ ผมขอไว้ด้วยครับ ผมขอทำเองเหมือนเดิม จริง ๆ เขามีทีมที่พร้อมช่วยนะ ช่วงที่จีบกันผมกลัวมากว่าเขาจะมาทำให้ผมเลย ผมไม่เอา จะทำเอง พี่เอาตังมาให้ผมพอ (หัวเราะ) เดี๋ยวผมจัดให้เลย พูดกันตรง ๆ (หัวเราะ) ถือว่าโชคดีที่เพลงแรกมาเลย ไม่งั้นผมแย่เหมือนกัน เขาคง หยุดเลย ๆ กลับมานี้ (หัวเราะ)

จีน: ตอนที่ไปคุยมีรอบหนึ่งที่ เบนซ์ Dept ไปคุยด้วย เขาเลยเห็นว่าเบนซ์ทำได้เขาเลยเชื่อใจให้ทำ

พูดถึงเพลง ไม่ต้องเกรงใจ

แจ็ค: จริง ๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ผมแต่งเมโลดี้เพลงนี้ขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่มาจากการนั่งคุยกับเพื่อน ๆ แล้วหัวข้อคือ คนที่จะไปบอกเลิกใครซักคน ตัดสินใจที่จะตัดขาดความสัมพันธ์จะต้องเป็นคนโคตรกล้าเลยนะ อาจจะเป็นเรื่องหนึ่งที่กล้าที่สุดในชีวิตเขาเลย มันเหมือนวันที่ระเบิดออกมา ชนวนมันสุดแล้ว ไม่เอาไรแล้ว วันนี้จะทำไรกับกูก็เอาเลย ก็ตีความเป็นคู่รักที่วันนี้พอแล้ว เอาเลย มึงจะทำไรกับกูก็เอาเลย วันนี้จะได้ทำทุกอย่างแต่เป็นวันสุดท้ายแล้วนะ เลยมีคีย์เวิร์ดคำว่า “ไม่ต้องเกรงใจ” “ลงมือเลย” อยู่ในใจตอนแรก มันง่าย ๆ แค่นั้นเลย คือผมไม่เคยบอกเลิกใครแต่พยายามมองอีกมุมหนึ่ง

ถ้าเทียบกับสามเพลงที่ผ่านมา เพลงนี้ดูจะดึงซาวด์จาก EP แรก ๆ ของวงกลับมาอีกครั้ง เล่าให้ฟังเกี่ยวกับพาร์ทดนตรีหน่อย

แจ็ค: จริง ๆ เริ่มแรกก็ไม่ร็อกแบบนี้ครับ พยายามให้ไปทางเดียวกันกับสามเพลงก่อนหน้านี้ มันเหมือนยังไม่เข้าที่

จีน: มันจะมีเวอร์ชั่นนึงที่ส่งมาแล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนเพลงที่แล้วไปหน่อย มันเหมือนกันเลยคือกีตาร์จะไม่มีไอ้ท่อนแรก แล้วมีเปียโนขึ้นมาเหมือนเพลงที่แล้ว มันก็พอนะ แต่มันเหมือนไปรึเปล่า (หัวเราะ) แล้วเบนซ์ก็บอกว่า เอาร็อกมาเลย ผมก็ปรับมาจาก EP ชุดแรกแหละ เทคนิคอะไรต่าง ๆ

แจ็ค: ใช่ มันเริ่มมีเซฟโซนละ เราทำท่านี้แล้วดังเว้ย (หัวเราะ) เราเลยจะทำอันที่เซฟโซนก่อน แต่เบนซ์บอกว่าถึงเวลาแล้ว เก้าศูนย์ สองพัน มาเลย บริทร็อกแบบที่พวกมึงชอบเมื่อก่อน จีนก็ลุยเลย พอมีเบนซ์เข้ามาช่วยซาวด์ก็ละเอียดขึ้น ตัวเบนซ์เองก็เก่งเรื่องอัดมากขึ้น มันสนุกกว่าตอนที่เราทำ EP อีก มันเสียงแตกนะ แต่จะไม่แตกเหมือนที่คนอื่นใช้อยู่ตอนนี้

ติดใจอะไรเบนซ์ (หัวเราะ)

แจ็ค: เหมือนเราทำงานกันสองคน ถ้ามีอีกคนมาคอยดูอีกหลาย ๆ มุมก็น่าจะดีครับ เบนซ์ก็เป็นคนที่เราไว้ใจได้ เราคุยไปในทางเดียวกันก็เลยยังเป็นเบนซ์อยู่

จะมีเพลงเร็วอีกใช่มั้ย

แจ็ค: มีครับ หลังจากนี้ น่าจะมี mediem ขึ้น เร็วขึ้นหน่อย ซัดกีตาร์เร็ว ๆ ไปเลยอาจจะยังคิดไม่ออก แต่มีเตรียมไว้แล้วครับ อันนี้ผมคิดเองคนเดียวนะ จีนอาจจะยังไม่รู้ ผมพยายามคิดว่าไอ้อัลบั้มเนี่ย มันคือการทำให้วงกับเพลงเราดังขึ้น เลยยังไม่ได้มองว่าเอาไปเล่นแล้วจะเป็นยังไง ให้เรามีฐานแฟนมากขึ้นก่อน แล้วอัลบั้มหน้าค่อยทำออฟชั่นมันเพิ่ม (The COSMOS: อัลบั้มหน้าค่อยเกเร) ใช่ครับ เอาให้เพลงมันดังก่อน แล้วเรื่องโชว์ค่อยมาออกแบบอีกที ชุดหน้ามีเพลงเยอะขึ้นค่อยทำออฟชั่นเพิ่มขึ้น

Sherry ไม่ต้องเกรงใจ

วงมีงานเยอะขึ้นด้วย เพราะค่ายด้วยรึเปล่า

แจ็ค: มีส่วนครับ เพราะค่ายมีทีม showbiz คอยขายโชว์ ด้วยความเป็นค่ายเลยมีคอนเน็กชั่นเยอะด้วย เราเลยได้ไปเล่นงานอีเว้นต์มากขึ้น การติดต่อประสานงานก็ง่ายขึ้น บางทีวงอินดี้ที่ทำกันเองเงี่ย ใส่เบอร์มือกีตาร์เป็นเบอร์ติดต่อ บางทีงานจ้างโทรไปก็ไม่รับ (หัวเราะ) ผมว่าบักของวงอินดี้คือติดต่อยากครับ ถ้าทำตัวให้ติดต่อง่ายเดี๋ยวเขาเอาไปบอกต่อกันเอง คุณจะได้มีงานเข้ามาเยอะขึ้น (หัวเราะ)

อยากลองร่วมงานกับคนอื่นบ้างมั้ย รุ่นพี่ในค่ายอะไรงี้

แจ็ค: ก็อยากครับเพราะแต่ละคนทำงานคนละแบบก็น่าอะไรน่าเรียนรู้ ในอนาคตก็คงต้องมี แต่ในค่ายนี่ยังมองไม่ออกเลยครับ ยังไม่มีเพลงที่บอกได้ว่าจะเหมาะกับใคร แต่มีเพลงที่อยากให้พี่ก้อช่วยทำเบสให้เหมือนกันครับ จริง ๆ เพลงนี้มีพี่โต้ Nap a lean ช่วยแก้เนื้อให้นิดหน่อยด้วยครับ

กว่าจะมีเพลง 13 ล้านวิวของตัวเอง ก่อนหน้าที่ยังไม่มีชื่อเสียงขนาดนี้เราจัดการตัวเองยังไง

แจ็ค: ผมแค่รู้สึกว่า ผมอะอยากทำวงเพราะอยากดัง อยากทำอาชีพนี้เป็นหลัก เลยมาค้นหาตัวเองใหม่ว่าเพลงที่เราเคยทำมันมีบักตรงไหนบ้าง มันจะทำให้เพลงเพราะขึ้นได้ยังไงบ้าง หาอีกทางหนึ่งในตัวเราให้เจอ แล้วมันบังเอิญมีเบนซ์เข้ามาช่วยพอดี มีคนมาช่วยมองว่าพาร์ทนี้น่าสนใจในตัวของมึง เอาออกมาใช้สิ แล้วมันดันเวิร์คครับ วิธีการทำงานเราเหมือนเดิม แค่วิธีคิดในการทำงาน รายละเอียดบางอย่างมันเปลี่ยนไป เมโลดี้กับเนื้อร้องอาจจะเคยถูกมองว่าไม่สำคัญเราก็ตั้งใจมากขึ้น

เราก็พัฒนาตัวเองขึ้นแหละ

แจ็ค: ฟังเพลงให้มันเปลี่ยนไปด้วยแหละ การทำเพลงให้มันเพราะก็ต้องไปฟังเพลงที่มันเพราะ อยากฟังเพลงให้มันเท่ก็ไปฟังเพลงที่มันเท่ อยากอัพเกรดตัวเองด้วยการไปทำการบ้านกับเพลงที่มันช่วยให้เราพัฒนาขึ้น

แล้วตอนนี้พวกเราฟังอะไรกันอยู่

แจ็ค: ที่ฟังเยอะจริง ๆ ผมฟัง Matt Maltese ฟังตั้งแต่ชุดใหม่ ผมรู้สึกว่าเมโลดี้เขาเอาอยู่มาก ลองเหมือนศึกษาวิธีคิดของเขา ทั้งการใช้คอร์ดของเขา ส่วนบริทร็อกที่ผมชอบนี้ไม่ได้กลับไปฟังเลย อาจจะเพราะว่ามันอยู่ในตัวของผมอยู่แล้ว จะหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้เลย

จีน: ถ้าตอนทำเพลงนี้ผมไม่ได้ฟังอะไรที่เกี่ยวกับเพลงนี้เลย ฟัง Beach Fossils ฟัง HYBS เลย แต่พวกลูกกีตาร์บริทป็อปพวก Blur หรือ Suede พวกนี้เป็นอะไรที่ผมเล่นมาตั้งแต่ EP แรกละ แล้วไม่ได้เล่นนานละเลยหยิบกลับมาเล่นใหม่

แจ็ค: กินบุญเก่า ๆ (หัวเราะ) การทำเพลงเราต้องคิดถึงเรื่อง Marketing เล็ก ๆ ของเราอีกอย่าง เพลงนี้ถึงเวลาที่ต้องควักความร็อกของเรากลับมาใช้ละ เรามีเพลงที่เรียกคนฟังมาได้เยอะขึ้น ก็ต้องมีเพลงที่จะนวดให้เขาได้รู้จักว่าเราก็ร็อกเหมือนกันนะ

พอได้เข้ามาในค่ายแล้ว เราได้เรียนรู้อะไรจากการอยู่ที่นี่บ้าง

แจ็ค: ผมว่าหลัก ๆ เรื่อง Marketing หรือ PR เนี่ยแหละครับที่มันชัดเจนมาก มันเป็นเรื่องที่โคตรสำคัญถ้าคุณอยากจะดัง (หัวเราะ) เพราะมันคือวิธีคิดวิธีการวางแผน มันมีเด็ธไลน์ที่ชัดเจน ไม่ใช่เด็ธไลน์ลอย ๆ ที่เราเลื่อนไปเรื่อย ๆ (หัวเราะ) เราทำเป็นงานมากขึ้นด้วยครับ พอเราได้เงินจากสิ่งนี้เป็นหลักก็ต้องใส่ใจมันมากขึ้นด้วย เป็นมืออาชีพมากขึ้น

จีน: มันคือเป็นระบบขึ้นมากกว่า เมื่อก่อนบางทีเราจะลงรูปอะไรซักอย่างวันนี้ ลืมลง อะไม่เป็นไร (หัวเราะ) ตอนนี้คือไม่ได้ละ เพราะทีมเขาจะล็อกไว้แล้วว่าอะไรลงวันไหน

อุปสรรคของซีนดนตรีไทยในมุมมองของเรา

จีน: ผมนึกออกเรื่องหนึ่ง คืองานที่วงอินดี้จะได้ไปเล่น สมัยก่อนจะมีสถานที่ที่ให้เล่นไม่กี่ที่ แต่สมัยนี้คือกว้างขวางขึ้นเยอะ

แจ็ค: มันเริ่มมีไลฟ์เฮ้าส์เกิดขึ้นเยอะมาก ผับบาร์ร้านอาหารก็เริ่มมีร้านที่รองรับวงอินดี้มากขึ้น ก็เป็นทั้งเรื่องดีและบักอะไรบางอย่างอยู่

Sherry ไม่ต้องเกรงใจ

ร้านเหล้าหลายแห่งก็ยังบังคับให้วง cover เพลงดัง ๆ อยู่

แจ็ค: ผมว่าอยู่ที่วงฮะ ถ้าพวกผมรู้ว่าวันนี้ยากชัวร์ บางทีต่างจังหวัดเพลงเราก็ไม่ได้ไปถึงทุกเพลง เราก็ต้องใส่ cover ด้วย แต่ก็เล่นในสไตล์ของเรา บางวงอาจจะไม่ได้อยากเล่น cover แต่สำหรับผมมองว่าตัวเองคือ entertainer หน้าที่คือทำให้คนกินเหล้าอร่อยที่สุด เนี่ยหน้าที่ของผม (หัวเราะ) เดี๋ยววันที่ได้เล่นงานอีเว้นต์เท่ ๆ ก็ค่อยเล่นเพลงเท่ ๆ ของเราไป เหมือนเรามองมันเป็นงานมากขึ้น เข้าใจว่าวันนี้หน้าที่เราคืออะไร ก็ไม่ได้มองว่าความเป็นศิลปินของเราลดลง

เรากำลังจะมีรัฐบาลใหม่ละ อยากให้เขาเข้ามาซัพพอร์ตซีนดนตรีไทยยังไงบ้าง

แจ็ค: ผมว่านักดนตรีก็เหมือนเป็นอาชีพฟรีแลนซ์ ถ้ามันมีสวัสดิการหรือวิธีการจัดการให้คุณภาพชีวิตพวกเราดีขึ้นซักหน่อย หรือจริง ๆ ทุกอาชีพด้วยแหละ เดี๋ยวพอคุณภาพชีวิตเราดีทุกอย่างก็ดีตามมา ไต้หวันรัฐบาลเขาก็สนับสนุนจัดงานแล้วรัฐบาลเป็นสปอนเซอร์หลัก ก็อยากเห็นงานแบบนี้ในบ้านเราบ้าง ถ้ามันทำได้อย่างนั้นทุกอย่างจะแข็งแรงขึ้น ตลาดเพลงก็จะสนุกขึ้นด้วย ซีนนี้มันก็เป็นตลาดที่ทำเม็ดเงินได้เยอะเหมือนกันนะ ดนตรีบ้านเราก็เอาเรื่องอยู่นะ เราตามทันโลกอยู่ หลาย ๆ วงเขาก็ไปต่างประเทศไประดับโลกละ จริง ๆ เราไปได้แค่มีคนสนับสนุนให้ถูกทาง

Sherry อยากไปต่างประเทศบ้างมั้ย

แจ็ค: ผมไม่มีในใจเลยครับ แต่ถ้าให้ไปก็ไปได้ (หัวเราะ) มันยังมองภาพตัวเองไปไม่ออก ก็เลยไม่กล้าฝัน

จะมีข่าวดีเรื่องอัลบั้มเต็มยัง

แจ็ค: เราตั้งใจไว้ว่าปีหน้าอยากทำอัลบั้มเต็มให้เสร็จ ผมเริ่มแต่งเมโลดี้ไว้บ้างละ ที่จะเอามาเลือกเพลงไหนมาทำให้ครบอัลบั้ม ต้องคิดไปด้วยว่าคอนเซ็ปต์มันจะยังไงดี มีโอกาสทำแล้วก็อยากทำให้ดีที่สุด น่าจะปีหน้าครับ

ฝากอะไรถึงคนที่ยังไม่ได้ฟังเพลง ไม่ต้องเกรงใจ

จีน: ฝากเพลงนี้ด้วยนะครับ เป็นอีกเพลงที่พวกเราชอบมาก ๆ อาจจะเป็นเพลงที่ทำให้แฟนคลับใหม่ ๆ รู้จักเรามากขึ้นว่าเรามีความเป็นร็อกอยู่นะ ถ้าได้กลับไปฟังอัลบั้มแรกแล้วอาจจะชอบมากขึ้นด้วย

แจ็ค: แอบแซ่บ ๆ (หัวเราะ) ใครที่ยังติดอยู่ในความสัมพันธ์หรือวงจรอะไรที่แย่ ๆ ผมว่าถึงเวลาที่ไม่ต้องเกรงใจละ


ขอบคุณรูปจาก Spicydisc ติดตามข่าวสารของวง และเพลงใหม่ ๆ ของ Sherry ได้ที่ Facebook และ Instagram

Sherry ไม่ต้องเกรงใจ
+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy