จากบทสัมภาษณ์ครั้งก่อนที่เราเคยชวนสามหนุ่ม คาโอรุ โคได และไทกิ มาพูดคุยถึงสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ที่ดันใช้ชื่อเดียวกับผลงานชุดแรกอย่าง ‘ヘルシンキラムダクラブへようこそ’ (ยินดีต้อนรับสู่ Helsinki Lambda Club) แต่การกลับมาในรอบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นเฟิร์สไทม์ นอกจากการเดินทางที่พวกเขากำลังจะบินมาเล่นโชว์ที่ประเทศไทยในฐานะศิลปิน แล้วยังได้เล่นถึงสองวันรวดต่อกัน!
และในบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ พวกเขาก็ได้มาเปิดเผยเคล็ดลับการแต่งเพลง ความรักที่มีต่อดนตรีดั๊บและเรกเก้ ตัวละคร Chandler Bing จากทีวีซีรีส์แนวซิตคอมเรื่อง Friends รวมไปถึงความรู้สึกของทั้งสามคนที่จะได้เปิดคลับแห่งความสนุกสนานที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอยุธยา
สมาชิก Helsinki Lambda Club
ฮาชิโมโต คาโอรุ (กีตาร์, ร้องนำ)
อินาบะ โคได (เบส)
คุมะกะอิ ไทกิ (กีตาร์)
เมื่อพูดถึงอัลบั้มล่าสุดของวงอย่าง ‘Welcome to Helsinki Lambda Club’ ในบทสัมภาษณ์ก่อน คุณเคยบอกว่าดนตรีส่วนใหญ่ในอัลบั้มจะให้อารมณ์สนุกสนาน ขี้เล่น แต่ในทางตรงข้าม ด้านเนื้อหากลับเล่าเรื่องความเจ็บปวดในชีวิต ความน่าประหลาดของโลก และความรู้สึกแปลกแยกจากสังคม อะไรบ้างที่ช่วยให้คุณก้าวข้ามสถานการณ์ยากลำบากเหล่านั้นไปได้?
ฮาชิโมโต คาโอรุ: ผมรู้สึกว่า การมีอยู่ของเพื่อนฝูงหรือคนสำคัญที่ใกล้ชิดกัน ตลอดจนความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อผมกับพวกเขาเข้าหากัน ถือเป็นแรงซัพพอร์ตขนาดมหาศาล ตราบใดที่รอบข้างของผมยังถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าเรากำลังเผชิญสถานการณ์หรือความคิดแบบไหน เราก็จะผ่านพ้นมันไปได้ดี ด้วยการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยผมหวังว่าทุกคนจะสามารถบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ หรืออย่างน้อยที่สุด ทุกคนจะเก็บรักษาความสุขไว้ได้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่อาศัยอยู่
แม้ดนตรีของ Helsinki Lambda Club จะจัดเป็น อัลเทอร์เนทีฟร็อก และ โมเดิร์นอินดี้ป๊อป แต่ความชื่นชอบของแต่ละสมาชิกที่ผสมผสานออกมาเป็นผลงานของวงก็ค่อนข้างหลากหลายมาก ตั้งแต่ นิวเวฟ ไซคีเดลิก เซิร์ฟร็อก แอซิดแจ๊ส และ แบล็คมิวสิก เราเลยอยากรู้ว่า คุณมีเคล็ดลับ หรือวิธีการเขียนเพลงในสไตล์ตัวเองอย่างไร? และจำเป็นไหมที่ศิลปินต้องฟังเพลงเยอะ ๆ ?
ฮาชิโมโต คาโอรุ: ผมเริ่มเข้าใจความงดงามของการได้เรียนรู้สิ่งนึงอย่างถ่องแท้เมื่อไม่นานนี้เลยครับ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมตระหนักได้ว่านิสัยตามธรรมชาติของตัวเองคือ การให้ความสนใจใคร่รู้ในทุกสิ่ง และอยากทดลองทำด้วยมือของตัวเอง
การซึมซับเสียงเพลง ศิลปะ และวัฒนธรรมทุกประเภท นับเป็นสิ่งสำคัญ แม้ผมจะมองว่ามัน Applies หรือใช้ไม่ได้กับนักดนตรีทุกคนก็ตาม เพราะสิ่งที่สำคัญจริง ๆ มันไม่ใช่ปริมาณของสิ่งที่กำลังสำรวจ กลับกัน มันอยู่ที่ว่าคุณมีส่วนร่วมหรือความเชื่อมโยงกับสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจอย่างไรมากกว่า
หากพูดถึงแนวทางการแต่งเพลงแล้ว แม้ผมจะได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงใดเพลงหนึ่งมาก่อน แต่สิ่งที่ผมโฟกัสไม่ได้อยู่แค่การแกะท่วงทำนองเท่านั้น ส่วนใหญ่ผมมักจะพยายามจับภาพองค์ประกอบที่เป็นนามธรรม เช่น อารมณ์ ความคิด และ “อุณหภูมิ” มาทำใหม่ ถ้าผมมีความสามารถพิเศษใด ๆ มันน่าจะเป็นความสามารถแห่งการผสมผสานสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ดังนั้น ผมจึงสนุกกับการเล่นแร่แปรธาตุ หยิบจับเอกลักษณ์ แล้วถ่ายทอดมันไปสู่กระบวนการสร้างสรรค์เพลง
อินาบะ โคได: ปกติผมชอบฮัมเพลงและบันทึกเสียงต่าง ๆ ทิ้งไว้ในแอพ Voice Memos แล้วจึงค่อยถอดเสียงหรือหยิบไอเดียที่น่าสนใจมาทำครับ เร็ว ๆ นี้ ผมเพิ่งทำเดโม่โดยใช้ Logic พร้อมอุปกรณ์ และโปรแกรม DAW (Digital Audio Workstation) อื่น ๆ เพื่อสร้างและปรับปรุงใหม่อยู่เรื่อย ๆ
เหตุผลส่วนหนึ่งที่เราพยายามฟังเพลงจากหลากหลายแนวดนตรี เพราะผมเชื่อว่าเพลงดี ๆ สามารถเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของเราได้ นอกจากนี้มันยังมีอิทธิพลต่อสไตล์การเล่นของผมด้วย ดังนั้น ผมมองว่าการฟังเพลงเยอะ ๆ จึงเป็นเรื่องที่ดีต่อศิลปินมาก
คุมะกะอิ ไทกิ: ตอนที่ต้องคิดไลน์หรือโทนเสียงกีตาร์ ผมจะพยายามไม่ฟังเพลงจากเรฟเฟอรเรนซ์มากจนเกินไป เพราะมันมีอิทธิพลและส่งผลต่อความคิดริเริ่มก่อนจะทำงานเพลงออริจินัลของตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า ยิ่งคุณฟังเพลงอย่างเป็นประจำมากขึ้นเท่าไหร่ ไอเดียที่แตกต่างกันก็จะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณมากขึ้นเท่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเห็นด้วยว่า ศิลปินควรฟังเพลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
ฮาชิโมโตซัง คุณเคยบอกเราว่าชอบเพลง ‘Chandler Bing’ ที่สุดในอัลบั้มนี้ด้วย แต่ชื่อเพลงนี้ทำให้เรานึกถึงตัวละครนึงในซิตคอมเรื่อง Friends ไม่แน่ใจว่าทุกคนเคยดูกันหรือเปล่าคะ? ซึ่งคาแรกเตอร์บางอย่างก็น่าจะอธิบายตัวตนของวงได้ดีในแง่ ความตลกเฮฮา ที่บางครั้งก็เอาจริงเอาจัง โดยใช้หนทางการหลีกหนีการเจ็บปวดผ่านการแฮงค์เอาท์กับเพื่อน และยังเข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
ฮาชิโมโต คาโอรุ: Friends เป็นหนึ่งในรายการทีวีที่ผมชื่นชอบมากครับ และปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวละครทุกตัวมีความน่าสนใจหมด แต่แชนด์เลอร์เป็นตัวละครที่โดนเส้นผมมากที่สุด แม้ว่า แมทธิว เพอร์รี่ (Matthew Perry – นักแสดงชายผู้รับบท Chandler Bing) เพิ่งเสียชีวิตอย่างน่าเศร้าเมื่อเร็ว ๆ นี้
แมทธิว เพอร์รี่ ได้แบ่งปันบุคลิก และความยากลำบากของเขาผ่านแง่มุมชีวิตต่าง ๆ ที่เราพอเข้าอกเข้าใจได้ไม่ยาก ผมเชื่อว่าชิ้นส่วนที่เขาสะท้อนออกมา ไม่เพียงแต่มอบความรู้สึกอันลึกซึ้งในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่มันยังเกี่ยวโยงกับแนวคิดของวงที่มีต่อแต่ละเพลง ตั้งแต่ความอ่อนแอ และการดิ้นรนที่ทำให้เราเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ผมรู้สึกขอบคุณ เช่นเดียวกับที่แชนด์เลอร์อยากบอก เพราะทั้งผมและเขายังมีเพื่อนหรือคนสำคัญที่คอยยืนเคียงข้างอยู่เสมอ ไม่ว่าเราจะกล้าลุกขึ้นมาเพื่อบอกความรู้สึก และสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่หรือไม่ก็ตาม
อินาบะ โคได: จริง ๆ ผมยังไม่เคยดูเรื่อง Friends และก็ไม่ค่อยรู้เบื้องหลังตัวละครเท่าไหร่ครับ แต่ผมคิดว่าแชนด์เลอร์มีคาแรกเตอร์บางอย่างที่โดนใจเราจริง ๆ นั่นเป็นเพราะเราให้ความสำคัญเกี่ยวกับ “ความจริงจัง” ในขณะที่ยังมีอารมณ์ขัน ไปพร้อมกับความรู้สึกเพลิดเพลินในระหว่างการทำเพลง
คุมะกะอิ ไทกิ: ผมยังไม่เคยดูเหมือนกันครับ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยากลองนั่งดูสักครั้งนึงนะ
รบกวนช่วยแนะนำเพลงที่ทุกคนฟังแล้วรู้สึกฟีลกู๊ดในฉบับของคุณให้หน่อยได้ไหมคะ?
ฮาชิโมโต คาโอรุ: เคยฟังเพลง PIZZASHAKE กันหรือยังครับ? เป็นเพลงที่มีทั้งบรรยากาศสนุกสนานและสดใส ท่ามกลางจังหวะที่ไม่รวดเร็วเกินไปแต่เร้าใจ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอารมณ์ไหน เพียงแค่เริ่มขยับสะโพกหรือโยกย้าย ผมเชื่อว่าคุณจะไม่มีทางอยู่ในมู้ดที่หดหู่ได้เมื่อลองฟังเพลงนี้
อินาบะ โคได: สำหรับผมเป็นเพลง By My Words เพราะมันเป็นเพลงให้กำลังใจ และยังมหัศจรรย์อย่างมากที่ทำให้ร่างกายของผมเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณทุกครั้งที่ได้ฟังเลย กว่าจะรู้ตัว ก็รู้สึกว่าอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย ลองดูนะครับ ถึงทุกคนจะไม่เชื่อก็ตาม (หัวเราะ) ผมรับประกันเลยว่าเพลงนี้จะทำให้ทุกส่วนโลดเต้นแบบชัวร์ป๊าบ
คุมะกะอิ ไทกิ: การได้ฟัง Mitsubishi Macchiato ขณะออกไปเดินเล่นข้างนอกในวันที่อากาศแจ่มใสจะทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
ในฐานะที่คุณเคยร่วมงานกับ FORD TRIO ในเพลง ‘เปล่าเลย (なんにも)’ และ ‘A Cold Break’ ตอนนี้มีศิลปินไทยคนไหน หรือวงดนตรีไทยวงไหนที่คุณอยากทดลองทำผลงานด้วยกันอีกไหม?
ฮาชิโมโต คาโอรุ: เลือกยากเลยครับ เพราะมีศิลปินไทยหลากหลายชื่อที่ผมต่างรัก และยกย่องในความสามารถของพวกเขา แต่เมื่อช่วงปีที่แล้ว ผมประทับใจกับเพอร์ฟอร์มของ Soft Pine ตอนที่พวกเขามาเล่นในญี่ปุ่น เราเลยอยากแสดงโชว์ด้วยกันสักครั้ง แถมผมยังเป็นแฟนเพลงตัวยงของ Yonlapa ซึ่งผมเคยได้ดูโชว์ของพวกเขาทั้งที่ญี่ปุ่นและก็ในเชียงใหม่ด้วยครับ
ส่วนตัวผมชอบดนตรีดั๊บและเรกเก้มาก ๆ คงจะดีหากมีศิลปินไทยอย่าง INLEGAL LASER, Srirajah Rockers, Rootsman Creation มารีมิกซ์เพลงให้ Helsinki Lambda Club
อินาบะ โคได: ถ้าพวกเราได้ทดลองทำเพลงกับ Yonlapa และ H3F คงจะสนุกไม่น้อยเลยล่ะครับ
คุมะกะอิ ไทกิ: ผมชื่นชอบศิลปินหญิงที่ชื่อ Numcha และมักจะหยิบผลงานของเธอมาฟังอยู่บ่อยครั้ง ถ้ามีโอกาส หวังว่าพรหมลิขิตจะนำพามาให้พวกเราได้ร่วมงานกับเธอสักครั้งนะครับ
นี่ถือเป็นครั้งแรกของ Helsinki Lambda Club ในฐานะศิลปินที่ได้มาเล่นคอนเสิร์ตเดี่ยวในประเทศไทยทั้ง Blueprint Livehouse และยังได้ไปโชว์ถึงอยุธยาที่งาน โฟล์คข้างวัด 5 คุณรู้สึกยังไงบ้าง มีการเตรียมโชว์หรือเซ็ตลิสต์พิเศษมาเซอร์ไพร์สแฟน ๆ ชาวไทยไหม?
ฮาชิโมโต คาโอรุ: ผมหลงรักประเทศไทยมาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนตอนที่ได้มาเที่ยวเป็นครั้งแรกครับ ทั้งความมีน้ำใจของผู้คน จนมาถึงการได้บันทึกเสียงร่วมกับ FORD TRIO มันเป็นความรู้สึกประทับใจที่ยังคงตราตรึงอยู่ เมืองไทยเป็นประเทศที่พิเศษ ผมจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่ได้มาโชว์ที่นี้สักที ผมไม่ค่อยมั่นใจว่ามีชาวไทยรู้จักเพลงของเรากี่คน ถึงอย่างนั้น ผมหวังว่าเราจะได้เล่นดนตรีที่ทำให้ทุกคนอยากลุกขึ้นเต้น และสร้างปฏิสัมพันธ์กันอย่างผูกผัน แม้เป็นเพียงพื้นที่เล็ก ๆ แต่เราก็ตั้งหน้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อเพื่อจะโชว์ออกมาให้ดีที่สุดครับ
คุมะกะอิ ไทกิ: ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ผมชอบ และเป็นประเทศเดียวที่เราทั้งสามคนได้เดินทางไปด้วยกันในฐานะวงดนตรี ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้เล่นดนตรีที่นี้ มีเพลงบางเพลงของวงที่ยังได้รับแรงบันดาลใจจากประเทศไทย เราเลยวางแผนที่จะใส่เพลงเข้าไปในเซ็ตลิสต์ด้วยครับ
อินาบะ โคได: เมื่อประมาณสิบปีที่แล้ว ผมได้มาเที่ยวที่ประเทศไทยพร้อมคาโอรุและไทกิ สถานที่ที่เราเคยไปเยือนคือกรุงเทพฯ และจังหวัดอยุธยาครับ นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้กลับมาแสดงถึงสถานที่เหล่านั้นในปีนี้ ขณะนี้เรากำลังอยู่ระหว่างการทัวร์ในญี่ปุ่น โดยเราทั้งสามคนก็กำลังทุ่มเทไปกับการวางแผนโชว์ และมันจะมีความหมายสำหรับเราอย่างมาก หากแฟนเพลงชาวไทยได้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีอันไพเราะ มามีช่วงเวลาที่ดีไปด้วยกันเถอะครับ!
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist