การมาไทยครั้งแรกของ 2Z, Nghịch และ RED EAST ที่ช่วยผลักดันซีนดนตรีไทยให้ทัดเทียบระดับโลก ผ่านงาน Starnest Music Festival Thailand

by McKee
77 views
Starnest Music Festival 2Z Nghịch 東方紅 RED EAST Union Hall

Starnest Music Festival Thailand ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 เมษายน นี้ ที่ Union Hall ไม่ใช่แค่เทศกาลดนตรีอีกหนึ่งงานที่อยากรวมเอา 16 ศิลปินแถวหน้าในซีนอินดี้ทั้งในไทยและระดับเอเชียมาอยู่บนเวทีเดียวกันเท่านั้น แต่ตัวงานเองยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้ตลาดเพลงนอกกระแสในภูมิภาคเอเชียเติบโตและแข็งแรงขึ้น ด้วยการนำเสนอและแลกเปลี่ยนศิลปินคุณภาพในแต่ละประเทศให้เชื่อมต่อถึงกัน ซึ่งการที่มาจัดที่ประเทศไทยก็เป็นการการันตีอีกทางหนึ่งว่า ศิลปินไทยเองก็มีศักยภาพมากพอไม่แพ้ชาติไหน และเมืองไทยเองก็พร้อมแล้วเหมือนกันที่จะขึ้นมาเป็นฮับของซีนดนตรีนอกกระแสโลก

ด้วยการดึงศิลปินอย่าง 2Z (ทูซี) จากเกาหลีใต้, Nghịch (นิกค’) จากเวียดนาม และ 東方紅 Red East จากจีน มาร่วมในเฟสติวัลนี้ด้วย แม้พวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักในไทยมากนัก แต่ในประเทศของตัวเอง พวกเขาเองก็เป็นศิลปินแถวหน้าในซีนดนตรีของตัวเองเหมือนกัน Starnest Music Festival อยากสร้างพื้นที่ที่คนฟังและศิลปินจะได้แลกเปลี่ยนพลังงานบางอย่างซึ่งกันและกัน ให้นักฟังเพลงบ้านเราได้ลองสัมผัสแนวดนตรีและแบ็กกราวที่หลากหลาย บันดาลใจให้ทุกคนสำรวจขอบเขตใหม่ ๆ ในงานดนตรีของพวกเขาและของตัวเอง

การร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการผสมผสานทางดนตรีแบบใหม่ และเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในระดับภูมิภาค ขับเคลื่อนให้วงการดนตรีไทยได้ก้าวไปในพื้นที่ใหม่ ๆ ด้วย โดยที่ทั้งสามวงเองก็น่าสนใจไม่แพ้ศิลปินไทยเลย

2Z เป็นวงป็อปร็อกจากเกาหลีใต้ พวกเขาเป็นที่จับตามองนับตั้งแต่เดบิวต์ในปี 2020 สมาชิกประกอบไปด้วย Bumjun (หัวหน้าวงและมือกลอง), Hojin (นักร้องนำ), Junghyun (มือเบสและแรปเปอร์), Zunon (มัลติอินสทรูเมนทัล, ดีเจ และนักร้องเสริม) และสมาชิกใหม่ล่าสุด NUVorn (มือกีตาร์) 2Z ผสมผสานซาวด์ร็อกเข้ากับกลิ่นอายของเพลง k-pop ได้อย่างลงตัว สร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีที่โดดเด่นทั้งภาพลักษณ์อันน่าหลงใหล และโชว์ที่หนักหน่วงไม่แพ้วงร็อกใด ๆ

EP ล่าสุด “Glorious Youth” ที่ปล่อยออกมาเมื่อต้นปี สะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีของพวกเขา โดยมีเพลงอย่าง Great Force ที่ดุดันและ Something Special ที่โดดเด่นด้วยจังหวะฟังกี้ที่ชวนเต้น ชูจุดเด่นถึงความหลากหลายทางดนตรีของวง และการเข้ามาเติมเต็มของ NUVorn ในฐานะมือกีตาร์คนใหม่ของวง ก็ช่วยเพิ่มมิติใหม่ ๆ ให้กับเสียงดนตรีของ 2Z อีกด้วย

ส่วนวง Nghịch ก็กำลังไต้เต้าขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของซีนร็อกของเวียดนามอย่างรวดเร็ว ในฐานะวงอัลเทอร์เนทีฟร็อกและป๊อปพังก์มากฝีมือ โดยมีสมาชิกได้แก่ Huyền Anh (นักร้องนำ), Duy Đức (มือกีตาร์), Ngọc Quang (มือคีย์บอร์ด), Xích Vũ (มือเบส), และ Hiếu Nguyễn (มือกลอง) ชื่อวง “Nghịch” ที่แปลว่า “ซุกซน” สะท้อนถึงสไตล์ดนตรีและการแสดงที่เต็มไปด้วยพลังและความขี้เล่นของพวกเขา

จังหวะที่เร้าใจ เมโลดี้ที่ติดหู และเนื้อเพลงที่สะท้อนถึงชีวิตวัยรุ่นเวียดนามอันสนุกสนาน โชว์ของพวกเขาเองก็ขึ้นชื่อเรื่องพลังอันล้นเหลือและสนุกไปกับแฟนเพลงอย่างเต็มที่ ทำให้พวกเขากลายเป็นวงที่โดดเด่นในซีนอินดี้ของเวียดนามในเวลาอันรวดเร็ว

ผลงานของพวกเขาสะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีและการแสดงออกที่เป็นตัวของตัวเอง ซิงเกิลแรกของพวกเขา Hết Non! ซึ่งปล่อยออกมาในเดือนกันยายน 2022 ถ่ายทอดพลังความเยาว์วัยและความดิบของวงได้อย่างเต็มที่ ต่อมาใน EP Nghịch Ngợm มีเพลงที่โดดเด่นอย่าง Yêu 0, Ngôi sao cô đơn, และ Ánh đèn đại lộ ที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีให้กับวงได้ชัดเจนขึ้น

และอีกวงที่เราอยากดูมาก ๆ อย่าง 東方紅 Red East วงร็อกจากยูนนาน ดนตรีร็อกที่แตกต่างของพวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นขวัญใจในซีนดนตรีท้องถิ่น ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นที่ยอมรับในวงการอินดี้ระดับประเทศ และกำลังมุ่งหน้าสู่เวทีระดับโลก เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ไม่ควรพลาดใน Starnest Music Festival

ดนตรีของ RED EAST ถ่ายทอดพลังอันแข็งกร้าวแต่อ่อนโยนราวกลับกวี เสน่ห์ของร็อกยุคคลาสสิกที่ผสมผสานเข้ากับจังหวะร่วมสมัย พวกเขาสร้างซาวด์ที่สะท้อนอารมณ์อันลึกซึ้งสะเทือนถึงคนฟัง การเปิดตัว EP แรกของวง 《嗅》 ประกอบไปด้วยเพลงเด่นอย่าง 盲青 และ 野鬼 ซึ่งได้รับคำชมจากความหนักหน่วงและซาวด์ที่พุ่งพล่าน แต่สิ่งที่สร้างชื่อให้กับ RED EAST จนเป็นที่จดจำคือโชว์อันตราตรึงทุกครั้งซึ่งเปี่ยมไปด้วยเอเนอร์จี้ กีตาร์ริฟฟ์ทอันหนักแน่น เสียงร้องที่ทรงพลัง

การนำเสนอศิลปินเอเชียทั้งสามวงที่อยู่ในตลาดเดียวกันกับศิลปินไทยในเทศกาลนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ผู้ฟังได้ลองสัมผัสแล้ว ยังช่วยขยายตลาดดนตรีให้ใหญ่ขึ้น ช่วยดึงดูดคนฟังเพลงและนักท่องเที่ยวในเอเชียรวมถึงนานาประเทศให้บินเข้ามาเสพดนตรีกันในเมืองไทย กระตุ้นเศรษฐกิจก็ดี แถมยังช่วยเปลี่ยนมุมมองของโลกที่มีต่อดนตรีไทยให้ใกล้เคียงกับเวทีโลกมากขึ้นไปด้วย นี่คือส่วนหนึ่งของผลลัพต์ที่คนในซีนช่วยกันผลักดันมา ตั้งแต่งาน Bangkok Music City ไปจนถึงเทศกาลดนตรีทั้งหลายที่จัดกันมาหลายปี

ในแง่ของตัวศิลปินไทยเอง ก็เป็นโอกาสที่ศิลปินจะได้ทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจกันหลังเวที ได้ลองฟังสไตล์ดนตรีใหม่ ๆ จากวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงการทำงานบนเวทีที่ไม่เหมือนกัน เพื่อนำไปปรับใช้กับตัวเองหรืออุตสาหกรรมในอนาคตได้ด้วย

การมางาน Starnest Music Festival ไม่ใช่แค่การมาสนุกกับโชว์เจ๋ง ๆ ของทั้ง 16 ศิลปินเท่านั้น แต่ทุกคนคือส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ซีนดนตรีไทยเดินต่อไปข้างหน้าได้ แถมยังได้อวดศักยภาพของเมืองไทยที่พร้อมจะรองรับความหลากหลายทางดนตรีที่จะตามมาในอีกอนาคต การที่เมืองของเรารองรับตลาดดนตรีได้ทุกระดับจะทำให้การท่องเที่ยวบ้านเรายิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นไปด้วย แล้วศิลปินไทยก็จะมีโอกาสจะกลายเป็นสินค้าส่งออกระดับท็อปของโลกแน่นอน


Starnest Music Festival Thailand 2025 เทศกาลดนตรีที่รวมดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการดนตรีนอกกระแสไทยไว้มากที่สุดบนเวทีเดียวกัน!🌞 มาสนุกไปกับไลน์อัพระดับจักรวาลที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว

PHUM VIPHURIT | Dept | JAMES ALYN | WIM | TUZI 🇰🇷 | RED EAST 🇨🇳 | NGHỊCH 🇻🇳 | MOVING AND CUT | FREEHAND | H3F | YEW | LANDOKMAI | DESKTOP ERROR | SRIRAJAH ROCKERS| ALEC ORACHI | YONLAPA

📌 ปักวันไว้เลย 5 เมษายน 2568 Union Hall, Bangkok (BTS ห้าแยกลาดพร้าว, MRT พหลโยธิน) Grab your ticket 🎫 จับจองบัตรได้เลยที่ Ticketmelon

+ posts

ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy