หลังจากผ่านไปสองปี Pamungkas กลับมาไทยอีกครั้งพร้อมอัลบั้มใหม่ล่าสุดของเขาอย่าง Hardcore Romance ซึ่งขยับไปสู่ความเป็นป็อปร็อกมากขึ้น แต่ไม่เคยทิ้งไลน์กีตาร์เข้ม ๆ สไตล์บริทร็อกที่เขาหลงใหล โชว์ของเขากับ H3F ที่ DECOMMUNE ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังตราตรึงทุกคนได้เหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้ทีมคอสมอสโชคดี ได้มีโอกาสบุกหลังเวทีไปคุยกับ Pamungkas หรือ Rizki Rahmahadian Pamungkas ในบรรยากาศแบบเป็นกันเองสุด ๆ เขาไม่ปิดบังเลยว่าเขาดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับมาที่ไทยอีกครั้ง เราจึงถือโอกาสชวนเขาคุยถึงอัลบั้มใหม่ และการเป็นศิลปินอินโดนีเซียของเขา ใน Space Invader ครั้งนี้
รู้สึกอย่างไรหลังจากลงเวที
ผมมีความสุขมาก มีความสุขจริงๆ ผู้ชมยอดเยี่ยมเหมือนเคย และผมรู้สึกโล่งใจ ภูมิใจ และ เอ่อ … เปียกด้วย (หัวเราะ)
ที่นี่เปียกตลอดเวลาโดยเฉพาะช่วงนี้ ช่วยแนะนำตัวเองให้คนฟังชาวไทยที่อาจจะยังไม่รู้จักคุณได้ไหม
ผมชื่อ Pamungkas (พามุงกัส) เป็นนักร้องและนักแต่งเพลงจากอินโดนีเซีย คุณอาจจะรู้จักผมจากเพลง To The Bone และผมเพิ่งปล่อยอัลบั้มที่ 5 ชื่อ Hardcore Romance ครับ
แรงบันดาลใจเบื้องหลังอัลบั้ม Hardcore Romance
ในแง่ดนตรี ผมเริ่มเปลี่ยนไปทางร็อกมากขึ้น แต่เนื้อเพลงยังคงเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และความรู้สึกข้างใน มันเป็นการผสมผสานระหว่างความเข้มข้นและความโรแมนติก ซึ่งทำให้อัลบั้มนี้ได้ชื่อนี้มา มันมีความสมดุลระหว่างความฮาร์ดคอร์กับความโรแมนติกครับ
เป็นการผสมผสานที่น่าสนใจ คุณช่วยเล่าถึงกระบวนการการทำงานของอัลบั้มนี้ให้ฟังหน่อย
ผมเคยใช้ชีวิตในสองโลกที่ต่างกัน—ก่อนและหลังที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาท ความแตกต่างนี้หล่อหลอมผม หลังจากทำงานไม่หยุดตลอดหกปี ผมก็หยุดพักเพื่อให้ชีวิตช้าลง และเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่เล็กๆ ในชีวิต นี่ช่วยให้ผมพบความสงบ นอนหลับดีขึ้น และเชื่อมต่อกับตัวเองอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่ออัลบั้มนี้ครับ
ในช่วงหยุดพักนั้น คุณฟังเพลงอะไรที่แตกต่างจากเดิมไหม
ไม่นะครับ ผมเป็นแฟนตัวยงของ The Beatles, Red Hot Chili Peppers, Bob Dylan, Beach Boys และ Arctic Monkey ผมเคยเล่นในวงพังก์ด้วย ดังนั้นวงอย่าง Nirvana และ Led Zeppelin มีอิทธิพลกับผมมาก โดยเฉพาะในกระบวนการเขียนเพลงของอัลบั้มนี้ มันคือการเติบโตครับ
ถ้าเปรียบเทียบอัลบั้มนี้บกับอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง Birdy มันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง
ผมคิดว่าผมเติบโตขึ้นเยอะ ผมอายุ 31 แล้ว และผมพบสมดุลที่ดีขึ้นระหว่างสิ่งที่ผู้ฟังต้องการและสิ่งที่ผมต้องการในฐานะศิลปิน การตัดสินใจ ไม่ว่าจะในด้านการเขียนเพลงหรือโปรดักชันก็พัฒนาขึ้น ผมยังได้เรียนรู้เทคนิคการร้องใหม่ ๆ และถึงขั้นฝึกกับโค้ชฟุตบอลเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเพื่อควบคุมการหายใจให้ดีขึ้น
เขาเป็นแฟนทีม Manchester United ไหม (หัวเราะ)
(หัวเราะ) เปล่าครับ เขาเป็นแฟนทีมมิลาน
ถ้าต้องแนะนำเพลงจาก Hardcore Romance ให้คนฟังชาวไทย คุณจะเลือกเพลงไหนบ้าง?
ถ้าคุณรู้สึกอยากเต้นเบา ๆ ผมแนะนำเพลง New Feeling ถ้าคุณรู้สึกโกรธ ฟัง Let Me Cry ถ้าคุณมีความหวังและเศร้าไปพร้อมกัน ลองฟัง Fight Some More และถ้าคุณมีความรู้สึกว่าทุกอย่างมันมากเกินไป One Bad Day คือเพลงของคุณครับ
พูดถึงเรื่องโรแมนติก มีเรื่องโรแมนติกอะไรที่คุณชอบทำบ้าง
จริง ๆ ผมไม่ใช่คนโรแมนติกสักเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีด้านมืดก็จะไม่เห็นด้านสว่างใช่ไหมครับ คุณต้องไม่โรแมนติกถึงจะโรแมนติกได้ (หัวเราะ) การเขียนเพลงให้ใครสักคนก็โรแมนติกนะครับ ครั้งหนึ่งผมเคลียร์วันของผมเพื่อใช้เวลากับคนที่ผมรัก เธอทำงานและเดินทางเยอะมาก และตอนนั้นผมแทบไม่มีเวลาเลย ผมเลือกที่จะเคลียร์ตารางงานทั้งหมดเพื่อไปอยู่กับเธอสามวัน บางทีนั่นอาจนับว่าโรแมนติกก็ได้
ก้าวต่อไปของ Pamungkas
ผมจะปล่อยไวนิลของ Hardcore Romance และจะมีทัวร์ในอินโดนีเซียเร็วๆ นี้ หวังว่าผมจะได้กลับมาแสดงที่ไทยอีกในปีหน้า
เราทำการบ้านมาว่าคุณค่อนข้างดังมาก ๆ ในอินโดนีเซีย อะไรคือกุญแจสำคัญในความสำเร็จของคุณ
ผมแค่โฟกัสที่ดนตรีเป็นหลักครับ สำหรับผม การเติบโตสำคัญกว่าตัวเลขหรือการเป็นไวรัล ตัวเลขเป็นแค่ผลพวงจากการเป็นไวรัล โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียที่ทุกคนโฟกัสไปที่การเป็นไวรัล แต่ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการเติบโตและซื่อสัตย์ต่อศิลปะของตัวเอง ผมคิดว่าสิ่งอื่นๆ จะตามมาเอง แค่ทำในสิ่งที่คุณรัก
คนไทยอาจไม่คุ้นเคยกับดนตรีอินโดนีเซีย คุณคิดว่าคนอินโดนีเซียมองดนตรีไทยอย่างไร
มันอาจจะมีความแตกต่างในเรื่องของแพลตฟอร์มโซเชียล ไทยใช้ Facebook มากกว่า ในขณะที่อินโดนีเซียอยู่บน Instagram แต่คนในวงการดนตรีอินโดนีเซียรู้ว่า กรุงเทพฯ มีวงการดนตรีอินดี้ที่ทำงานเก่งและเป็นความหวังของซีนดนตรี คนในอินโดนีเซียเองก็ชื่นชอบมือกีตาร์ที่มีความสามารถและสไตล์ที่ไม่เหมือนใครจากไทยด้วยเหมือนกัน
มีคำแนะนำอะไรสำหรับศิลปินไทยที่อยากเชื่อมต่อกับคนฟังในอินโดนีเซียไหม
ติดต่อผ่าน Instagram สิ! DM มาหาผมก็ได้ ผมได้เป็นเพื่อนกับนักดนตรีคนอื่น ๆ ผ่านการคุยกันบนโลกออนไลน์ ผมรู้จัก ก้อง H3F มาสองปีแล้ว ตอนนั้นเราไม่ได้คุยกันเยอะเหมือนเป็นแค่เพื่อนหลังเวทีกัน แต่เราก็สนิทกันผ่าน Instagram และเราก็คุยกันเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรีหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ในที่สุดเราก็เป็นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ดนตรีเชื่อมต่อคนเข้าด้วยกันและมันสวยงามมาก ถึงแม้ว่าจะมีภาษาหรือมุมมองที่ต่างกัน แต่ดนตรีกลับเชื่อมต่อพวกเราให้กันได้ในมิติหนึ่ง ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดเกี่ยวกับดนตรี
มีแพลนจะร่วมงานกับศิลปินไทยบ้างไหม?
สองสัปดาห์ก่อน ก้อง H3F บอกผมว่าเขามีริฟกีตาร์ที่ทำให้นึกถึงผมหลังจากที่เขาฟัง Hardcore Romance และผมก็บอกว่าส่งมาเลย! H 3 F กำลังทำอัลบั้มที่จะปล่อยในปีหน้า และเมื่อวานนี้ผมก็อยู่ในสตูดิโอกับก้องเราแจมกัน หัวเราะกันเยอะมาก และแต่งเพลงด้วยกัน จะมีเพลงหนึ่งที่ผมแต่งและอาจจะร้องด้วย และอาจจะมีอีกก็ได้
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยที่ได้มาดูโชว์คุณหน่อย
ขอบคุณมากครับที่มาร่วมงานกันและทำให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่พิเศษ ผมหวังว่าพวกคุณจะสนุกเหมือนกับผมนะครับ ผมตั้งตารอที่จะได้มาโชว์ที่ไทยอีก หวังว่าปีหน้าจะได้เจอกันนะ!
ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และฟังเพลงใหม่ของ Pamungkas ก่อนใครได้ที่ Instagram และ Website
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา