Starnest Music Festival Thailand ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 เมษายน นี้ ที่ Union Hall ไม่ใช่แค่เทศกาลดนตรีอีกหนึ่งงานที่อยากรวมเอา 16 ศิลปินแถวหน้าในซีนอินดี้ทั้งในไทยและระดับเอเชียมาอยู่บนเวทีเดียวกันเท่านั้น แต่ตัวงานเองยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้ตลาดเพลงนอกกระแสในภูมิภาคเอเชียเติบโตและแข็งแรงขึ้น ด้วยการนำเสนอและแลกเปลี่ยนศิลปินคุณภาพในแต่ละประเทศให้เชื่อมต่อถึงกัน ซึ่งการที่มาจัดที่ประเทศไทยก็เป็นการการันตีอีกทางหนึ่งว่า ศิลปินไทยเองก็มีศักยภาพมากพอไม่แพ้ชาติไหน และเมืองไทยเองก็พร้อมแล้วเหมือนกันที่จะขึ้นมาเป็นฮับของซีนดนตรีนอกกระแสโลก
ด้วยการดึงศิลปินอย่าง 2Z (ทูซี) จากเกาหลีใต้, Nghịch (นิกค’) จากเวียดนาม และ 東方紅 Red East จากจีน มาร่วมในเฟสติวัลนี้ด้วย แม้พวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก แต่ในประเทศของตัวเอง พวกเขาเองก็เป็นศิลปินแถวหน้าในซีนดนตรีของตัวเองเหมือนกัน Starnest Music Festival อยากสร้างพื้นที่ที่คนฟังและศิลปินจะได้แลกเปลี่ยนพลังงานบางอย่างซึ่งกันและกัน ให้นักฟังเพลงบ้านเราได้ลองสัมผัสแนวดนตรีและแบ็กกราวที่หลากหลาย บันดาลใจให้ทุกคนสำรวจขอบเขตใหม่ ๆ ในงานดนตรีของพวกเขาและของตัวเอง
การร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการผสมผสานทางดนตรีแบบใหม่ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนให้วงการดนตรีไทยได้ก้าวไปในพื้นที่ใหม่ ๆ ด้วย โดยที่ทั้งสามวงเองก็น่าสนใจไม่แพ้ศิลปินไทยเลย
2Z เป็นวงป็อปร็อกจากเกาหลีใต้ พวกเขาเป็นที่จับตามองนับตั้งแต่เดบิวต์ในปี 2020 สมาชิกประกอบไปด้วย Bumjun (หัวหน้าวงและมือกลอง), Hojin (นักร้องนำ), Junghyun (มือเบสและแรปเปอร์), Zunon (มัลติอินสทรูเมนทัล, ดีเจ และนักร้องเสริม) และสมาชิกใหม่ล่าสุด NUVorn (มือกีตาร์) 2Z ผสมผสานซาวด์ร็อกเข้ากับกลิ่นอายของเพลง k-pop ได้อย่างลงตัว สร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีที่โดดเด่นทั้งภาพลักษณ์อันน่าหลงใหล และโชว์ที่หนักหน่วงไม่แพ้วงร็อกใด ๆ
EP ล่าสุด “Glorious Youth” ที่ปล่อยออกมาเมื่อต้นปี สะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีของพวกเขา โดยมีเพลงอย่าง Great Force ที่ดุดันและ Something Special ที่โดดเด่นด้วยจังหวะฟังกี้ที่ชวนเต้น ชูจุดเด่นถึงความหลากหลายทางดนตรีของวง และการเข้ามาเติมเต็มของ NUVorn ในฐานะมือกีตาร์คนใหม่ของวง ก็ช่วยเพิ่มมิติใหม่ ๆ ให้กับเสียงดนตรีของ 2Z อีกด้วย
ส่วนวง Nghịch ก็กำลังไต้เต้าขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของซีนร็อกของเวียดนามอย่างรวดเร็ว ในฐานะวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกและป๊อปพังก์มากฝีมือ โดยมีสมาชิกได้แก่ Huyền Anh (นักร้องนำ), Duy Đức (มือกีตาร์), Ngọc Quang (มือคีย์บอร์ด), Xích Vũ (มือเบส), และ Hiếu Nguyễn (มือกลอง) ชื่อวง “Nghịch” ที่แปลว่า “ซุกซน” สะท้อนถึงสไตล์ดนตรีและการแสดงที่เต็มไปด้วยพลังและความขี้เล่นของพวกเขา
จังหวะที่เร้าใจ เมโลดี้ที่ติดหู และเนื้อเพลงที่สะท้อนถึงชีวิตวัยรุ่นเวียดนามอันสนุกสนาน โชว์ของพวกเขาเองก็ขึ้นชื่อเรื่องพลังอันล้นเหลือและสนุกไปกับแฟนเพลงอย่างเต็มที่ ทำให้พวกเขากลายเป็นวงที่โดดเด่นในซีนอินดี้ของเวียดนามในเวลาอันรวดเร็ว
ผลงานของพวกเขาสะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีและการแสดงออกที่เป็นตัวของตัวเอง ซิงเกิลแรกของพวกเขา Hết Non! ซึ่งปล่อยออกมาในเดือนกันยายน 2022 ถ่ายทอดพลังความเยาว์วัยและความดิบของวงได้อย่างเต็มที่ ต่อมาใน EP Nghịch Ngợm มีเพลงที่โดดเด่นอย่าง Yêu 0, Ngôi sao cô đơn, และ Ánh đèn đại lộ ที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีให้กับวงได้ชัดเจนขึ้น
และอีกวงที่เราอยากดูมาก ๆ อย่าง 東方紅 Red East วงร็อกจากยูนนาน ดนตรีร็อกที่แตกต่างของพวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นขวัญใจในซีนดนตรีท้องถิ่น ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นที่ยอมรับในวงการอินดี้ระดับประเทศ และกำลังมุ่งหน้าสู่เวทีระดับโลก เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ไม่ควรพลาดใน Starnest Music Festival
ดนตรีของ RED EAST ถ่ายทอดพลังอันแข็งกร้าวแต่อ่อนโยนราวกลับกวี เสน่ห์ของร็อกยุคคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับจังหวะร่วมสมัย พวกเขาสร้างซาวด์ที่สะท้อนอารมณ์อันลึกซึ้งสะเทือนถึงคนฟัง การเปิดตัว EP แรกของวง 《嗅》 ประกอบไปด้วยเพลงเด่นอย่าง 盲青 และ 野鬼 ซึ่งได้รับคำชมจากความหนักหน่วงและซาวด์ที่พุ่งพล่าน แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้กับ RED EAST จนเป็นที่จดจำคือโชว์อันตราตรึงทุกครั้งซึ่งเปี่ยมไปด้วยเอเนอร์จี้ กีตาร์ริฟฟ์ทอันหนักแน่น เสียงร้องที่ทรงพลัง
การนำเสนอศิลปินเอเชียทั้งสามวงที่อยู่ในตลาดเดียวกันกับศิลปินไทยในเทศกาลนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ผู้ฟังได้ลองสัมผัสแล้ว ยังช่วยขยายตลาดดนตรีให้ใหญ่ขึ้น ช่วยดึงดูดคนฟังเพลงและนักท่องเที่ยวในเอเชียรวมถึงนานาประเทศให้บินเข้ามาเสพดนตรีกันในเมืองไทย กระตุ้นเศรษฐกิจก็ดี แถมยังช่วยเปลี่ยนมุมมองของโลกที่มีต่อดนตรีไทยให้ใกล้เคียงกับเวทีโลกมากขึ้นไปด้วย นี่คือส่วนหนึ่งของผลลัพต์ที่คนในซีนช่วยกันผลักดันมา ตั้งแต่งาน Bangkok Music City ไปจนถึงเทศกาลดนตรีทั้งหลายที่จัดกันมาหลายปี
ในแง่ของตัวศิลปินไทยเอง ก็เป็นโอกาสที่ศิลปินจะได้ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจกันหลังเวที ได้ลองฟังสไตล์ดนตรีใหม่ ๆ จากวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงการทำงานบนเวทีที่ไม่เหมือนกัน เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเองหรืออุตสาหกรรมในอนาคตได้ด้วย
การมางาน Starnest Music Festival ไม่ใช่แค่การมาสนุกกับโชว์เจ๋ง ๆ ของทั้ง 16 ศิลปินเท่านั้น แต่ทุกคนคือส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ซีนดนตรีไทยเดินต่อไปข้างหน้าได้ แถมยังได้อวดศักยภาพของเมืองไทยที่พร้อมจะรองรับความหลากหลายทางดนตรีที่จะตามมาในอีกอนาคต การที่เมืองของเรารองรับตลาดดนตรีได้ทุกระดับจะทำให้การท่องเที่ยวบ้านเรายิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นไปด้วย แล้วศิลปินไทยก็จะมีโอกาสจะกลายเป็นสินค้าส่งออกระดับท็อปของโลกแน่นอน
Starnest Music Festival Thailand 2025 เทศกาลดนตรีที่รวมดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการดนตรีนอกกระแสไทยไว้มากที่สุดบนเวทีเดียวกัน! มาสนุกไปกับไลน์อัพระดับจักรวาลที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
PHUM VIPHURIT | Dept | JAMES ALYN | WIM | TUZI | RED EAST
| NGHỊCH
| MOVING AND CUT | FREEHAND | H3F | YEW | LANDOKMAI | DESKTOP ERROR | SRIRAJAH ROCKERS| ALEC ORACHI | YONLAPA
ปักวันไว้เลย 5 เมษายน 2568 Union Hall, Bangkok (BTS ห้าแยกลาดพร้าว, MRT พหลโยธิน) Grab your ticket
จับจองบัตรได้เลยที่ Ticketmelon

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา