พลุ ไฟ และไลน์อัพร้อนระอุในเฟสติวัลฮิปฮอปสุดมัน Rolling Loud Thailand วันแรก

by Montipa Virojpan
601 views
Rolling Loud Thailand Day 1 review

Cover photo: Rolling Loud @izzynuzzophoto

Rolling Loud คือเฟสติวัลดนตรีฮิปฮอปยักษ์ใหญ่จากไมอามี สหรัฐอเมริกา ที่ทุก ๆ ปีจะมีศิลปินตัวท็อปมากหน้าหลายตาตบเท้าเข้ามาร่วมแสดง ทุกคนต่างเคยได้ยินกิตติศัพท์ความเล่นใหญ่ของงานที่อัดแน่นทั้งปริมาณโชว์ คุณภาพโปรดักชัน สเปเชียลเอฟเฟกต์ กิจกรรม และเซอร์ไพรส์นับไม่ถ้วนที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด 3 วัน และในปี 2023 นี้เอง Rolling Loud ครั้งแรกของเอเชีย ก็ถูกจัดขึ้นที่ประเทศไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์พอดี ที่ความระอุของไลน์อัปไม่แพ้อากาศบ้านเราเพราะมีทั้ง Cardi B, Travis Scott, Lil Uzi Vert, Jay Park, YOUNGOHM และอีกมากมาย จะมาสร้างความทรงจำสุดมันให้กับทุกคนที่ Legend Siam Pattaya

13 เมษายน 2023

เรามาถึงงานประมาณสี่โมงครึ่งเพื่อดูลาดเลาและสำรวจสถานที่ เมื่อมาถึง Legend Siam ทุกคนจะต้องเดินผ่านตัวอาคารนิทรรศการ แล้วเดินตรงเข้าไปก็เจอบรรดาร้านค้ามากมาย ตรงนี้มีทั้งอาหารและกัญชาจำหน่าย ซึ่งแบรนด์ Frost เขาก็เป็นพาร์ตเนอร์หลักที่ถ้าใครอยากจะ re-entry หรือออกมาจากงานแล้วจะกลับเข้าไปใหม่ ต้องเอาผลิตภัณฑ์ของ Frost มาแสดงให้การ์ดดูเพื่อจะเข้าไปได้อีกรอบ

พอเดินต่อมาอีกหน่อยเราก็จะเจอกับโซนลานกว้างด้านหลัง มีเต๊นท์ตั้งเรียงรายแยกฝั่ง general admission (ต่อไปจะเรียกว่า GA), VIP, VVIP (สามารถเข้า Loud Club ได้), สปอนเซอร์ และสื่อแยกกันชัดเจน ก่อนหน้านี้ทางเฟสติวัลจะเปิดให้เราเอาโค้ดจาก Ticketmelon มาลงทะเบียนบนเว็บไซต์เพื่อให้การแลกรับริสต์แบนด์รวดเร็วขึ้น ซึ่งก็เร็วจริงนะ เพราะพอเราเดินไปที่บูธ แค่เอา QR code ที่ได้หลัง pre-register มาให้สต๊าฟตรงเต๊นรับริสต์แบนด์สแกนก็เดินเข้างานไปได้สบาย ๆ

//แต่อันที่จริงไม่ได้สบายขนาดนั้น ชอบความเข้มงวดของการตรวจริสต์แบนด์ ซึ่งทำให้เราติดปัญหานิดหน่อยเพราะเกือบเข้างานไม่ได้ เรื่องมีอยู่ว่าทางเราได้รับ assigned จากพาร์ตเนอร์ให้ต้องถ่ายรูปคุณภาพสูง ก็คือต้องเอากล้องโปรเข้างาน แต่งานนี้เขาไม่ให้ผู้เข้างานเท่าไปเอากล้องโปรเข้า ต้องเป็นสื่อเท่านั้น ซึ่งบัตรที่ registered มาเป็นบัตร VIP แล้วก็ไม่มีรายชื่ออยู่ใน press list แต่นุเป็นสื่อนะะะะะ ตอนนั้นเลยมึนไปแปปนึง อาจจะเป็นเรื่องการประสานงานที่ตกหล่นไป แต่ตอนหลังท่านก็แก้ปัญหาให้สามารถเอากล้องเข้าได้ สรุปแล้วได้เข้างานประมาณ 6 โมงเย็น พลาดศิลปินที่ต้องไปถ่ายทั้ง Joe Flizzow, ALYPH & SonaOne, SPRITE, GUYGEEGEE แล้วก็เศร้ามาก อดดู OG BOBBY กับแม่ Awich ฮือ ๆ//

หลังจากผ่านการตรวจตัวบุคคลว่าชื่อตรงกับใน RFID หรือเปล่า (RFID คือชิปที่ติดกับตัวริสต์แบนด์ซึ่งเอาไว้เติมเงินเพื่อใช้จ่ายแบบ cashless ภายในงาน ซึ่งหลาย ๆ เฟสติวัลก็ใช้กันแพร่หลายแล้ว แต่งานนี้เขาไม่ให้ refund นะ) พอผ่านด่านนี้ไปก็เจอการแยกฝั่งชายหญิงเพื่อตรวจกระเป๋าและค้นตัวอย่างเข้มข้น เดินต่อเข้ามาอีก ในที่สุดเราก็เข้าถึงตัวงานแล้วทุกคน! แฮ่ก พอเดินผ่านซุ้มประตูคอนเทนเนอร์พร้อมชื่องานไปแล้ว ตรงกลางจะเจอป้ายบอกทางตั้งตระหง่านเป็นนั่งร้านขึงผ้าใบใหญ่ยักษ์ ไม่หลงแน่นอน ส่วนขนาดพื้นที่ในงานแต่ละจุดก็ไม่ได้ไกลกันมาก (เล็กกว่า The Field ที่จัด Wonderfruit ทำให้แอบกังวลว่าถ้าคนมาเยอะจนถึงจำนวน maximum capacity จะเป็นยังไงนะ) ด้านซ้ายมือของเราจะมีแลนด์มาร์ก ชิงช้าสวรรค์ บูธการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรียกว่ากิจกรรมตั้งแต่ก้าวขาเข้างานเลย

ในงานนี้มี 2 เวทีหลัก คือ OKX Stage ที่เป็นเวทีใหญ่ กับ Levi’s Stage ที่ส่วนใหญ่จะเป็นศิลปินเบอร์รองลงมา มีคลับของ VVIP คือ Loud Club ที่จะมีดีเจและสาว ๆ โพลแดนเซอร์คอยเอ็นเตอร์เทน ส่วนบริเวณงานจะแบ่งโซน GA กับ VIP แทบจะครึ่ง ๆ เลย ซึ่งข้อจำกัดด้านระยะการมองเห็น เสียง หรือประเภทอาหารร้านค้า ที่นั่งพักต่าง ๆ ก็ถูกจัดแจงตามราคาบัตรที่จ่ายไปด้วย

ประมาณหกโมงนิด ๆ พระอาทิตย์กำลังคล้อยตก แต่อากาศยังร้อนอบอ้าวแบบที่สามารถดื่มน้ำหมดขวดได้ภายในไม่ถึง 5 นาที ที่ OKX Stage เราก็ไปตามรายชื่อศิลปินที่ได้รับมอบหมาย URBOYTJ ขนเพลงฮิตมาเล่นในเวลา 20 นาทีนิด ๆ (ใช่ค่ะ น่าเสียดายมากที่ศิลปินเล่นเร็วจะได้สล็อตเล่นแค่ประมาณ 4 เพลง) มีทั้ง ‘เป็นได้ทุกอย่าง’, ‘ถามคำ’, ‘เค้าก่อน’ และปิดไปแบบเดือด ๆ ด้วย ‘ซุปเปอร์ไซย่า’ ซึ่งเอาจริงถึงเขาจะต้องเล่นเร็ว ก็มีแฟน ๆ มารอดูและร้องเพลงซัพพอร์ตเขาแน่นหน้าเวทีอยู่นะ ส่วนเราที่วิ่งเข้าไปถ่ายรูปก็เจอกับเบสหนักหูดับเอาเรื่องอยู่ ถึงกับอยากได้ earplugs กันเลย

วิ่งมาที่ Levi’s Stage เพื่อเจอกับแร็ปเปอร์สาวชาวอินโดนีเซีย RAMENGVRL กับลุคซ่า ๆ ที่เคยมามัดใจชาวไทยไปแล้วใน Maho Rasop Experience #2 รอบนี้เธอไม่ได้ลงมาเดินแคตวอล์กในเพลงแฟชัน แต่ก็ฉายประกายเสน่ห์บนเวทีได้ตราตรึง เราไปถึงช่วงที่เธอเพิ่งเล่นจบเพลง แล้วก็บอกกับคนดูว่าเธอจะเล่นเพลงอกหัก แต่จะเป็นเพลงอกหักที่ไม่จำเป็นต้องเศร้า ถึงแม้ว่าทั้งประเทศเธอจะอินกับเพลงช้ำรักฟังแล้วน้ำตาพราก แล้วเพลงนี้มันก็ค่อนข้างจะป๊อปซักหน่อยนั่นคือ ‘Onto The Next’ จากนั้นเธอก็เล่นเพลงใหม่เพลงนึงแบบสับแตก ๆ ไป ก่อนจะบอกว่าเพลงต่อไปเป็นเพลงที่อยากจะมอบให้ทุกคนที่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งนั่นสร้างแรงบันดาลใจให้กับเธอ “ใครอยากจะทำอะไรก็ทำเลย!” นั่นคือเพลง ‘I AM ME’ เราชอบมากเพราะเธอเอาบัตรประชาชนขึ้นจอกันไปเลย

สลับกลับมาที่เวทีใหญ่ กับแก๊งที่หลาย ๆ คนรอคอย Feel GHood Music นำทีมโดย MFBTY แร็ปกรุ๊ปที่ประกอบไปด้วย Tiger JK, Yoonmirae และ Bizzy กับการแสดงที่ไฮป์คนดูตั้งแต่เพลงแรก โฟลวแร็ปไฟลุกกับพลังเอ็นเตอร์เทนทำไรละสายตาจากพวกเขาไม่ได้จริง ๆ แล้วขนเพลงมัน ๆ ทั้ง ‘Bang Diggy Bang Bang’, ‘Angel’ หรือแทร็คเบสหนักอย่าง ‘Buckubucku’ มาเล่นด้วย

จากนั้นก็ได้เวลาสาวแสบขวัญใจมหาชน BIBI เปิดมาด้วยเพลงฮิต ‘The Weekend’ ก็เรียกเสียงเฮกันเลย เธอพูดว่านี่เป็นครั้งแรกที่มาเล่น แต่น่าจะเป็นครั้งที่สองที่มาเที่ยวเมืองไทย โดยบอกว่าชอบที่นี่มาก ๆ เอาใจแฟนเพลงสุด ๆ เสน่ห์เหลือล้นบนเวทีจริง ๆ ก่อนจะเล่นหนึ่งในเพลงโปรดของเธอ ‘Casino’ ต่อด้วยการถามว่า ใครรู้บ้างว่าเพลงโปรโมตอัลบั้ม ‘Lowlife Princess: Noir’ ของเธอชื่ออะไร ก็ได้คำตอบว่าเป็นเพลง ‘BIBI Vengeance’ นั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่าเซ็กซี่มาก ๆ แล้วก็ปิดโชว์ด้วย ‘The Weekend’ Reprise ที่ชวนคนอื่น ๆ ในค่ายกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งก่อนจะบอกลากันไป

จบจากตรงนี้เราขอพักกินข้าว ตรงโซน VIP มีร้านที่เราชอบมาเปิดหลายร้าน หนึ่งในนั้นก็มีร้านอาหารสเปนและทาปาส Vaso ที่ขนเอาปาเอญ่าหรือข้าวผัดสเปนมาขาย มีแบบทะเลกับแบบหมึกดำ อร่อยมาก ๆๆๆ ให้เยอะด้วย แต่ราคาก็ปาดเหงื่อนิดนึง (490 บาท) ส่วนเหล้าก็ราคาแอบแรง Monkey Shoulder ผสมมิกเซอร์ธรรมดา 450 บาท เราเลยเน้นดื่มน้ำกับโซดา สนนราคา 50 บาท เพราะเอาจริง อากาศร้อนมันไม่ทำให้เราอยากเมาเท่าไหร่ เน้นเอาตัวรอดจากอาการขาดน้ำจะดีที่สุด

ประมาณทุ่มสี่สิบห้า เราวิ่งกลับมาที่อีกเวทีเพื่อดูแร็ปสตาร์กัมพูชาอย่าง VannDa ที่เพื่อน ๆ เราบอกว่า คนนี้ตัวท็อประดับประเทศเลย ตอนแรกมาอย่างร็อก ตอนหลังเพลงเขาม่วนมาก น่าจะชื่อ ‘Khmer Gentlemen’ ที่เอาซาวด์พื้นบ้านเข้ามาใส่ คล้าย ๆ ลูดทุ่งสามช่าที่ชาวไทยคุ้นเคย ชอบที่เขาพูดกับคนดูตรง ๆ โดยฝากไปถึงพ่อของเขาว่า ภูมิใจได้เลยนะที่ลูกชายได้ขึ้นมาอยู่บนเวทีนี้ แล้วก็สังเกตว่ามีแฟนเพลงชาวเขมรมาเกาะรั้วเชียร์พร้อมถือธงชาติแบบใกล้ชิดสุด ๆ เพลงสุดท้ายจัดดริลมาอย่างโหด แล้วก็มีกีตาร์โซโล่สด ๆ เล่นคลอไปด้วย เท่มาก

แล้วเราก็วิ่งกลับมาเก็บภาพดูโอ้พี่น้อง Rae Sremmurd ที่เวทีใหญ่ มี Slim Jxmmi และ Swae Lee ที่ดังพลุแตกไปกับเพลง ‘Sunflower’ ที่ทำกับ Post Malone ซึ่งนางก็ใส่บูท MSCHF รุ่น Astro Boy ขึ้นเล่นด้วย turnt ไฟลุก

สองทุ่มยี่สิบห้า A$AP FERG ก็ขึ้นเวที คนนี้ก็ร้ายกาจ เปิดด้วยแบ็กกิ้งแทร็ค big beat เท่มาก ๆ ถ้าได้ยินไม่ผิด ระหว่างนั้นเหมือนมีคนเป็นลมแล้วเขาก็หยุดเล่นให้คนแหวกทางเพื่อเอาคนออกไปด้วย

เกือบสามทุ่มครึ่ง Lil Uzi Vert มาในชุดขาวล้วนสวมหมวก ออร่าจับบนเวที เอฟเฟกต์ไฟร้อนวาบทุกทีที่ลมพัดมาทางคนดู ปลุกไฟในตัวเราให้ลุกโชนไปด้วย ซึ่งเขาก็เล่นเพลงเดือด ๆ ทั้ง ‘Sauce It Up’ ‘Do What I Want’, ‘Wokeuplikethis’* ของ Playboi Carti แล้วก็ ‘Bad and Boujee’ ของ Migos เป็นโชว์ที่สนุกมาก บิลด์ฟีลคนดูเก่งจัด ๆ นี่ขนาดวิ่งถ่ายรูปซ้ายขวายังเพลิน

จนสี่ทุ่ม F.HERO ก็ขึ้นเล่นพร้อมกับศิลปินรุ่นน้อง ขนเพลงฮิตเขามาเล่นทั้ง ‘ยันเช้า’ ‘ยับ’ แล้วก็มีแขกรับเชิญพิเศษ ไบร์ท วชิรวิชญ์ มาแจมใน ‘Sad Movie’ ก่อนจะพูดกับคนดูว่า “แฟนเก่าไม่ได้หายไปไหน ย้ายจากหัวใจ ไปส้นตีน!!!” แล้วเข้าเพลง ‘ลืมเก่ง’ ของ Tilly Bird ต่อด้วย ‘Mirror’ และมี JV.JARVIS มาออกลีลาสุดกวนช่วยร้องเพลงนึง และลากันไปใน ‘RUN THE TOWN’

เหลือบดูนาฬิกาเรื่อย ๆ เพื่อรอ headliner ของวันแรกขึ้นเวที ห้าทุ่มสิบเสียงดังที่เวทีใหญ่ Cardi B ปรากฏตัวพร้อมแดนเซอร์ชุดแดง ส่วนแม่มาในชุดทองอร่าม ลืมชมไปว่างานนี้โชว์ตรงเวลามาก ไม่พลาดแม้แต่นิดเดียวในวันแรก เวิร์ลมาก แล้วกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ต้องหยิกตัวเองหนึ่งที ไม่เชื่อสายตาว่าชาตินี้จะได้ดูแม่จริงนะ จบเพลงแม่ก็ทักทายคนดูว่า “ร้อนโคตรแม่เลย!!! ประเทศนี้แม่งโคตรร้อน ร้อนนี่ภาษาคนประเทศนี้เขาเรียกว่าไงนะะะะ? ช่างแม่งงงงง ร้อนโว้ยยยยย” นี่แปลให้แล้ว ตลกมาก ชอบมาก แล้วแม่ก็เอ็นเตอร์เทนคนดูไม่พัก ต่อด้วย ‘Money Bag’ แล้วเราก็โดนการ์ดขอให้ออกจาก press pit เพราะเหมือนเขาอนุญาตให้มาเก็บภาพช่วง 10 นาทีแรกเท่านั้น

หลังระหกระเหินหาทางออกเพื่อกลับมาโซนคนดูได้ แม่ก็บ่นกับคนดูว่า “เสื้อมันแปก ๆ นี่ว่ามันจะหลุดมั้ยนะ? ทำไงดีอะ” เหมือนแซวจะให้เราตะโกนว่าถอดเลยประมาณนั้น แล้วเล่นไปอีกเพลงก็มีแดนเซอร์เอาเหยือกน้ำมาเทใส่ตัวแม่ ก่อนจะเล่น ‘No Limit’ ของ G-Eazy ที่ in-ear monitor เริ่มมีปัญหาทำให้ร้องเหลื่อมกับแบ็กกิ้งแทร็คไปครึ่งเพลง ก่อนจะกู้กลับมาได้ กับอีกหลายเพลงฮิตที่แม่ไปร่วมแจมก็จับใส่มาใสโชว์จนหมด

ตอนนี้เราไม่สามารถอยู่ดู Cardi B ได้จนจบเพราะกลัวว่าจะหาทางกลับโรงแรมลำบาก คืองี้ วันแรกไม่ได้เอารถมาเพราะกลัวปัญหาที่จอดรถ แต่เอาเข้าจริงมีเหลือเฟือเลยถ้าเอารถมาจะสะดวกกว่า เพราะปรากฏว่า ไม่เอารถมา กลับลำบากกว่าอีก สองแถวจะฟันคุณคนละ 300 มอเตอร์ไซต์ ก็ 300 แกร๊บจะเรียกไม่ได้เลยเพราะเขาจะรอกดรับงานตอนราคาขึ้นไปแล้ว 400 (ขามาประมาณ 200 บาท) สุดท้ายขอพี่วินได้ 200 กลับบ้านอย่างปลอดภัย เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ดูจนจบ แต่ได้ข่าวว่าแม่นั่งจ๋องบนเวที ถอดรองเท้าโยนให้คนดูกันไปเลยตอนจบโชว์

จบไปแล้วสำหรับงานวันแรก ที่ต้องวิ่งเก็บภาพแทบจะทุกโชว์ก็เล่นเอาหอบเหมือนกัน ไว้เดี๋ยวมาต่อตอนหน้าสำหรับวันที่ 2 และวันที่ 3 เพราะงานนี้มันเข้มข้นจริง ๆ เล่าตอนเดียวคงเก็บได้ไม่หมด สวัสดี

+ posts

อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy