และก็เดินทางมาถึงวันที่ 5 ของ Ear Hub 2023 ที่งานในวันนี้เรียกว่า All Ears Asia เป็นงานที่รวมศิลปินจากทั่วเอเชียและฮ่องกงแบบที่คัดคุณภาพมาแล้วเน้น ๆ ณ Freespace และ Lau Bak Livehouse ณ West Kowloon Creative District ตั้งแต่ช่วงเย็นให้เราได้ดูได้ฟังไปกันยาว ๆ แน่นอนว่ามีวงจากประเทศไทยมาในงานนี้ด้วยนั่นคือ H 3 F และ KIKI นอกจากนี้ก็มีวงจากจีน ญี่ปุ่น มาเก๊า มาร่วมแสดงให้เราได้เปิดประสบการณ์และขยายอาณาเขตทางดนตรีให้มากขึ้นกว่าเดิม
2 กรกฎาคม 2566
เรารีบมาตั้งแต่หกโมงครึ่งเพื่อดู H 3 F ตัวแทนจากไทยแลนด์ มีคนดูมารอดูพวกเขาจำนวนหนึ่ง เริ่มกันที่เพลงแรก ‘Chalawan Funk’ สอดแทรกสำเนียงไทย ๆ เข้าไปในเพลงฟังก์เท่ตามสไตล์ของพวกเขา จะเป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้มใหม่ชื่อเดียวกันที่จะออกมาในเดือนสิงหาคม รอฟังกันได้ ต่อด้วยเพลง ‘Can’t Change a Thing’ และ ‘It’s Alright’ ที่ก้องบอกว่าเป็นหนึ่งในเพลงหวานเจี๊ยบที่สุดของพวกเขาที่ชอบเป็นการส่วนตัว โดยบอกว่าปกติแล้วเพลงเนี้ยมีดรัมแมชชีน แต่วันนี้ไม่มี เลยให้ทุกคนช่วยกันตบมือ วัยรุ่นฮ่องกงเขาก็ให้ความร่วมมือดีมาก ช่วยกันตบมือจนจบเพลง โฮ่ ใจชื้นแทนวง
แล้วก้องก็ถามว่าทุกคนเคยดูกันครั้งแรกใช่ไหม ส่วนใหญ่ก็ใช่ แต่ทุกคนเคยได้ยินเพลงของพวกเขามาบ้างแล้วแน่นอน เพราะเพลงต่อไปก็น่าจะรู้จักกันดีนั่นคือ ‘How Can I?’ แล้วก็เล่นอีกหนึ่งเพลงจากอัลบั้มใหม่ ‘Tonight’ ก่อนปิดท้ายกันไปด้วย ‘Cultivation’ ที่รีอะเรนจ์อินโทรได้เท่สุด ๆ ม่วนโดนใจสุด อันนี้ก้องก็แร็ปด้วยตัวเองไปเลย นับว่าวันนี้เป็นโชว์ที่ลงตัวสุด ๆ ของ H 3 F อีกโชว์นึง
จากนั้น Chanka ก็ขึ้นเล่น เธอเป็นศิลปินที่เสียงเล็กแต่เวลาร้องเพลงออกมาคือถ่ายทอดอารมณ์และเลือกใช้แชแนลเสียงได้ดีมาก เพลงที่โปรดิวเซอร์ (น่าจะชื่อ INK เพื่อนวง Tofu Kingdom บอกมาอีกที) เขาเล่นไลฟ์โมดูลาร์สด ๆ กับเธอคือเท่จัด ๆ ดนตรีเห็นได้ชัดว่าได้อิทธิพลจากทริปฮอป ดาวน์เทมโป ดาร์กเวฟมาเต็ม แล้วเพลง ‘WHO A U ?’ เบสหนึบแบบคนชอบ Björk, Arca ต้องชอบแน่ มีเพลงที่เป็นผสม performing arts แล้วใช้แค่เสียงหายใจเข้าออกเซ็ตอารมณ์ในโชว์ ซึ่งนั่นสะกดเราได้อยู่หมัด ก่อนจะเล่นเพลงที่เป็นทั้ง deep house และ UK garage ชื่อว่า ‘NOISY’ แต่เป็นเวอร์ชัน J1M3 Remix ที่ทำเอาเรากรี๊ดแตก จัดจ้านน่าสนใจมากจริง ๆ และปิดท้ายไปด้วยรีมิกซ์เพลงดังของเธอ ‘Hypocrite’ ที่หยิบมาเล่นไลฟ์ครั้งแรก เป็นอิเล็กโทรเฮาส์ ผสมกลิ่นอายทรอปิคัลหน่อย ๆ จบโชว์นี้คือตกหลุมรักเธอไปแล้วเรียบร้อย
สองทุ่มนิด ๆ อีกวงที่ไม่รู้มาก่อนว่าจะมาทรงนี้นั่นคือ FAZI วงจากแผ่นดินใหญ่กะเอาผมตายอีกแล้วครับบบบ พี่เขามาแบบโหด วิชวลแดงดำ ไฟอยากชวนลงนรกมาก เพลงที่เล่นก็เป็นสโตนเนอร์ โพสต์พังก์ เคราต์ร็อก อย่างเพลง ‘隼’ เปิดมาด้วยฉิ่งแบบทำเราเหวอ ก่อนจะพาเราสู่ห้วงความบ้าคลั่งไร้ที่สิ้นสุด แล้วใน ‘冷山’ เพลงพี่เขาทำเอาเราโยกได้แบบไม่จำเป็นต้องฟังรู้เรื่องจริง ๆ เล่นลูปวน ๆ ไปแบบนั้นก็โยกจนคอปวดได้ พลังมันพุ่งพล่านแบบเพลงต่อเพลง มีเพลงนึงชื่อ ‘守夜’ เป็น spoken words มาตอนต้นอย่างดาร์ก อย่างเมา แล้วตอนท้ายก็เร่งเร้าเข้ากลองจังหวะละติน ม่วนจริง อะไรไม่รู้เต็มไปหมดแต่สนุก
กับเพลงสุดท้าย ‘時間隧道’ แปลได้ว่า Mountain of Time ได้ฟีล Protomartyr, Motorama วงที่สามารถเอาคำว่า brutalism เข้าไปวางข้าง ๆ ได้โดยไม่เขินอะไรทำนองนั้น เหยยยย เขาเท่อะ ถึงแม้ว่าคนฮ่องกงจะไม่ค่อยโดดแต่เห็นเลยว่าสนุกและตั้งใจดูกันจริง ๆ จากเสียงเฮเชียร์กันตอนจบเพลง เอาจริงนะ อยากให้ผู้จัด Maho Rasop ชวนมาเหมือนกันนะวงนี้ คลั่งระดับ Crack Cloud, King Gizzard ปีก่อน ๆ ได้อยู่
แล้วก็เป็นคิวของ Helsinki Lambda Club วงจากญี่ปุ่นที่แจกความสดใสให้คนดูตั้งแต่ก้าวขึ้นเวที พลังงานความสนุกเริ่มขึ้นในเพลงอินดี้ร็อกเท่ติดกลิ่นป๊อปพังก์จังหวะสนุก ๆ ‘Mitsubishi Macchiato’ ของเขาอร่อยและซิ่งสมชื่อจริงนะ ต่อด้วยเพลงป๊อปฟังสบายขึ้นมาอีกนิดใน ‘PIZZASHAKE’ คือคนละมู้ดกับเพลงก่อนหน้าเลย พอจบเพลงมีคนตะโกนขึ้นไปว่า กักโก้ยยยย แล้ววงแปลเป็นภาษาอังกฤษออกไมค์ให้ว่า “คนนั้นเขาชมเราว่า พวกเราเท่มาก” ได้ไปหนึ่งฮา แล้วก็เล่าว่านี่เป็นครั้งแรกที่มาแสดงต่างประเทศ ส่วนมือเบสก็ตัดผมที่ฮ่องกงเมื่อวาน นี้เลย ตลกกกก ก่อนจะเล่นเพลงจังหวะกลางเท่ปนน่ารัก ‘Rock’n’roll Prankster’ อัปบีตขึ้นมาอีกนิดใน IKEA ที่ท่อนดรอปมีความเป็นกรูฟดั๊บหนึบ ๆ แปลกหูมาก และ ‘Good News Is Bad News’ ที่ความกีตาร์การาจร็อกโดนเส้นเรามาก โชว์ก็เรียกเสียงหัวเราะกับชวนให้คนดูเต้นได้ตลอด ๆ ไหน ๆ ก็ทำเพลงกับ Ford Trio ไปหลายเพลงแล้ว ก็อยากให้ได้มาเล่นที่ไทยบ้างจังเลยน้า
ตอนนั้นประมาณสามทุ่มครึ่ง เราออกมาสำรวจด้านนอกซักหน่อย ปรากฏเห็นว่าวง Amulets กำลังเล่นอยู่ พวกเขาคือวง melodic hardcore, metalcore จากมาเก๊า ที่โอ้โห สครีโม แตกแตนมาก ๆ เล่นโหดขนาดนี้ควรได้ไปว้ากข้างในฮอลอะ เอเนอร์จี้ดีมากกกกกกกกก เรายืนเฮดแบงได้อยู่แปปนึงก็วิ่งกลับเข้าไปเตรียมดูอีกวงที่เรารอคอย…
KIKI นั่นเองจ้า วันนี้พวกเขาไม่ได้มากันครบทีม แอบซ่อนพาริม มัดหมี่ และปกป้องไว้ใน MD แทน (วงบอกกับเรางี้ ฮา) เปิดมาด้วยอินโทรที่เรียบเรียงมาใหม่ได้เท่ กับไฟที่สีสันล้อเล่นไปกับดนตรีสนุก ๆ ของวง พูดถึงเราก็ไม่ได้ดูโชว์ของ KIKI นานแล้วเหมือนกันนับตั้งแต่ที่ Maho Rasop ต้องบอกว่ายิ่งเล่นยิ่งเก๋า ยิ่งสนุก และเล่นดีขึ้นเรื่อย ๆ จริง ๆ แล้วก็เล่นเพลง ‘Antidote’ แดนซ์ร็อก ซินธ์เบส ซาวด์ดาร์ก ๆ ที่เท่สุด ๆ นึกถึงทรงแบบ The Voidz เลย ก่อนจะเล่นเพลงจากงานชุดแรก ‘Don’t Forget Me’ ที่บุ๊คมือเบสวาดลวดลายบนเวที ชวนคนตบมือสนุกสนาน แอบเห็นว่าคนดูแถวหน้าซื้อเสื้อวงเอามาชูตอนดูไปด้วย น่าร้าก
จบเพลงเฮเลนก็ทักทายคนดูและบอกว่าดีใจที่ได้มาเล่นที่นี่เป็นครั้งแรก และชวนให้ทุกคนมาเต้นด้วยกันในเพลง ‘Can You Feel My Love’ และงานฟังกี้เท่ ๆ จากชุดใหม่ ‘XOXO’ เมโลดี้ซินธ์ใส ๆ ติดหูชวนนึกถึงเพลงจีนหน่อย ๆ ก่อนจะเป็น interlude ที่เรียบเรียงมาได้เท่อีกแล้ว ปรับมู้ดเข้าเพลง ‘Get Up’ ให้เราได้ขยับและร้องตาม และปิดกันไปด้วย ‘I Am’ กับเพลงดัง ‘Back In The Game’ ที่วัยรุ่นฮ่องกงจอยมาก ๆ จบไปอย่างสวยงามและเราเชื่อว่าโชว์ต่อ ๆ ไปและอัลบั้มใหม่ของพวกเขาจะน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ อีกแน่นอน
ต่อจากนี้ก็จะเป็น The Crane วงปิดเจ้าบ้านแล้ว แต่พอฟังไปได้นิดนึงไม่ค่อยถูกจริต เลยออกมาข้างนอก เจอกับ Gordon Flanders มาในเพลง cantopop สุดเพราะ ด้วยความแก่และเมื่อยแล้ว เราเลยขอมานั่งพักกับ H3F กับ KIKI สนทนาภาษาไทยแบบไม่ได้ใช้มาหลายวัน พลางจิบเบียร์และนั่งฟังเพลงไปด้วยตรงฟุตบาทแถวนั้น ได้ฟีลห้าแยกลาดพร้าวบ้านเราสุด ๆ
จบไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ต All Ears Asia 2023 ขอบคุณทางทีม Ear Up Music ที่ชวนเรามาเป็นส่วนหนึ่งของงานดี ๆ แบบนี้ ตอนนี้ได้รู้จักวงฮ่องกง จีน เท่ ๆ เพียบ หวังว่าจะได้เห็นพวกเขามาแสดงที่บ้านเรา และหวังว่าวงจากไทยหลาย ๆ วงจะกลายเป็นวงโปรดของคนฮ่องกงด้วย
อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ