การโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของพี่น้องสายป็อปฟังก์สองสัญชาติ กับงาน H3F x Pamungkas (พามุงกัส) ซึ่งจัดขึ้นที่ DECOMMUNE หลังจากสองปีที่แล้ว ทั้งสองคนได้มาเล่นด้วยกันครั้งแรกซึ่งหลายคนคงจำความเข้ากันของโชว์ทั้งสองคนได้อย่างดี และรอบนี้ที่ทั้งคู่ต่างมีอัลบั้มใหม่ที่ซาวด์ดนตรีเองก็เติบโตขึ้นในแบบของตัวเอง แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่ทิ้งไลน์กีตาร์เข้ม ๆ ที่ทั้งสองคนเคยเล่นด้วยกันไป ทำให้โชว์เมื่อคืนนี้พิเศษมาก ๆ
10 ตุลาคม 2567
เรามาถึง DECOMMUNE ตั้งแต่ 5 โมงเพราะกลัวฝนตก แล้วฝนก็ตกหนักมาจริง ๆ จนวงต้องเลื่อนเวลาเล่นออกไปเป็น 20:30 เพื่อรอให้คนมาทันโชว์แรกโดย Pamungkas เลยทำให้ทุกคนมีเวลาจับจ่าย Merch กันเต็มที่ ซึ่งของทั้งสองวงก็ขายดีมว๊ากกกกก เห็นแล้วดีใจแทนศิลปินสุด ๆ
สองทุ่มครึ่งปุ๊บ Pamungkas ก็เสียงดังทันที เหมือนอัดอั้นมาก เปิดด้วย Riddle of the Night จากอัลบั้มล่าสุดเลย ที่ซัดความเป็นร็อกแอนด์โรลเข้ม ๆ ใส่เราทันที คืนนี้สนุกแน่นอน ก่อนจะสลับมาจังหวะช้า ๆ ซึ้ง ๆ กับ Jealousy ท่อนดรอปที่ร้องว่า “I’m not the only one” คือโคตรเท่ กีตาร์คือโรแมนติกดี I Dont Wanna Be Alone ก็ดึงจังหวะบลูส์เข้ม ๆ ขึ้นมาได้เซ็กซี่มาก ค่อย ๆ นวดเราด้วยไลน์กีตาร์เท่ ๆ จนหน้าบี้ตาม
จบไปสามเพลง วงก็ทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมเปิด google translate เป็นภาษาไทยยาวเลย ใจความสำคัญคือดีใจที่ได้เจอแฟน ๆ ชาวไทยอีกครั้งหลังจากสองปี วันนี้เขากลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ Hardcore Romance และเพลงต่อไปชื่อว่า New Feeling ที่การเปิดใจให้กับใครทำให้ชีวิตดีขึ้น อาหารอร่อยขึ้น อยากให้ทุกคนจับมือคนที่มาด้วยกันวันนี้ไว้ แสดงถึงความรักโดยไม่ต้แงพูดอะไร
Pamungkas ก็ร่ายเสน่ห์เหลือล้นในเพลงนี้ให้ทุกคนฟัง ด้วยไลน์กีตาร์นุ่ม ๆ ท่อน bringe ก่อนฮุกสุดท้ายคือหวานหยาดเยิ้มสุด ๆ ต่อด้วย I Love About You ที่ดนตรีก็น่ารักไม่แพ้กัน
ก่อนจะพูดว่า translate time!! สวัสดีอีกครั้ง เน้น 5555 แบบการหัวเราะของไทยด้วย เขาบอกชื่ออีก 2 เพลงที่รออยู่ พร้อมบอกว่าความดังมีผลกระทบกับชีวิตของเขามาก เพราะโลกโซเชียลจะพูดอะไรก็ได้ จึงเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันด้วยสองเพลงนี้ เริ่มที่ Birdy ที่มานุ่ม ๆ แต่ท่อนฮุกก็ใส่ลูกฟังก์ได้น่ารักดีตัดกับเสียงร้องเซ็กซี่ได้ดี Begin Again บลูส์เข้ม ๆ แต่มันกลับหวานขึ้นด้วยกีตาร์และน้ำเสียงของ Pamungkas เอง ท่อนฮุกที่จังหวะโคตรสนุกจนหยุดโยกหัวตามไม่ได้ ช่วงฮุกสุดท้ายก็พาทุกคนเลยจุดพีคไปเลย
translate time again เพลงต่อไปก็ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่มาเจอกับเขาทั้งสองครั้ง และทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมา ก่อนจะจัด To The Bone ทำเอาทุกคนต้องเสียงกรี๊ดร้องสุดปอด พร้อมโยกย้ายร่างกายไปกับจังหวะดนตรีของเพลงนี้ได้สนุกสนาน Fight Some More เองก็มีไดนามิกที่ดีที่ในช่วงแรกเป็นบันลาดเท่ ๆ ที่ให้พามุงกัสได้โชว์เสียง และครึ่งหลังก็ใส่เครื่องดนตรีเข้าไปให้ครบเครื่อง พร้อมแถม Be Okay Again Today ใครกับคนที่กำลังผ่านช่วงยากลำบาก พร้อมด้วยดนตรีทรอปิคอลได้น่ารักมาก
One Bad Day เพลงแรกของอัลบั้มใหม่ ซึ่งเราชอบมาก ในการบาลานซ์ความป็อปกับความร็อกได้ลงตัว Break It ก็ไต่ความสนุกจนฮุกสุดท้ายโคตรพีค พร้อมใส่เต็มทุกชิ้น Live Forever ก็เป็นความนุ่มที่เข้าถึงอารมณ์สุด ๆ
ก่อนพามุงกัสจะเปิด translate อีกครั้ง ว่าการทำเพลงช่วยย้ำว่าพวกเขารักเสียงดนตรีแค่ไหน ก่อนจะแนะนำสมาชิกทุกคนพร้อมเสียงปรบมือเกรียวกราว แล้วซัดเพลงสุดท้ายอย่าง Let Me Cry สัมผัสได้ถึงพลังตั้งแต่ท่อนแรก ก่อนจะสลับจังหวะสนุก ๆ ในท่อน bringe ได้สวยมาก outro คือใส่กันสุดตัวทุกคน จบโชว์ไปอย่างสวยงามมาก
อดใจรอไม่นาน H3F ก็ตามขึ้นมาสร้างความสนุกกันต่อเลย วอร์มร่างกายคนดูด้วย Chalawan Funk ที่กรูฟโดดเด้งสุด ๆ ต่อด้วย ซึ่งทุกคนก็โยกหัวกันอย่างมัน ต่อด้วย It’s Alright หวานเยิ้มชวนยิ้ม แล้วกระชากอารมณ์เซ็กซี่เบา ๆ ด้วยจังหวะโซลกับ So Long ทันที แล้วพาทุกคนดิ่งลงดนตรีนุ่ม ๆ ด้วย Get Back ต่อเลย
ซึ่งวงก็เล่น Be Your Man ต่อเลย แต่ก้องก็แอบลืมเนื้อไปท่อนนึง ได้ไปหนึ่งฮา แต่เสียงทรอมโบนคือขี้เล่นได้ใจ แล้วจัดอีกหนึ่งเพลงฮิตอย่าง How Can I ให้แบบนุ่ม ๆ เลย intro เพลง You ขึ้นมาทุกคนก็กรี๊ดเลย ซึ่งก้องก็ให้แม็กมือกลองร้องแทน แม้จะเขินนิด ๆ แต่ก็พอไปได้ ก่อนก้องจะซัดเต็มเพลง มีทรอมโบนช่วยเติมอารมณ์ได้โคตรอิ่ม พร้อม Catwalk ที่ลูกกรูฟถึงใจมาก ก้องหน้าบี้ยังไงคนฟังก็หน้าบี้ตามกันหมด
ก้องก็ประกาศว่าจะเล่นเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อย โดยให้ชื่อว่า New song ก้องบอกมันน้า ๆ โจ๊ะ ๆ หน่อย intro ขึ้นมาคือโคตรดิสโก้ เครื่องเป่าคือทำหน้าที่ได้โคตรดี ทั้งท่อนดรอปท่อนโซโล่คือสั่งให้เราโยกตามเต้นตามหมด เท่มาก ๆ แล้วทั้งสี่คนก็แจมกันอย่างเอามัน เรียกเสียงกรี๊ดตามกรูฟได้อย่างคึกคัก ทั้งสี่คนก็ผลัดกันโซโล่แบบถึงเครื่อง แล้วแม็กก็ fade in ธรรมชาติเข้า Cultivation ฮุกสองก็ขยี้อารมณ์สุด ๆ จนทำให้ท่อนโซโล่หน้าบี้ไปตาม ๆ กัน ท่อนแร็ปก้องก็จัดให้ได้ ก่อนจะเร่งจังหวะในช่วงสุดท้ายจนทุกคนเต้นบ้า พร้อมเพิ่มจังหวะเข้าไปแบบไม่ให้หยุด
ก่อนจะไปถึงเพลงสุดท้าย ก้องก็แนะนำสมาชิกทุกคนในวงอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเชิญ Pamungkas มาแจมในเพลงสุดท้ายกับ Ain’t Coming Home ทั้งสองคนก็อิมโพไวส์แจมกีตาร์กันอย่างจารย์ ต่างคนต่างผลัดกันจัดไลน์กีตาร์เข้ม ๆ มาอวดกัน ก้องก็กด intro เพลง บัวลอย ลงไป คนไทยขำ ทั้งสองก็ยังแจมกันอย่างเข้ม หน้าบี้แข่งกัน
หลังจบเพลงก็ไฮป์กันขึ้นมาอีกรอบด้วยจังหวะร็อกแอนด์โรล แล้วทั้งวงก็ลุยกับ Pamungkas อย่างซิ่ง ก่อนจะขยับจังหวะไปบริทร็อกเท่ ๆ แล้วกลับลงมาเป็นบลูส์หนึบ ๆ ก่อนจะ outro ไปอย่างสวยงาม เรียกเสียงปรบมือกึกก้องไปทั้งฮอลล์
หลังจบแล้ว ทั้งสองวงก็ออกไปเปิดโต๊ะแจกลายเซ็นต์กันต่อ เรียกว่าเอาใจแฟนเพลงสุด ๆ กับ H3F เนี่ยดีตามมาตรฐานแน่นอน แต่กับ Pamungkas ที่เราบอกเลยว่าดีกว่าครั้งก่อนมาก ๆ รวมถึงเพลงจากอัลบั้มใหม่ของเขาก็ทำให้ยิ่งเห็นถึงความสามารถทางดนตรีและความทุ่มเททั้งร่างกายและจิตใจ ที่ร้องบลูส์ร็อกแอนด์โรลได้ชั่วโมงครึ่งโดยที่พลังไม่แผ่วเลย อยากให้เขาแมสในไทยมาก อยากให้คนไทยหันมาฟังศิลปินอินโดมากขึ้นเหมือนกัน
ซึ่งเรารู้จากทั้งสองวงว่าเพิ่งไปเข้า Session กันมาด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นซิงเกิลหรืออะไร ก็ฝากติดตามทั้งสองวงต่อไปด้วย รวมถึงบทสัมภาษณ์กับ Pamungkas ของทีมคอสมอสด้วย เร็ว ๆ นี้แน่นอนจ้า
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา