Llywelyn (เลาเวลิน) หรือที่ทุกคนรู้จักเขาอย่างดีในฐานะมือคีย์บอร์ดมากฝีมือจากวง PREP วงป๊อปที่มีกลิ่นของความเป็นแจ๊สฟังก์อันนุ่มนวลที่อยู่ในใจและเพลย์ลิสต์ใครหลายคน โดย Llywelyn ก็อยู่เบื้องหลังความนุ่มเหล่านั้นที่ชนะใจชาวไทยมาตลอดหลายปี ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาทำวงนี้ Llywelyn เองก็ทำเพลงส่วนตัวมาตลอด จนถึงช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านเขาจึงมีโอกาสได้กลับไปโฟกัสกับงานเพลงของตัวเองอีกครั้ง จนเกิดเป็นโปรเจกต์ส่วนตัวในชื่อ That’s Casual
โดยส่งซิงเกิลเดบิวในชื่อว่า Golden Tape มาให้ทุกคนลองฟังกันก่อน กับโซลฟังก์น่าฟัง แต่ยังมีกลิ่นของความอบอุ่นบางอย่างที่ทำให้เรายังคิดถึง PREP อยู่ด้วย ซึ่ง EP เสร็จเรียบร้อยพร้อมปล่อยกลางปีนี้
Space Invader วันนี้ เราได้พูดคุยกับ Llywelyn เกี่ยวกับโปรเจกต์ใหม่ของเขา พร้อมความหลงใหลในดนตรี city pop และหนังย้อนยุคจนกลายมาเป็นโปรเกจต์นี้นี่เอง
ยินดีด้วยกับการเดบิวของคุณ เล่าให้เราฟังหน่อยว่าอะไรทำให้คุณอยากทำเพลงของตัวเองในนาม That’s Casual
ช่วง pandamic ผมก็ต้องเว้นระยะห่างเหมือนกับทุกคน ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในชนบทของเมืองเวลส์ (Wales) บ้านเกิดของผม มันสวยงามแต่พวกเราต้องขังตัวเองในบ้าน และไม่ค่อยได้ออกไปเจออะไรข้างนอกนานนับปี จนผมเริ่มค้นหาอะไรใหม่ ๆ และเขียนเพลงที่ตัวเองร้องขึ้นมา จริง ๆ ก่อนจะมาทำ PREP ผมก็มีเขียนเพลงไว้มากมาย แต่วงไม่ได้เอาไปใช้ จนช่วงปีที่วุ่นวายผมเลยกลับมาโฟกัสกับมันอีกครั้ง รู้สึกดีจริง ๆ ที่อยู่กับไอเดียเหล่านี้อีกครั้ง
ชื่อ That’s Casual ได้แรงบันดาลใจมาจากนักแซกโซโฟนที่เคยเล่นให้กับวง Hall and Oats มันมีอิทธิพลต่อคุณและดนตรีคุณยังไงบ้าง
จริง ๆ วง Hall and Oats เขาก็เป็นตำนานอยู่แล้วนะ (หัวเราะ) พวกเขาทำเพลงป็อปที่ติดหู แต่ยังสร้างสรรค์และฮิตตลอดกาล ชื่อโปรเจกต์ That’s Casual ก็มีความคลุมเครือบางอย่างว่าอะไรที่มัน “ธรรมดา” (casual) กันแน่ สไตล์การแต่งตัวของเราหรือความสัมพันธ์ของเรารึเปล่า มันยังหมายถึงความธรรมดาที่น่าหลงใหลหรือเพลงที่ควรจะฟังง่าย ๆ สบาย ๆ แต่พอได้ฟังแล้วกลับตรงข้ามกันในความจัดจ้าน (make it something hard) ของมัน
เพลงแรกของคุณ Golden Tape มีที่มาที่ไปยังไง
มันคือฤดูร้อนที่อบอ้าวช่วงล็อกดาวน์ และผมใช้เวลาไปกับการฟังเทปคาสเซ็ตจากยุค 80 ที่ผมเจอที่บ้านของแม่ ผมเริ่มจินตนาการถึงวิถีชีวิตของคนที่ทำเพลงเหล่านี้ขึ้นมาจนไปถึงวิธีที่เขาใช้ในห้องอัด ความคลาสสิกเหล่านี้เหมือนจะมีออกมาเรื่อย ๆ แต่ใครซักคนที่มีชีวิตที่ไม่ได้โสภาแต่ก็ยังสร้างงานแบบนี้ได้ พวกเขาเป็นใครกันนะ เทปเหล่านี้ช่วยให้ผมหลบหลีกชีวิตตัวเองได้
EP แรกของคุณตั้งใจจะให้มันเหมือนหนังสั้นที่ประกอบขึ้นจากเรื่องราวในแต่ละเพลง ถ้ามันเป็นหนังขึ้นมาจริง ๆ คิดว่ามันจะเป็นหนังอะไรและใครจะมากำกับมัน
(หัวเราะ) ผมชอบหนังนอกกระแสช่วง 90 ที่สุด อาจจะมาจากช่วงนั้น คุณเคยดูหนังเรื่อง Shirkers มั้ย มันเกี่ยวกับการทำหนังในสิงคโปร์ช่วง 90 มันยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่า MV ของผมเองก็อาจจะได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งนี้เหมือนกัน
ความท้าทายจาก EP แรกของคุณทั้งในแง่ของคอนเซปต์และสไตล์ดนตรี
ผมท้าทายตัวเองด้วยการทำทุกอย่างใน EP นี้ด้วยตัวเอง การอัดเสียงด้วยตัวเองเป็นอะไรที่ยากมาก แถมผมยังต้องมิกซ์ EP นี้เอง ต้องเขียนเพลงเองอีก มีอะไรต้องทำเยอะไปหมด (หัวเราะ) แต่ผมมีความสุขมาก ๆ กับสิ่งที่ทำออกมา ตอนทำ PREP มันง่ายกว่าเพราะผมแค่เขียนสิ่งที่วงตกลงกันไว้ แต่การทำ EP นี้ผมต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ยังไงมันก็ยังสนุกและผมกำลังทำ EP ต่อไปอยู่
EP ของคุณจะปล่อยเมื่อไหร่
เดี๋ยวจะมีอีกหลายเพลงตามมา และ EP จะปล่อยช่วงต้นซัมเมอร์ครับ (ช่วงมิถุนายน)
แรงบันดาลใจในดนตรี city pop ของคุณคือใคร
ถ้าพูดถึง city pop ก็ต้องศิลปินญี่ปุ่นอย่าง Makoto Matsushita และ Hiroshi Sato ครับ แต่ถ้าเป็นยุคนี้ต้อง Sunset Rollercoaster จากไต้หวันและ Polycat จากเมืองไทย ผมยังชอบ Ginger Root ที่กำลังมามาก ๆ ในปีที่ผ่านมาครับ
แอบถามนิดนึง อยากรู้ที่มาของชื่อ Llywelyn ของคุณมาก มันเป็นชื่อที่เพราะมากและไม่เคยได้ยินใครชื่อนี้มาก่อน
ขอบคุณครับ (หัวเราะ) ผมมาจากเวลส์เมืองเล็ก ๆ ติดกับประเทศอังกฤษ พวกเราคุยกันคนละภาษา ผมเองไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้จนอายุ 4 ขวบ ภาษาของผมออกเสียงคล้ายกับเผ่าเอลฟ์ในเรื่อง The Lord of the Rings เพราะ Tolkien (คนเขียนนิยาย The Lord of the Rings) ได้แรงบันดาลใจจากภาษาเซลติก
ประสบการณ์จากการเป็นมือคีย์บอร์ดของ PREP ถูกนำมาใช้ในโปรเจกต์นี้ยังไง
มันมีอิทธิพลกับโปรเจกต์เดี่ยวของผมสุด ๆ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากหลายปีที่ได้ทำงานอย่างหนักกับ Dan, Tom และ Giom ในวง PREP แน่นอนว่าใน EP แรกของผมจะมีซาวด์ของ PREP ซ่อนอยู่แน่นอน
คาดหวังจากแฟน ๆ ชาวไทยยังไงบ้าง
หวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันและเพลงใหม่ ๆ ในอนาคต ได้ค้นพบซาวด์ใหม่ ๆ ทั้งไพเราะและมืดมนไปพร้อมกัน
ฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทยหน่อย
แฟน ๆ ชาวไทยมีความหมายกับมันมาก ๆ และผมอยากพา That’s Casual ไปประเทศไทยให้ได้ซักครั้ง เจอกันนะครับ
ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว หรือฟังเพลงใหม่ของ That’s Casual ก่อนใคร ที่ Instagram
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา