Peach Pit วงดนตรีสี่ชิ้นฝีมือร้ายกาจจากประเทศแคนาดา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ “วงดนตรีสี่ชิ้นเคี้ยวหนึบ” หรือ “Chewed Bubblegum Pop” ที่พวกเขาเคยได้นิยามตัวเองเอาไว้ ซึ่งเป็นการนิยามวงดนตรีที่ถูกใจเราเอาซะมาก ๆ เพราะมันไม่ได้เลอะเทอะหรือเกินจริงเลย ด้วยการประพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของ arrangement หรือ เนื้อหาของเพลงที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป และแนวคิดการรวบรวมองค์ประกอบระหว่างซาวน์กีต้าร์ที่แอบย้วย ชวนโยก เสริมด้วยพาร์ทริทึมที่ตรงไปตรงมา มันให้ความรู้สึกสดชื่นและหนุบหนับไปพร้อม ๆ กันอย่างบอกไม่ถูก ก่อให้เกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้
นับตั้งแต่ปี 2018 ที่ทีมผู้จัดอย่าง HAVE YOU HEARD? ได้พา Peach Pit มาโชว์เป็นครั้งแรกที่ About Studio จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว สารภาพตรง ๆ ว่าเราเองตั้งหน้าตั้งตารอ หวังที่จะได้ดูโชว์ของพวกเขาแบบสด ๆ สักครั้งมาตลอด (เพราะรอบที่แล้วเราพลาด) และแล้ววันนี้ก็มาถึงจนได้ กับงาน #HYHBKK Live with Peach Pit ซึ่งในครั้งนี้ ก็ได้ Opening Act อย่าง Door Plant วงดนตรีไทยอินดี้ไฟแรงที่นำเสนอดนตรีแนว Surf Pop เข้ามาช่วยเติมเต็มให้โชว์นี้เป็นอีกโชว์ที่น่าจดจำสำหรับใครหลายคน
24 กรกฎาคม 2567
เรากับเพื่อนเดินทางมาถึง Voice Space ประมาณ 2 ทุ่มตรง ซึ่งเป็นเวลาขึ้นแสดงของ Door Plant พอดี นึกขึ้นได้อย่างนั้นเราก็รีบเดินตรงดิ่งเข้าไปในงานทันที ในใจแอบคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่น่าจะมาช้าหรือฉิวเฉียดคล้ายกันกับเราเพราะวันนั้นมันเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ภาพที่ได้เห็นหลังจากเดินเข้าไปในฮอลคือมีผู้ชมยืนเรียงกันหนาตากว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก ครั้งนี้พวกเขาหยิบเพลงจากสองอัลบั้มล่าสุดอย่าง PoP!? Plant และ Drowsiness of DOEK มาเล่นเป็นหลัก แต่ก็มีผสมปนกันกับเพลงคุ้นหูจากอัลบั้มอื่น ๆ ด้วย อย่าง ขอให้เธอ, I’m sorry to being bored of your loveliness และเพลงน่ารัก ๆ ฟังง่าย อย่าง Strawberry Jam ถือว่าเรียกน้ำย่อยให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ผู้ชมในฮอลค่อย ๆ ทยอยกันลุกขึ้นยืน ตามมาด้วยเสียงเฮต้อนรับดังสนั่น Peach Pit เองก็พากันเดินขึ้นเวทีมาประจำตำแหน่ง ซึ่งครั้งนี้แอบเห็นว่าวงมีสมาชิกทัวร์เพิ่มมาด้วยอีกคน ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายกัน Intro ของเพลงแรกก็เริ่มเล่น เป็นการเล่นคัฟเวอร์เพลง Raining Blood (Original by Slayer) แอบเซอร์ไพร์สเบา ๆ วันนี้ต้องสนุกแน่ ๆ ต่อกันด้วยสองเพลงติดหูจากอัลบั้ม Being So Normal มาทั้ง Being So Normal, Techno Show มีเพลงน่ารัก ๆ อย่าง Peach Pit อยู่ในครึ่งแรกของเซ็ทด้วย
ก่อนจะไปกันต่อกับเพลง Magpie เป็นเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อย และเพลง Psychics In LA เพลงนี้เราว่า arrangement ดีอยู่แล้ว การสลับ Time Signature ไปมา ทำเอาเราละหูละสายตาไม่ได้เลย ส่วนอีกเพลงนึงที่เรียกเสียงเฮได้ไม่แพ้กันก็คือ Give Up Baby Go เพราะเล่น Outro เป็นริฟกีต้าร์คุ้นหูจากเพลง Hotel California และปิดท้ายด้วยเพลง Tommy’s Party จบโชว์ไปแบบอิ่มเอม
ต้องบอกว่าตลอดโชว์ Neil Smith ทำหน้าที่ฟรอนต์แมนได้ดีมาก รวมถึงเพื่อนสมาชิกคนอื่น ๆ ก็ด้วย ที่ทำให้โชว์นี้ออกมาสนุกและเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น ๆ ตลอดทั้งโชว์ แต่ยังไม่จบแค่นี้ เพราะมีอังกอร์ต่อสามเพลงสุดท้าย Hot Knifer, Seventeen และ Shampoo Bottles รวมทั้งหมด 21 เพลงด้วยกันที่วงขนมาโชว์ให้เราได้ชมกัน ส่วนตัวเราคิดว่าเรียง Setlist มาค่อนข้างดี Transition ระหว่างเพลงก็ลื่นหู ต้องบอกเลยว่าเป็นโชว์ที่ดูเพลินมากจริง ๆ
สำหรับใครที่พลาดโอกาส ไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ เราอยากให้ลองหาโอกาสไปคอนเสิร์ตอื่น ๆ ของทีมผู้จัด HAVE YOU HEARD? ดูสักครั้ง เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะได้รับประสบการณ์ในการดูคอนเสิร์ตที่ดีและสนุกกลับไปแน่นอน