เดินทางมาถึงปีที่ 3 แล้วสำหรับ ASEAN India Music Festival 2024 โดยครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานมิวสิคเฟสติวัลนอกประเทศครั้งแรกของ Sehar ออร์แกไนเซอร์ที่จับมือกับกระทรวงการต่างประเทศรัฐบาลอินเดีย ภายใต้ Act East Policy นโยบายที่มุ่งกระชับความสัมพันธ์ด้านสังคมวัฒนธรรมของประเทศอินเดียและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เลือกมาเฉลิมฉลองแก่นโยบายที่พึ่งครบรอบได้ 10 ปีกันถึงเมืองไทย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา
ส่วนตัวเราหรือใครหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับซีนดนตรีของประเทศอินเดียสักเท่าไหร่ ทว่าศิลปินบ้านเขาก็ค่อนข้างมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยในแง่ที่ข้อจำกัดบางประการ สามารถทำให้พวกเขาสร้างความหลากหลายต่อวงการเพลงได้ไม่แพ้เพื่อนบ้าน อย่างวงที่เราชื่นชอบ อาทิ Parekh & Singh, The F16s, Raveena และ Peter Cat Recording Co. ล้วนเป็นศิลปินที่ดีและควรค่าแก่การลองฟัง
ทีมงาน ASEAN India Music Festival 2024 ยังได้คัดสรรวงดนตรีดาวรุ่งหน้าใหม่จากประเทศตัวเองอย่าง The Western Ghats วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่มีส่วนผสมของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์กับการใช้ซินธ์สร้างสีสันให้เพลง พร้อม Collaboration Band หรือซูเปอร์กรุ๊ปที่มาคั่นโชว์อย่างสนุก ๆ ด้วยการแสดงฝีมือจากนักร้อง-นักดนตรีหลายสัญชาติ เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ก่อนขวัญใจเด็กยุคนี้อย่าง Television Off จากสังกัด Smallroom ที่บทเพลงป๊อปร็อกกับเพอร์ฟอร์แมนซ์ของพวกเขาจะปิดค่ำคืนนั้นไปได้แบบสวยงาม
9 ธันวาคม 2567
เราเดินทางไปถึงหน้างานที่เดอะสตรีทรัชดาประมาณ 18.42 น. ด้วยความที่งานนี้เปิดให้เข้าชมฟรีแบบไม่จำกัดอายุ ทำให้คิวต่อแถวกับผู้คนที่กระจัดกระจายกันไปมีตั้งแต่วัยมัธยม มหาวิทยาลัย และทำงาน แม้โชว์แรกจะเลทจากเวลาจริงไป 15 นาทีก็ตาม The Western Ghats เริ่มอุ่นเครื่องคนดูผ่านการคัฟเวอร์ Paradise งานของ Coldplay เป็นสิ่งแรก (น้ำเสียงของนักร้องนำแอบมีความคล้ายพี่คริสมาร์ตินนิด ๆ อยู่เหมือนกัน)
พวกเขาทั้ง 5 คนยังพกเพลงของตัวเองอย่าง Thousand Miles, Humne Bhi และอื่น ๆ มาให้เราได้ลองฟังกัน ซึ่งทางวงจะเน้นไปที่การเอนเตอร์เทนผ่านลีลา เช่นการเล่นเพลง I Want It That Way จาก Backstreet Boys และ Uptown Funk ของ Mark Ronson ft. Bruno Mars เพื่อไฮป์และสร้างรอยยิ้มให้คนดูเรื่อย ๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมงานเพลงของพวกเขาที่มีความเข้าถึงง่าย จึงโดนเส้นวัยรุ่นอินเดียและบุคคลทั่วไปในบ้านเกิดตัวเอง
ต่อมาเป็นซุเปอร์กรุ๊ปที่เชิญชวนศิลปินเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนมาร่วมร้องเล่นเพื่อสานสัมพันธ์กันแบบน่ารัก โดยไม่ได้มีศิลปินเพียงเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ เท่านั้น สังเกตว่านักดนตรีบางคนก็จัดอยู่ในเจนมิลเลเนียม ขอแค่มีฝีมือหรือความรักต่อดนตรี ความสนุกสนานเหล่านั้น ได้ถูกส่งต่อให้ผู้ชมอย่างปฏิเสธไม่ได้ว่า เราหรือใครเองก็ไม่ค่อยได้เห็นภาพนี้บ่อย ๆ หรือในขณะเดียวกันที่บ้านเรากำลังมีกระแส T-Pop หันไปอีกฟากฝั่ง วงการเพลงในฟิลิปปินส์เองก็มี P-Pop (Philippines-Pop) อย่างเกิร์ลกรุ๊ปวง KAIA ที่คุณแองเจล่าขอมาเป็นตัวแทนเพื่อน ๆ
และช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง Television Off เปิดตัวด้วยอินโทรลึกลับ และแสงไฟกระพริบที่ให้ความรู้สึกเหมือนจอทีวีซ่า ก่อนวงจะหยิบทุกผลงานเพลงจาก Creatures อัลบั้มเต็มชุดแรกที่พึ่งปล่อยมาเล่นแบบ non-stop บนสไตล์ที่คาบเกี่ยวระหว่างอินดี้ร็อกผสานป๊อป ทุกมวลอารมณ์อันหนักแน่นและเบาบาง พวกเขาถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีพลังและไร้ข้อกังขา ซึ่งส่งให้หนุ่ม ๆ ได้ไปเล่นที่อินเดียเมื่อไม่นานมานี้ด้วย
ไม่แน่ว่าเราอาจจะเริ่มเข้าใจความรู้สึกของทุกคน โดยเฉพาะวัยรุ่นเจเนอเรชั่นใหม่ในแง่การเติบโตและใช้ชีวิตไปพร้อมบทเพลงของพวกเขา เพราะกว่าวงจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ค่อนข้างใช้เวลาอยู่พอสมควร เช่นเดียวกับวงอื่น ในรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือบรรดาศิลปินที่เราค่อนข้าง relate ต่อเนื้อหาหรือสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อสารเอง ดั่งภาพที่ผู้ชมในฮอลล์เอนจอย กระโดด แถมยังร้องกันได้เกือบทุกเพลงนี่ถือว่าเป็นโบนัสสำหรับศิลปินจริง ๆ
สิ่งหนึ่งที่เราอยากชื่นชมคือพัฒนาการของโชว์ที่วงเรียบเรียงในลักษณะที่มีไดนามิกแบบไม่น่าเบื่อเลย แม้ว่าเพลงส่วนใหญ่จะใช้จังหวะกลางหรือทำนองใกล้เคียงกัน แต่มันสอดประสานได้อย่างสวยงามและน่าประหลาด ซึ่งขอยกให้ เปลี่ยนไปเหมือนกัน (Vesper), Mantis เป็นสองเพลงที่เราชอบมากที่สุดและยังดีไซน์ซาวด์ได้โคตรเท่ เราหวังว่าภายในอนาคต วงจะมีแฟนคลับต่างประเทศเยอะขึ้น โดยไม่มีกำแพงทางภาษามาขวางกั้น
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist