หลังจากจบงาน The Greng Jai Gala และประกาศทัวร์ต่างประเทศแบบฉ่ำ ๆ หลายคนก็คิดว่าคงไม่ได้เจอ Phum Viphurit อีกนานเลย
แต่ CD COSMOS ก็คืนความสุขให้กับแฟนคลับภูมิด้วยการชวนภูมิมาทำ Acoustic Session ที่ร้าน โดยให้คนที่เคยพรีออเดอร์ไวนิลภูมิมาร่วมสนุกกัน จนได้ผู้โชคดีมากลุ่มนึงที่จะได้ใกล้ชิดกับภูมิแบบสุด ๆ จะสนุกขนาดไหน COSMOS Voyage วันนี้เก็บความสนุกในวันนั้นมาให้อ่านกันอีกครั้งจ้า
13 สิงหาคม 2566
มีแฟนเพลงมารอกันตั้งแต่ก่อนบ่ายสอง แต่วันนี้มันร้อนจริง ทุกคนโดนแอร์ก็ยมกันหมดแล้ว ก่อนจะค่อย ๆ ทยอยมาจนแน่นร้าน
พอบ่ายสามปุ๊บ Phum Viphurit ก็ออกมาทักทายทุกคน อาจจะเพราะวันนี้หยิบกีตาร์มาคนเดียวเลย อาจจะเกร็งกัน ฮา หลังจากจูนกันแป๊ปนึงก็ดีดเพลง Temple Fair ขึ้นมาเพื่อละลายพฤติกรรมกันก่อน แต่ด้วยความเป็นโซโล่กีตาร์โปร่ง เลยได้โฟกัสสไตล์การร้องสนุก ๆ ของภูมิซึ่งเพลินมาก ได้อีกรสชาตินึงแบบงานวัดจริง ๆ
หลังจบก็เรียกปรบมือเกรียวกราว ก่อนภูมิจะแนะนำงานและบอกว่าตื่นเต้นมาก อาจจะเพราะกินกาแฟไปด้วยเลยแอบใจสั่น ก่อนจะแนะนำให้ทุกคนรู้ว่าเพลงนี้คือได้แรงบันดาลใจจาก มนต์รักทรานซิสเตอร์
ต่อด้วย Loving And Letting Go ที่หวานมาก น้ำเสียงนุ่ม ๆ ของภูมิที่ขยี้อารมณ์ในท่อนฮุกคือเอาตายเลยเวอร์ชั่นนี้ แถมยังเล่าที่มาให้แฟนเพลงฟังว่า เป็นเพลงที่แต่งไว้นานแล้วจากโปรเจกต์ที่ล้มไปของค่ายไทย ก่อนเกาหลีจะขอไปใช้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้ ภูมิเลยหยิบกลับมาทำให้เสร็จลงในอัลบั้มนี้
ก่อนจะต่อด้วย Healing House ที่กีตาร์โปร่งตัวเดียวก็เอาอยู่ เพราะภูมิเก็บเกือบทุกไลน์ในเพลง โดยเฉพาะครึ่งหลังที่อัพบีทขึ้นมาด้วยกลอง แต่ภูมิซัดคอร์ดกีตาร์ได้เท่เหมือนในเพลงเลย แม้แต่ไลน์ร้องก็เก็บอารมณ์ของเพลงไว้ได้หมด ซึ่งภูมิก็เล่าอีกว่า เพลงนี้คือเพลงแรกในอัลบั้มใหม่ ภูมิใช้องค์ประกอบหลักของ drum & bass มาปรับดูให้เข้ากับอัลบั้มดู ก่อนจะต่อด้วย The Greng Jai Piece คือเพลงที่แต่งมาเพื่ออธิบายให้ฝรั่งเข้าใจว่า “เกรงใจ” คืออะไร ที่บรรเลงทุกกรูฟด้วยกีตาร์โปร่งได้แน่นเหมือนเดิม
ภูมิบอกว่าไม่ได้เตรียมเซ็ตลิสต์มา ใครอยากฟังเพลงอะไรขอได้เลย ก่อนจะมีคนบอกว่า Little Blacony ซึ่งเป็นโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ทำกับ Sunset Rollercoaster ภูมิจูนตัวเองแป๊ปนึง ก็จัดให้นุ่ม ๆ แอบติดกลิ่นบอสซ่านิด ๆ ทำเอาทุกคนในร้านต้องโอนเอียงตามเสียงหวาน ๆ ของภูมิไปทั้งเพลง ก่อนจะเล่าให้ฟังว่า Kao นักร้องนำของซันเซ็ตวีดีโอคอลมาชวนทำเพลงด้วยกันช่วงโควิด
ต่อด้วย Welcome Change ที่กดอารมณ์ได้ซึมลึกในครึ่งแรก อาจจะเพราะใช้กีตาร์โปร่งตัวเดียวเลยถ่ายทอดอารมณ์เหงา ๆ ออกมาได้ดีกว่า ก่อนจะตัดจบความเหงา ๆ นี้ไปเลย ซึ่งภูมิก็บอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ภูมิชอบที่สุดด้วย
หลังจากเกา ๆ อยู่แป๊ปนึง ก็จัดไลน์หวาน ๆ ของ Softly Spoken จาก EP Bangkok Balter Club ออกมาเลย แฟนเพลงก็โยกตัวตามจังหวะเพลงทันที ท่อนฮุกคือหวานเยิ้มก่อนจะเก็บท่อนโซโล่ได้แน่น ๆ แล้วท่อนโซโล่ครึ่งหลังที่ใช้กีตาร์ไฟฟ้ากับลูปเข้ามาให้มันกลมกล่อมมากขึ้น พร้อมทั้งอิมโพไวซ์เติมไลน์กีตาร์เข้าไปอีกไลน์ได้นุ่มนวลมาก เวอร์ชั่นนี้คือดีสุด ๆ
ก่อนจะเปิดลูปกลองขึ้นมาพร้อมเกากีตาร์คลอไปเรื่อย ๆ ก่อนจะสับเข้าไปด้วยไลน์นุ่ม ๆ แล้วชวนทุกคนร้องพร้อมกันในท่อนฮุกว่า “Long Gone, Long Gone” ซึ่งแฟนเพลงก็โยกหัวตามและร้องตามได้ทุกฮุกเลย ภูมิก็ยิ่งไฮป์ด้วยจังหวะกีตาร์ที่เข้มข้นขึ้น เก็บทุกกรูฟในโซโล่ได้สนุกมาก ก่อนภูมิจะขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้และสนับสนุนแผ่นเสียงของเขา แม้เลยเวลาแล้ว แต่ยังไงก็ยังมีอีกเพลงที่ทุกคนอยากฟังใช่มั้ย
ภูมิก็ก็เกากีตาร์หวาน ๆ ขึ้นมาด้วยท่อนฮุกของ Lover Boy แบบบันลาดหน่อย ๆ ก่อนจะซัดอินโทรที่ทุกคนคุ้นเคย แฟนเพลงก็ร้องตามตั้งแต่ท่อนแรก ก่อนจะโยกตัวกันรัว ๆ ไปตลอดทั้งเพลง สนุกทุกฮุกเหมือนเดิมเลย เรียกเสียงปรบมือในตอนจบได้เกรียวกราว
หลังจากนั้น ทีมงานก็จัดแถวเรียกคิวให้แฟน ๆ ทุกคนต่อคิวขอลายเซ็นต์จากภูมิ เต็มไปด้วยบรรยากาศน่ารัก ๆ พร้อมได้ถ่ายรูปหมู่กับภูมิด้วย ซึ่งก่อนจบงานทุกคนก็พร้อมใจร้องเพลง HBD ให้ภูมิส่งท้ายเพราะใกล้วันเกิดแล้วด้วย ก็จบไปแบบอิ่มใจกันทุกคนเลย
ติดตามกิจกรรมสนุก ๆ ที่กำลังจะตามมาในร้าน CD COSMOS ได้ที่ Facebook และ Instagram
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา