Lesssugär ผสานเสียงร้องชวนฝันกับทุกซาวด์อัลเทอร์เนทิฟที่เป็นไปได้

by Montipa Virojpan
1.2K views

เมื่อได้ยินค่าย Trashlab เราก็จะนึกถึงหลากวงดนตรีไฟแรงแห่งอุบลราชธานี ซึ่งใน Transmission รอบนี้ เราก็มีหนึ่งในทีมงานสุดมันที่กำลังเป็นที่จับตามองแบบสุด ๆ มาพูดคุยเผื่อว่าเราจะได้รู้จักกับพวกเขามาขึ้น อันที่จริงเราก็น่าจะเคยเห็นสมาชิกบางคนในวงนี้กันมาบ้างแล้ว เพราะพวกเขาก็คือ The Biirthday Party นั่นเอง! เชิญพบกับ เจ เด่น แพท และ ฟางค์ จาก Lesssugär วงอัลเทอร์เนทิฟร็อก ดรีมป๊อป ก่อนไปมันกับพวกเขากันในคอนเสิร์ตรวมวงตัวจี๊ด ‘EMERGE: Upcoming Sounds’ ที่ Union Hall 30 กันยายนนี้ และข่าวดีเร็ว ๆ นี้คืออัลบั้ม ‘internet teenage lover’ กำลังจะได้วางขายที่ญี่ปุ่นในรูปแบบซีดีและไวนิลด้วย!

Lesssugär

รับฟัง ‘internet teenage lover’ ได้ ที่นี่

สมาชิก
เจ—ทีฆวัฒน์ นิตจังหรีด (กลอง)
แพทริค—ณัฐภัทร ยาวิชัย (เบส)
เด่น—เด่นวิชา ชารีแก้ว (กีตาร์)
ฟางค์—ศุภกานต์ ศรีสุวรรณ (ร้องนำ/กีตาร์)

Lesssugär = alter ego ของ The Biirthday Party?

เจ: เกิดจากการที่เราทำ The Biirthday Party กันอยู่แล้ว แล้วเหมือนกับว่าพอทำวงมาเรื่อย ๆ อย่างผมเองเนี่ย ช่วงนึงก็ฟังเพลงผู้หญิงเยอะ เลยรู้สึกว่าอยากให้มันเข้ามาอยู่ในเพลงเราบ้างเพราะก็ชอบเสียงผู้หญิงร้องอยู่แล้ว ก็คิดอยู่ว่าตอนแรกจะเพิ่มสมาชิกเป็นนักร้องผู้หญิงไหม หรือว่าเราจะทำวงใหม่ไปเลย สุดท้ายก็คุยกันได้ว่า โอเค ทำเป็นวงใหม่ละกัน 

ตอนประมาณกลาง ๆ ปี 2022 ก็เริ่มเลย คิดไวทำไว แล้วก็มาคิดว่า จะเอาใครมาร้อง คนแรกที่นึกถึงเลยก็คือฟางค์ เพราะเขาเป็นผู้หญิงคนเดียวใน Trashlab ตอนนั้น (หัวเราะ) เขาเคยปล่อยเพลงกับค่าย Trashlab โดยใช้ชื่อว่า Karnya มีเพลง ‘DEK : D’ แล้วก็ไปฟีทในเพลง ‘Loy’ ของ YOH แล้วอีกเหตุผลที่เลือกฟางค์คือ ช่วงนั้นเราเลื่อนสตอรี่แล้วเห็นฟางค์ดีดกีตาร์ร้องเพลงสักเพลงนึงเนี่ยแหละ ก็คิดว่าน่าชวนมาร่วมงานด้วย แต่ตอนแรกก็มีชั่งใจเหมือนกันนะว่าเขาอยู่ตั้งเชียงใหม่ แล้วเวลาเราทำเพลง เราซ้อม เราไปเล่น มันจะยากไหม ก็เลยลองหาดูแถว ๆ อุบล ฯ ก่อน สุดท้ายก็ไม่มีใครที่เหมือนฟางค์ครับ หายังไงก็ไม่มี ก็ต้องฟางค์แล้วแหละ

ช่วงแรกก็ต้องยอมอะไรหลาย ๆ อย่าง จะหมดค่าเดินทางไกล ๆ เยอะหน่อยเพื่อมาทำงานที่อุบล ฯ คือตอนนั้นเจ เด่น แพทอยู่อุบล ฯ อยู่แล้ว ส่วนฟางค์ก็อยู่เชียงใหม่ แต่ตอนนี้เป็นเจกับเด่นที่อยู่อุบล ฯ ส่วนแพทไปทำงานที่กรุงเทพ ฯ ครับ ซึ่งมันทำงานลำบากแน่นอนแหละ เราก็เลยตกลงกันว่า ถ้าทำเพลงค่อยไปอัดที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งเราก็มีเพลงที่ทำไว้แล้วส่วนนึงช่วงเมษาที่ผ่านมา ถ้าเวลามีงานทุกคนต้องมาซ้อมที่อุบล ฯ เพราะที่นี่มันมีห้องซ้อม หรืออย่างพวกมิกซ์ อุปกรณ์ทุกอย่างเราอยู่ที่นี่หมดเลย

อันที่จริงแฟนเบสของวงก็อยู่ที่กรุงเทพ ฯ ถ้าในอนาคตมีงานเล่นบ่อยกว่านี้จะมีการจัดการยังไง

เจ: คิดเผื่อไว้อย่างนึงคือต้องหาวันลงมาซ้อมกันบ่อย ๆ แม้จะไม่มีงาน ให้มันชิน คุ้น แล้วเวลามีงานบ่อย ๆ ค่อยเจอกันครั้ง สองครั้ง ก่อนเล่นครับ 

ฟางค์ต้องปรับตัวเยอะไหมเพราะทุกคนเป็นเพื่อนกันมาก่อนอยู่แล้ว

ฟางค์: เอาจริง ๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ 100% อาจจะด้วยนิสัยส่วนตัวหนูด้วยที่เจอคนใหม่ ๆ แล้วทำตัวไม่ถูก (หัวเราะ) เกิดความเกร็งบางอย่างที่ทำให้ปรับตัวไม่ทัน มันยังไม่ถึงกับคล่องตัว สำหรับหนูเองนะคะ

แล้ว เจ เด่น แพท มีวิธีรับน้องยังไง 

เด่น: แลกเพลงกันฟังมั้งพี่ ถ้าเพลงชอบเหมือนกันทุกอย่างน่าจะไปด้วยดี ถ้าทำออกมาง่าย ๆ สบาย ๆ แล้วเป็นตัวเองทั้งหมดสี่คนก็น่าจะดี 

แบบนี้ยังจะทำ The Biirthday Party อยู่ไหม

แพท: ทำนะ สนุก ๆ ครับ 

เจ: ยังปล่อยเพลงอยู่ครับ

เด่น: Lesssugär มี goal อีกแบบนึงครับ เรามองเห็นว่าโอกาสกับทางเลือกมันเยอะกว่า เหมือนกับว่าคนรอกินน่าจะเยอะมากกว่า แล้วก็น่าจะย่อยง่ายกว่า ส่วน The Biirthday Party มันอาจจะต้องมีเครื่องเคียงถึงจะกินได้อร่อย เราอยากเติบโตไปเรื่อย ๆ ทีละนิด เป็นงานกลุ่มแบบแบ่งงานกันทำ มีคนทำบีตมา มีคนนี้แต่งเพลง คนนี้มิกซ์ คนนี้พีอาร์ ช่วย ๆ กันครับ

เป้าหมายที่ว่าคือตั้งใจจะให้ Lesssugär ไปถึงไหน

เด่น: ไม่กล้าพูดแผนใหญ่ครับ แต่เป้าหมายคงเหมือนวงที่ทำเนื้อเพลงภาษาอังกฤษทุกวง คืออยากออกไปข้างนอกแหละครับ

แต่ก็เริ่มมี distributor ต่างประเทศมาทาบทามแล้วนี่ มันเกิดขึ้นได้ยังไง

เจ: อยู่ ๆ พี่เต Kengmakleon แกทักมาว่า รุ่นพี่แก พี่ปิง Earthtone เขาไปญี่ปุ่น แล้วที่ญี่ปุ่นถามพี่ปิงว่ารู้จัก Lesssugär ไหม เขาชอบ คราวนี้เหมือนพี่ปิงก็ไม่รู้จักเรา เลยมาถามพี่เต แล้วพี่เตก็เลยกลับมาที่ผม ก็ส่งคอนแท็กให้พี่ปิง ก็ได้คุยกัน แล้วก็ได้ทำอะไรด้วยกันหลาย ๆ อย่าง นี่ผมก็เพิ่งไปดูใน X (ทวิตเตอร์) เหมือนกัน ว่าญี่ปุ่นเขาเอาไปแชร์ พูดถึงเรา ตอนแรกก็ไม่ได้อะไร คิดว่าเขาคงชอบแหละ แต่อยู่ ๆ ก็จะทำอัลบั้ม จะขายให้ เขาคือ P-VINE Records ที่ทำซีดี ก็ติดต่อมาเลย มีพี่ปิงเป็นคนกลางคอยสื่อสารให้ครับ

คิดว่าอะไรทำให้คนญี่ปุ่นชอบเพลงของเรา

เจ: เห็นเขาบอกว่าชอบวงประมาณ Sobs แล้วก็ Fazerdaze เขาบอกเพลงของเราคล้าย ๆ กับพวกนี้ แล้วเขาก็ชอบ ผมว่าเขาก็คงจะชอบจริงแหละถึงกล้าลงทุนให้ (หัวเราะ)

อัลบั้ม ‘internet teenage lover’ ที่จะวางขายที่ญี่ปุ่นพิเศษยังไง

เจ: ก็จะเป็น 7 เพลงในชุดนั้น แล้วก็จะมีโบนัสแทร็ค 1 เพลงที่ทำในช่วงเดียวกับเซ็ต 4 เพลงนี้ ซึ่งเพลงที่ 8 จะมีแค่ในไวนิลกับซีดีครับ ไม่มีในสตรีมมิง วางขายช่วงปลายปีนี้แหละ

จะมี Japan tour ไหม

เจ: เขาบอกอาจจะเป็น gigs, club shows เล็ก ๆ ครับ

Lesssugär

คิดว่า Lesssugär มีความโดดเด่นยังไง

เด่น: วงอื่นเขาอาจจะกำหนดว่าแนวชูเกซมันต้องมีกำแพงเสียง เมทัลต้องกระเดื่องปั่น ๆ แต่นี่เหมือนเราคุยกันว่าถ้าทำเพลงแล้วอยากให้มันมีอะไรในนั้น ชูเกซมันค้างเสียงไว้ เราก็ค้าง มีเอฟเฟกต์คอรัส แต่เสียงร้องชูเกซปกติเขาก็ไม่ได้คลีนแบบเรา ทริปฮอปมีเครื่องเขย่า เราก็แค่ไม่ได้กำหนดแนวมากกว่าครับ แค่หยิบองค์ประกอบที่แนวนั้นแนวนี้มีมาใช้ เหมือนอาหารที่เลือกวัตถุดิบมาทำให้กินง่าย บางอย่างที่กินยากก็มี แต่อาจจะตอบโจทย์คนฟังเฉพาะกลุ่มก็ได้

ศิลปินที่มีอิทธิพลในการทำเพลงของ Lesssugär

ฟางค์: ของหนูจะสะเปะสะปะนิดนึง แรก ๆ ก็ Fazerdaze ที่พี่เด่นชอบให้หนูฟังก็ Alvvays

เด่น: แล้วก็จะมีพวก power pop, indie rock ที่มีกำแพงเสียงครับ ที่จริง แนวเพลงที่ฟังซาวด์ใกล้เคียงกันหมดเลย แต่แต่ละคนจะต่างกันไปที่วงครับ เจจะฟังป๊อป หรือวงทางออสเตรเลีย อีกคนจะเป็นอีกแก๊ง

ทำไมใช้ชื่ออัลบั้มว่า ‘internet teenage lover’

เด่น: ตอนแรกเราพยายามโหวตกัน แต่ผมคิดเตรียมไว้แล้ว (หัวเราะ) เหมือนเคยไปดูหนังมาแล้วมันพูดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่จะเรียกด้วยชื่ออื่นอ้อม ๆ ไม่พูดตรง ๆ แล้วจะเห็นว่าเขาเรียกชื่อนั้น แล้วเว้นวรรค แล้วพูดอีกคำ เว้นวรรคอีก ก็อยากให้มันเป็นท่อน ๆ ก็คิดว่าอะไรที่มันฟังแล้วจะดูวัยรุ่นอีก ก็อินเทอร์เน็ตละมั้ง แล้วก็คนรัก เพราะมันจะได้ฟังดูกว้างด้วย ไม่ได้ระบุถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ให้คนฟังเขาไปตีความว่าจะเป็นอะไรต่อ

ตอนปล่อย ‘stay away go!’ ออกมา ดึงความสนใจคนฟังได้เยอะมาก ตอนนั้นคิดอะไรอยู่

เด่น: ตัวดนตรี ตอนนั้นพวกเราบ้า krautrock กันครับ พวก King Gizzard and the Lizard Wizard กลองเป็นแบบยาว ๆ ไม่ส่งอะไรมาก แต่จะทำยังไงให้มันฟังง่าย แต่พอมีฟางค์จบให้มันก็ง่ายขึ้น เพราะตอนแรกมันฟังยากมากครับ เจชอบตีอะไรประมาณนี้ แล้วแพทก็ชอบเล่นอะไรที่มันวนลูป ไอเนี่ยก็ชอบกำแพงพวกที่เป็นก้อนใหญ่ ๆ มา เลยกลายเป็น ‘stay away go!’ แล้วส่งต่อให้ฟางค์แต่ง

ฟางค์: หนูฟังจากซาวด์แล้วรู้สึกว่ามันทำให้อยากดิ้นค่ะ ดิ้นในเชิงของความอึดอัด ไม่ใช่เต้น (หัวเราะ) แต่ไม่ถึงกับเศร้าและหม่น เพราะซาวด์มันมีความสดใสอยู่ ซึ่งมันก็เชื่อมโยงกับชีวิตหนูเองตอนนั้นด้วยค่ะ เหมือนเป็นข้อความที่อยากจะสื่อสารอยู่แล้ว แล้วก็เข้ากับเพลงดี เลยเอามายำรวม (The COSMOS: เป็นพวก escapist อยากหนีจากความจริงงี้รึเปล่า) ใช่ค่ะ เป็นส่วนลึกที่อยากจะทำอย่างนั้น แต่ก็นั่นแหละค่ะ เป็นแค่ช่วงเวลานึงที่อยากบันทึกเอาไว้ว่า เป็นมนุษย์บางทีมันก็ต้องมีความคิดประมาณนี้บ้าง… หนูมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองอะไรบางอย่างที่ทำร่วมกันระหว่างพวกเรา 4 คน อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นอะไรบางอย่างต่อไป ซึ่งจุดมุ่งหมายก็คืออยากจะทำเพลงดี ๆ ซักเพลง พอมีโอกาสก็เลยลองทำดู ดังนั้นคำอธิบายสำหรับเพลงเพลงนี้ หรืออัลบั้มนี้อาจจะไม่ได้กลมกล่อมขนาดนั้นเพราะมันเกิดจากการยำรวมกัน แล้วก็ความที่ยังไม่ค่อยลงตัวบางอย่างของคนที่ทำเอง 

trynafindyou

เจ: ผมเริ่มกลองเพลงนี้ ช่วงนั้นฟัง Pretty Sick เยอะมาก ๆ เป็นวงผู้หญิงวงแรก ๆ ที่เหมือนกับว่าพอเราจะทำวงผู้หญิงร้อง ก็ไปทำการบ้านมาด้วยการไปหาวงผู้หญิงฟังด้วยการเปิด Spotify แล้วให้มันรันวงผู้หญิงแนวนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็ได้รู้จักวงใหม่ ๆ ที่เป็นผู้หญิงร้องแนว ๆ นี้เยอะขึ้น สำหรับ Pretty Sick นี่เขาเดือดเลย นักร้องนำเล่นเบสด้วย แล้วเห็นเขาตีกลองจังหวะคล้าย ๆ อย่างนี้แล้วรู้สึกว่าเท่ดี ก็เลยเอากลิ่นมาลองทำดู แล้วปรับให้มันเป็นแบบที่เราชอบ 

ฟางค์: ส่วนเนื้อเพลง ช่วงนั้นหนูจะตัน ๆ หน่อย (หัวเราะ) อันนี้ก็มาจากชีวิตหนูด้วย ส่วนมากจะเก็บเอาเศษเสี้ยวอารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แล้วผ่านไป มาใส่ดู มันอาจจะไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งขนาดนั้น แต่ถ้าได้พูดออกมาผ่านเพลงอาจจะดีขึ้นมาบ้างมั้งคะ เพลงนี้เกี่ยวกับการตามหาใครสักคน ไม่รู้จะอธิบายยังไง (หัวเราะ)

แล้วอย่าง ‘kate’ ล่ะ แทนตัวเองเป็นผู้หญิงคนนี้ด้วยหรือเปล่า

ฟางค์: ไม่ค่ะ หนูแทนเคทเป็นสาว ๆ ทั่วไป ช่วงนั้นบังเอิญที่ฮอร์โมนความเป็นหญิงมันพุ่งพล่านพอดี จริง ๆ ก็อยากเขียนเพลงให้มัน unisex กว่านี้ค่ะ พยายามเก็บศัพท์อยู่

เด่น: มันจะไปทาง lo-fi The Radio Dept., TV Girl ทริปฮอปนิดหน่อย จริง ๆ อยากจะให้ทริปฮอป UK แต่คอร์ดมันดันเศร้าเกินไป พอไปเจอเสียงฟางค์อีก มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้ ตอนแรกมันไม่ได้เศร้าขนาดนี้

ชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้ม

เจ: จริง ๆ ชอบ ‘wanna get hurt’ นะ เพลงอื่นยังไงไม่รู้ แต่เพลงนี้เพื่อนผมโซโล่เมโลดี้เจ็บ (หัวเราะ) กับ ‘it was meant to be’ ด้วย 

แพท: ‘trynafindyou’ ผมว่ามันให้กลิ่นแบบร็อกดี (เจ: แพทเขาเป็นชาวร็อกมาก่อน) เพลงมันเศร้า ๆ แต่ร็อกแบบผมฟังครั้งแรกแล้วขนลุก ประมาณนั้น ตรงใจมากเลยเพลงนี้ ด้วยที่ผมชอบเพลงร็อกอยู่แล้ว จริง ๆ เพลง ‘i.t.l’ ผมก็ชอบนะ ผมว่ามันเป็นเพลงเปิดตัวที่เท่ดีเหมือนกันนะผมว่า เพราะผมชอบเพลงอินเทอร์ลูดอยู่แล้ว จริง ๆ ก็ชอบทุกเพลงเลยครับ อยากให้เปิดฟังให้ครบทุกเพลง

เจ: เพราะว่าพวกเราเรียงมาให้แล้ว (หัวเราะ)

เด่น: ผมชอบ ‘nicolette’ นะ ซาวด์เยอะ ใส่ได้เยอะดี แล้วก็ตอนนี้ชอบ ‘kate’ ยังไงไม่รู้ แต่ก่อนไม่ได้ชอบเพลงนี้เลย อันนี้ก็คือเหงาเลย ไป ๆ มา ๆ เพลงนี้มันฟังแล้วรู้สึกคิดถึงวัยเด็ก มันมีอารมณ์ของมันดี

ฟางค์: หนูชอบ ‘i.t.l’ อย่างที่พี่แพทว่าเหมือนกันว่าหนูชอบที่มันฟังดูร็อกขึ้นมา หนูจำไม่ได้ว่ามันคือ ‘wanna get hurt’ หรือ ‘nicolette’ ที่ชอบที่สุด แต่ระหว่างสองเพลงนี้แหละค่ะ… จริง ๆ แค่รู้สึกว่ายังไม่พอใจตอนอัด ตัวเองยังทำไม่ได้ดีทั้งเนื้อร้องกับเสียงตัวเองเฉย ๆ เลยไม่ได้มีเพลงที่ชอบจ๋าขนาดนั้น แต่ดนตรีคือชอบซาวด์ทุกเพลงนะคะ

แล้วเวลาทำเพลงเราแบ่งงานกันยังไงเพราะอยู่คนละที่

เจ: มีการส่งไฟล์แก้กันผ่านทางออนไลน์ จริง ๆ ทุก ๆ เพลงมันจะมีเพลงที่ใครคิดอะไรได้ก็จะเป็นคนเริ่ม แล้วมีคนตาม บางเพลงผมขึ้นกลองมา แล้วเด่นมาใส่กีตาร์ ใส่เบส บางเพลงแพทมาใส่เบส แล้วฟางค์ก็จะเป็นคนแต่งเนื้อร้อง แต่ก็จะมีเพลงที่ฟางค์ขึ้นกีตาร์มาก่อนเองด้วย ทุกคนมาระดมสมองกันแล้วสุดท้ายก็จะไปที่ปลายนิ้วของเด่นครับ (หัวเราะ) เด่นจะเป็นคนเกลี่ย ตบให้มันเป็นกลิ่นของ Lesssugär ขึ้นมา แล้วจะเป็นแพทที่อัด มิกซ์ มาสเตอร์ให้ 

เด่น: เราแค่อยากทำบีตมาแล้วส่งต่อให้ฟัง แล้วดูว่าจะทำออกมาเป็นยังไงต่อ แล้วเนื้อร้องก็จะตามมาครับ ไม่ได้กำหนดเรื่องราวหรือหัวข้อ ให้ฟางค์คิดเลย 100%

ฟางค์: ส่วนมากก็จะลองฟังดูแล้วพยายามคิดว่ารู้สึกอะไรแล้วอยากบอกอะไร ถ้าบางทีมันตันจริง ๆ จะบอกตัวเองให้พยายามนึกเรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วถ้าเราอยู่ ณ ตรงนั้น เราอยากจะพูดอะไร ก็คคิดตามจากซาวด์ด้วย แต่ก็คิดว่าต้องอัพสกิลการเขียนการเล่าเรื่องอีกเยอะเลย

ที่กรุงเทพ ฯ เราไปทำเพลงกันที่ไหน

เจ: เป็นสตูดิโอกราฟิกครับ (หัวเราะ) คือมันเป็นบ้านของรุ่นพี่ที่เขาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เขาสอนกราฟิกดีไซน์แล้วทำบ้านเป็นสตู

แพท: คือเมื่อก่อนเขาทำเป็นออฟฟิศเนี่ยแหละ ก็มีพนักงาน แต่พอโควิดเขาก็ work from home กัน ตรงนั้นมันก็ว่าง แล้วผมกลับมาก็รู้สึกว่า ฟีลมันได้ว่ะ ก็กะจะเอาไว้นั่งมิกซ์เพลงตอนที่มาอยู่กรุงเทพ ฯ แล้วทีนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรมันดลบันดาลใจให้พวกเรามีความเห็นตรงกันว่าต้องมากรุงเทพ ฯ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน มันแบบประจวบเหมาะ ก็เลยมาจบที่นี่แหละครับ กลายมาเป็นสตู ฯ ทำเพลงของ Lesssugär โปรดักชันก็เหมือนเบดรูม (เด่น: บ้าน ๆ) แต่เราแค่ย้ายสถานที่กันเฉย ๆ 

เคยสังเกตไหมว่าการอัดนอกสตูดิโอเสียงมันให้ผลลัพธ์ที่ต่างออกไป เรารู้สึกยังไงบ้าง

เจ: เคยครับ ก็คิด ๆ เหมือนกัน อย่างตอนที่ทำ ‘internet teenage lover’ หลัก ๆ เราทำอยู่อุบล ฯ mv ถ่ายทำอยู่ที่นู่นทุกอย่าง ทำกันเอง มันก็เป็นกลิ่นของที่นั่น แต่ล่าสุดที่เรามาทำอยู่กรุงเทพ ฯ ในสตูดิโอกราฟิก ด้วยความที่ห้องมันสวยอยู่แล้ว บรรยากาศมันคือต่อให้ไม่ใช่สตูดิโอมันก็เอื้อ พวกผมทำกัน 4 วัน ได้ 4 เพลงใหม่ ผมว่าความคิดมันแล่นกว่า แล้วกลิ่นของเพลงผมรู้สึกว่ามันต่างกัน สำหรับผมมันได้กว่า (หัวเราะ)

เด่น: ซาวด์เมืองกรุง (หัวเราะ)

ฟางค์: หนูคิดว่าอาจจะไม่ใช่แค่สถานที่อย่างเดียว แต่ก็อาจจะมีส่วน ความรู้สึกหนูตอนอยู่ที่กรุงเทพ ฯ มันจะโปร่ง ๆ มากกว่า รวมถึงไวบ์ มันรู้สึกได้ถึงตัวเรา ความคิดของเรา ณ ตอนนั้น ด้วยความที่ตอนนั้นมันช่วงฝนตกด้วยมั้งคะ อากาศมันก็ดี หนูไม่ได้ชอบเมืองขนาดนั้นนะคะ แต่พอได้เปลี่ยนบรรยากาศจากเชียงใหม่แล้วย้ายไปที่ใหม่ มันก็ได้อะไรใหม่ ๆ สะท้อนกลับมามากกว่าเดิม ส่วนตอนที่อยู่อุบล ฯ ตอนอัดเพลงก็ให้ความรู้สึกคนละแบบกัน อาจจะเป็นเพราะว่าไปเจอกันครั้งแรก ๆ และอยู่แปลกที่ด้วยเลยอาจทำให้หนูเกร็ง

Lesssugär

ซีนดนตรีอินดี้ที่อุบลเป็นยังไงบ้าง แอบได้ยินบ่น ๆ ว่าไม่มีร้านเล่น 

เจ: ผมว่าอุบลเป็นจังหวัดที่มีศิลปินอินดี้เยอะมาก แต่ไม่มีคนฟังครับ เราไปเล่นที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่อุบล เราไปเล่นในซีนดนตรีเราในจังหวัดอื่น ๆ เขารู้จักเรา แต่ในบ้านตัวเองไม่มีใครรู้จักเราครับ (หัวเราะ) เราไม่มีร้านที่ให้เล่นดนตรีสนแล้วจะมีวงอย่างพวกเราไปเล่น แต่มันมีร้านฟังเพลงเป็นเหมือนบาร์ที่ไปแลกเพลงกันฟัง ชื่อ Hear Another Sound เป็นร้านเล็ก ๆ เลย ไม่มีดนตรีสด มีแค่คอม กับ Spotify ครับ แล้วก็จะมีวนกันเป็นดีเจ ส่วนมากคนทำเพลงก็จะไปกองกันอยู่นั่น ไม่ได้ไปเล่นนะครับ ไปเปิดเพลงแลกกันฟัง ตอนนี้เราก็พยายามให้วัยรุ่น หรือคนที่มาร้านเขามีโอกาสให้เขาได้ร่วมเป็นคนเปิดเพลงได้ด้วย วันไหนมีคนมาเปิดเพลงเราทำอาร์ตเวิร์ก มีคอนเซ็ปต์วันนั้นว่าเขาจะเปิดอะไรจริงจัง ประมาณนี้แหละครับที่ให้คนชอบอะไรเหมือน ๆ กันไปพบปะกันได้

เจอปัญหาเรื่องการเดินทางไหม

เจ: ค่าใช้จ่ายก็เยอะครับ เวลาซ้อม แพทกับฟางค์ก็ต้องลงมาอุบล ฯ แล้วก็นั่งรถตู้ไปเล่นด้วยกัน ซึ่งปกติตอนทำ The Biirthday Party นั่งรถตู้ไปเล่นก็ลำบากอยู่แล้ว ทั้ง ๆ ที่ทุกคนอยู่อุบล ฯ อันนี้เรามีกรุงเทพ ฯ ด้วย เชียงใหม่ด้วย ค่าใช้จ่ายมันเพิ่มขึ้นแน่นอน เราก็ต้องมีการควบคุมค่าใช้จ่าย ต้องระวังกันมากขึ้น ส่วนมากเราได้รายได้จากงานที่จ้าง เราก็บวกค่าเดินทางไป เอาแค่ที่เราไม่เจ็บ มีเงินให้ทีมเทคด้วย ให้ตัวเองด้วย แต่ก็ไม่ได้เยอะ แล้วก็ไม่ต้องออกอะไรเอง อย่างงานหารค่าบัตรก็มีพี่ปิงเข้ามาช่วยเรื่องเดินทาง งานหารค่าบัตร ถ้าได้เยอะค่อยว่ากัน เอาง่าย ๆ ก็มีเขาสปอนเซอร์แหละครับ (หัวเราะ)

มันจะดีกว่านี้ถ้าเราได้การซัพพอร์ตเรื่อง…

เจ: จริง ๆ ก็อยากให้งานต่าง ๆ เปิดโอกาสให้วงรุ่นใหม่มากขึ้น ที่อุบล ฯ มีวงใหม่ที่เล่นดี ๆ เยอะมาก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเล่นที่กรุงเทพ ฯ บ่อย ๆ หรือบางวงไม่เคยเลย มันมีเขาเคยโชว์แต่ที่อุบล แล้วก็ไม่มีใครฟัง เศร้ามาก จริง ๆ มีหลายวงมาก ไม่ได้มีแค่ The Biirthday Party, Lesssugär, Pumpkin At Alaska หรือ WORRX ที่ไม่ได้ออกไปเล่น ซึ่งเราก็รู้จักอยู่ในกลุ่มกลุ่มเดียวกันนี่แหละครับ รู้จักกันหมดแหละ วงการมันแคบ อยู่จังหวัดเดียวกันอีก ทีมที่ทำเทคนิเชียนที่ทำให้ The Biirthday Party เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าเขาก็ทำวงเหมือนกัน นี่เพิ่งจะมีโอกาสไปเล่นที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งอันที่จริงเขาก็ทำมาพักใหญ่ ๆ แล้ว Same Place แล้วก็มีวงรุ่นพี่ The Mushy ที่เริ่มมีงานแล้วครับ 

ฝากผลงาน

เจ: จริง ๆ แล้วอาจจะมีหลาย ๆ คนที่ไม่รู้ว่าพวกเราปล่อยมา 7 เพลงแล้ว แต่ mv มีแค่ 3 เพลง คนเลยคิดว่าเรามีแค่ 3 เพลง (หัวเราะ) เรามีอัลบั้มแล้วนะครับ ฝากติดตามวง ใช้คำว่าน้องใหม่ดีกว่าเพราะเราเพิ่งทำโปรเจกต์ใหม่ 

ฟางค์: ฝากการทดลองต่อไปของพวกเรา 4 คนด้วยนะคะ ว่าจะนัวแซบปานใด๋

รับฟัง ‘internet teenage lover’ ได้ ที่นี่

+ posts

อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy