Story: Montipa Virojpan
Photos: Labyrinth Record
Have You Heard? กลับมาอีกครั้งในไลฟ์โชว์แรกแห่งปี 2023 ด้วยการชวน Black Lips วงการาจพังก์สุดดิบจากแอตแลนตากลับมาเล่นที่บ้านเรา พวกเขาเคยมาเยือนเมื่อปี 2012 และสร้างปรากฏการณ์ความมันจนเป็นที่เลื่องลือ เราที่ไม่ทันรอบนั้นก็ได้โอกาสพิสูจน์ความสนุกด้วยตัวเองที่ De Commune เมื่อวันเสาร์แห่งชาติที่ผ่านมา (เพราะอีเวนต์ก็ชนกันระเบิดระเบ้อ) โดยมีวงเจ้าบ้าน Dara Rasmi อุ่นเครื่องด้วยเพลงไซเคเดลิกสุดเท่ให้โยกกันก่อน
18 มีนาคม 2566
ตอนที่ HYH? ประกาศว่าจะจัดที่ De Commune ความรู้สึกตอนที่รู้คือตื่นเต้นมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้ดูวงที่ชอบทั้งสองวงสด ๆ สถานที่ก็เข้ากับงานแบบสุด ๆ ด้วยเสน่ห์บางอย่างของไลฟ์เฮาส์ที่ดูดิบ ย้อนยุค และขลังนิด ๆ เพราะเดิมทีก็เป็นที่ตั้งของแจ๊สบาร์ชื่อ Brownsugar (ตอนนี้ย้ายไปซอยนานาเยาวราชแล้ว) และตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า ดูเก๋าเข้ากับคาแร็กเตอร์ของวงทั้งสองแบบไม่มีที่ไหนเหมาะไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
งานเริ่มเลทกว่าเวลาประมาณ 20 นาทีเพราะคนดูยังบางตา คาดว่าเพราะการจราจรติดขัดทั่วกรุงเทพ ฯ กว่าเราจะเอาตัวเองมาถึงที่ได้ก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน แต่แล้วคนก็ตบเท้าเข้ามาในร้านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ วงร็อกเจ้าบ้านนำทีมโดย ตั้ม โตคิณ แห่ง จับหูชนปาก ขึ้นเวทีพร้อมด้วยสมาชิกใหม่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาทั้ง ทิว La Nuit มนุษย์ไซเคเดลิกสายแข็งที่มาช่วยคอรัสและเล่นเพอร์คัสชัน รวมถึง กล้วย จริญตนาใก ที่หลังจากซึมซับรสพระธรรมได้หลายปี ก็หวนคืนสู่สังคมมาออกลวดลายเบสพิฆาตร้อยวงของเขาอีกครั้ง ผู้ชมสนุกไปกับดนตรีเข้มข้นของ Dara Rasmi กันตั้งแต่เริ่ม เปิดมาด้วยเพลงสุดหน่วง ‘ในจักรวาล’ สารตั้งต้นของความเมามายแห่งค่ำคืนนี้ถูกเร่งปฏิกิริยาต่อในเพลง ‘หมื่นพันปีแสงในตำนาน’ จังหวะสนุก ๆ ที่เริ่มมีคนดูกระโดดตาม ท่อนดรอปที่สับขาหลอกคิดว่าเพลงจบแล้ววนกลับมาด้วยดนตรีสุดเร้าให้เราได้ดิ้นกันอีกรอบ เป็นไดนามิกที่พุ่งพล่านก่อนจะส่งเข้าโซโล่เบสที่สะกดการรับรู้ไว้ได้ชั่วขณะ จากนั้นก็บรรเลงเมโลดี้สว่าง ๆ ร้องตามได้ใน ‘ฉันคือรถไฟ’ จากนั้นจึงพาดำดิ่งเข้าสู่เรื่องลึกลับชวนผวาของ ‘โรงแรมปีศาจ’ แล้วค่อยพาไปสนุกสนานใน ‘เริงราตรี’ บอกเลยว่าเพลงที่เพิ่งปล่อยไปนี้เอามาเล่นสดได้สนุกมาก ๆ ยิ่งช่วงท้ายที่กลองรัวขึ้นทำเอาบ้าไปเลย
จบเพลงนี้ ตั้มบอกว่าเหลืออีก 3 เพลงก่อนที่เราจะได้ไปพบกับวงถัดไป พวกเขาเล่นเพลงร็อกอัปบีตที่สนุกมาก ๆ อีกเพลงชื่อ ‘เงินกับงาน’ ที่บิลด์พลังงานให้เราคึกยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเปลี่ยนสีสันดนตรีด้วยซาวด์อิเล็กทรอนิกอินดี้แดนซ์ เบสไลน์สุดเพลินในเพลงที่เราไม่เคยฟังพวกเขาเล่นสดมาก่อนใน ‘Mirage’ ที่เท่มาก ๆ และปิดท้ายด้วย ‘สัญญาณ’ เพลงเมโลดี้สุดไพเราะแต่เอเนอร์จี้ทำลายล้าง เมื่อสมาชิกเริ่มลงไปดิ้นพล่าน บ้างก็ปีนกลองปล่อยพลังกันเฮือกสุดท้าย จบโชว์ไปอย่างสวยงามและเชื่อว่าวงได้กวาดแฟนเพลงใหม่ ๆ ทั้งไทยและต่างชาติไปได้เพียบอย่างแน่นอน
ระหว่างที่รอ transition เราก็วิ่งขึ้นไปที่คลับด้านบนแล้วจอย ๆ กับ resident djs ซึ่งวันนี้เป็นคิวของแก๊ง XTC ประกอบไปด้วย Bunnyman, Vaanbkf และ Sweed หวดเทคโน เบรกบีต บิ๊กบีตกันแบบไม่ปรานีหูกันเลย ถึงเครื่องมาก ๆ
จนถึงเวลาที่ Black Lips จะขึ้นเวที เราก็วิ่งกลับลงมาด้านล่าง ต่อแถวซื้อดริงก์ 1 แถม 1 แล้วรีบแทรกตัวไปหน้าเวที เสียงเฮและปริมาณแน่นหนาของคนดูได้บิลด์อุณหภูมิความสนุกกันตั้งแต่โชว์ยังไม่เริ่ม วงซัดกันที่เพลงแรก ‘Slime and Oxygen’ ส่งเสียงร้องโหยหวนและกีตาร์พุ่งพล่าน กับคนดูต่างชาติที่เริ่มโดดกันเอาเป็นเอาตาย ต่อด้วยเพลง ‘Holding Me Holding You’ เพลงคันทรีน่ารัก ๆ ที่คงไม่มีอะไรอธิบายได้ดีไปกว่าคำว่า ‘โคตรจะ southern’ แล้วแปลกมากที่ปกติเราจะไม่ค่อยฟังเพลงแนวนี้เท่าไหร่ แต่พอได้ฟังแบบสด ๆ แล้วมันกลับเป็นแนวเพลงที่สนุกมาก ๆ แนวนึง จากนั้นก็ดรอปความเร็วลงมาหน่อยใน ‘Boomerang’ คนดูก็โยกกันสบาย ๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มกันไป จบเพลง ก็มีคนดูท่านหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “Make some noise!” แน่นอนก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเมื่อพวกเราร้องเฮกันคอแตก วงเริ่มละเลงเพลงร็อกแอนด์โรลสุดสนุก ‘Modern Art’ พร้อมกับสปอตไลต์สาดแสงมาจากเวทีอย่างตื่นตาทำให้เสียงคนดูลั่นกันอีกระลอก เพลินกันต่อในโฟล์ก ‘Georgia’ ที่นำเสนอกลิ่นอายบ้านเกิดของพวกเขาอย่างเข้มข้น แล้วจึงเป็น ‘Angola Rodeo’ ร็อกแอนด์โรลอีกเพลงที่จังหวะน่ารัก ๆ ช่างเชื้อเชิญให้ทุกคนขยับร่างได้ไม่ยาก
วงพักทักทายทุกคน “How are you tonight Bangkok?” พร้อมเสียงตอบกลับดังฟังชัดจากคนดู ไม่นานพวกเขาก็เล่นเพลงคัฟเวอร์ของ The Velvet Underground ชื่อ ‘Get It on Time’ ที่ Zumi วางแซ็กโซโฟนแล้วมาขึ้นร้องอย่างเฉิดฉาย แต่หลังจากนั้นจู่ ๆ ทุกคนก็เหมือนเครื่องติด วงเล่นเพลงมัน ๆ ‘Cold Hands’ และเกิดเป็นวงมอชย่อม ๆ ก่อนจะขยายใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว เพลงต่อมาวงให้เราพักหายใจกันในเพราะเพราะ ๆ ‘Stolen Valor’ (แน่นอน ตั้งแต่เพลงนี้และนับไปอีกสี่เพลงคือเราไปชุลมุนอยู่ในมอชพิต ที่ชอบใจคือมีสาว ๆ มาร่วมแท็กเคิลกันแบบไม่กลัวเจ็บตัวเยอะมาก) แล้วเราก็โดดกันต่อกับ ‘Family Tree’ และปะทุกันไปเลยใน ‘Stranger’ แทร็คพังก์สุดมันที่ทำเราเป็นบ้าอีกรอบ แล้วก็ยังไม่หยุดกับเพลงซาวด์ไอแดดร้อนระอุใน ‘Tongue Tied’ เล่นเอาเราเหนื่อยหอบ
ตอนนี้เองที่พวกเขาพักเบรกและขอบคุณที่ออกมาเจอกันในคืนนี้ และนี่เป็นเพลงจากอัลบั้มใหม่ ‘Apocalypse Love’ นั่นคือ ‘Lost Angel’ ที่ Zumi ร้องได้เท่ไม่ไหวอีกแล้วววว ต่อด้วย ‘Love Has Won’ ที่คนก็ผลัดกันเซิร์ฟต่อเนื่องทั้งชายหญิง ตามด้วย ‘Dirty Hands’ ซึ่งในเพลงช้าเมโลดี้น่ารัก ๆ นี่ก็ยังมีสาวคนนึงปีนขึ้นไปบอดี้เซิร์ฟกันเว้ยพวกแก สะใจมาก แล้วจึงเป็นเพลง ‘Hooker Jon’ และ ‘Gentleman’ ให้พักหูก่อนที่วงจะลงจากเวทีไป
เสียงปรบมือต่อเนื่องพร้อมคนตะโกนร้องเรียกวงกึกก้อง ทำให้ Black Lips ทยอยขึ้นมาบนเวทีในเพลง ‘O Katrina!’ ที่จู่ ๆ ไมค์ก็เกิดมีปัญหาเสียงไม่ออก แต่คนดูก็ช่วยร้องและตบมือให้กำลังใจศิลปินทำให้ไวบ์ตรงนั้นอบอุ่นขึ้นมาก ๆ แล้วตอนหลังทุกอย่างก็กลับเป็นปกติ สมาชิกกลับมาครบวง และปิดท้ายไปด้วยเพลงดังของวงอย่าง ‘Bad Kids’ ที่ทุกคนตรงนั้นน่าจะอายุใกล้สามสิบหรือเกินกว่าได้รู้สึกกลับมาเป็นเด็กซนกันอีกครั้ง
อยากให้ทุกคนนึกภาพตาม เวทีไม่ได้สูงมากทำให้ระยะห่างของวงและคนดูมีเพียงนิดเดียว นั่นจึงทำให้วงสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูได้ใกล้ชิด สายตาทุกคู่ของผู้ชมจับจ้องไปเบื้องหน้าและปากตะโกนร้องเพลงที่ทุกคนร้องได้ ถ้าร้องไม่ได้ก็ตั้งใจเต้นแบบไม่รู้เหน็ดเหนื่อย หรือถ้ามีใครล้มลงไปจากการมอชก็จะช่วยกันดึงขึ้นมาในทันที สิ่งต่อไปนี้อาจฟังดูไม่ได้พิศมัยสำหรับบางคน แต่พื้นเหนียวเบียร์กับเนื้อตัวชุ่มเหงื่อของทั้งเราและคนรอบข้างที่รับส่งพลังงานกันมันไม่รู้สึกน่าแหยงสักนิด มันกลับเป็นเครื่องยืนยันว่าเรากำลังมีชีวิตที่โคตรจะแฮปปี้อยู่ในปัจจุบันขณะ ร่วมไปกับคนอีกเกือบร้อยชีวิตที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน มันจะมีอะไรที่ดีไปกว่าความรู้สึกนี้อีก เป็นโชว์แรกของปีที่ทำให้เราได้เติมไฟ และพาเราย้อนวัยไปในเวลาสุดสนุกที่หน้าที่และความรับผิดชอบยังไม่กัดกินเราเท่าไหร่
ในช่วง after party ก็สนุกไม่แพ้กัน เมื่อ DJ Zombie หรือ แป๋ง Yellow Fang ที่ก็เป็นแม่งาน ร่วมกับ DJ Panlert หยิบคอลเล็กชันแผ่นเสียงมาแบ่งปันให้เราได้เต้นไปด้วยกัน มาหมดทั้ง Gorillaz – Andromeda, เบิร์ด ธงไชย – เสียดาย, Glass Candy – Warm in the Winter, Mariya Takeuchi – Plastic Love ใครอยากฟังเพลงวาไรตี้พลางจิบ fermented drinks สุดอร่อย เชิญแวะไปได้ที่ Entertainment Project รับประกันความบันเทิงสมชื่อ
ขอบคุณ Have You Heard? ที่ทำให้เกิดความมหัศจรรย์นี้ นี่คือคลับโชว์ที่เราโหยหามาตลอดเพราะรู้สึกว่าไม่ได้สัมผัสมันนานมากแล้ว ย้อนไปเมื่อเกือบ ๆ สิบปี (หรือบางงานก็นานกว่านั้น) ที่โปรโมเตอร์อย่าง Dutesweet, Supersweet, Mind the Gap, Lullaby ล้วนแต่เป็นผู้ที่เคยทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น โชว์เหล่านั้นเป็นเหมือนจุดกำเนิดของอะไรหลาย ๆ อย่าง รวมไปถึงเป็นแรงบันดาลใจของใครหลาย ๆ คนที่ส่งต่อความเชื่อและรูปแบบที่ส่งผลให้ซีนดนตรีสดในกรุงเทพ ฯ คึกคักได้อย่างในทุกวันนี้ ซึ่ง #HYHBKK Live! with Black Lips ก็ทำให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง และเราหวังว่าคนที่ได้มางานนี้คงจะได้รับพลังงานดี ๆ กลับไปเหมือนกัน อยากให้มีงานแบบนี้เกิดขึ้นอีกเยอะ ๆ เลย
ไปติดตามรูปสวย ๆ ทั้งหมดได้ที่ Facebook: Labyrinth Record และ Instagram: labyrinth.rec
อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ