ส่งท้าย Pride Month ด้วยเหล่าศิลปินตัวแม่รุ่นใหม่ที่จะมาเขย่าความหลากหลายทางเพศและเสียงดนตรี ซึ่งหลายคนไม่ใช่แค่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับชาว LGBTQAI+ เท่านั้น แต่พวกเขายังเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิคนหลากหลายทางเพศตลอดเวลา แถมยังมีผลงานเพลงที่แตกต่างและเจ๋งไม่แพ้ศิลปินคนไหน ไปรู้จักพวกเขาพร้อมกันเลย
Yves Tumor
ด้วยรูปแบบการทดลองซาวด์สุดยูนีค Sean L. Bowie หรือ Yves Tumor เริ่มถูกพูดถึงในฐานะศิลปินนอกกระแสที่มีความกล้าบ้าบิ่นในการรังสรรค์สรรพเสียงที่พ่วงทั้งความแปลกประหลาดและสวยสดงดงาม โดยเฉพาะอัลบั้ม ‘Safe In The Hands of Love’ (2018) ยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า เขาไม่เกรงกลัวต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจมองว่าสิ่งนี้เซอร์เรียลเกินกว่าจะมีใครทำออกมา
ขณะเดียวกัน ‘Heaven To A Tortured Mind’ (2022) และผลงานล่าสุดอย่าง ‘Praise A Lord Who Chews But Which Does Not Consume…’ (2023) กลับมีแต่เพิ่มพูนความฉูดฉาด ทว่าขัดเกลาดนตรีจนเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น แบบไม่ทิ้งความจัดจ้านด้านอาร์ตไดเรคชันกับคอสตูมดีไซน์ที่ใส่สุดทุกเอ็มวี ทูมอร์ยังแต่งแต้มสีสันผ่านเนื้อหาที่เปรียบความสัมพันธ์ราวนรกสวรรค์ การสรรเสริญถึงพระเจ้าด้วยแรงปราถนา และศีลธรรมต้องห้ามที่เขาพร้อมจะปลดเปลื้องมัน
“I really like to drop hints in the way I express myself, instead of making my gender or my sexuality or my feelings about equality my personal brand.” – ทูมอร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Pitchfork
เพลงที่แนะนำให้ลองฟัง: Licking An Orchid, Gospel For A New Century, Heaven Surrounds Us Like a Hood
Perfume Genius
หากเราจะนึกถึงความละเมียดละไมทางอารมณ์และองค์ประกอบดนตรีอันสง่าผ่าเผย ก็ต้องยกให้ Michale Hadreas ศิลปินอาร์ตป๊อปฉลาดสร้าง ผู้มาพร้อมกับเสียงร้องน่าค้นหาและท่วงทำนองชวนสะกดที่มอบความรู้สึกเศร้าหมอง ปลอบประโลมและโผบินอย่างอิสระในเวลาเดียวกัน
และภายใต้เรือนร่างกำยำนั้น ไมเคิลซุกซ่อนความเปราะบางจากเรื่องราวที่เขาประสบเจอตั้งแต่เยาว์วัย ซึ่งในฐานะมนุษย์เพศทางเลือกคนหนึ่ง ไม่มีอะไรเจ็บปวดไปกว่าการถูกปฏิเสธจากครอบครัวอย่างแน่นอน ยังไม่นับเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เข้าไปอ่านแล้วใจสลายเอามาก ๆ หลากหลายผลงานของไมเคิลฮาเดรสมีทั้งรสขมขื่นและหวานระรื่น อัลบั้ม ‘Set My Heart On Fire Immediately’ (2020) จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่นำเสนอตัวตนผ่านเนื้อหาที่ไม่อาจเก็บงำความจริงในใจและไฟรักสุดร้อนแรงได้อีกแล้ว
เพลงที่แนะนำให้ลองฟัง: Other Side, Describe, On The Floor
Wet Leg
สองสาวสุดแสบ Rhian Teasdale และ Hester Chambers เรียกกระแสร็อกมิวสิกฝั่งอังกฤษให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ด้วยซิงเกิลเปิดตัวอย่าง ‘Chaise Longue’ จากอัลบั้ม ‘Wet Leg’ ผลงานการโปรดิวของ Dan Carey (Squid, Black Midi) ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก๋ากั่นส่งให้ทั้งคู่เข้าชิง Grammy Awards และคว้ารางวัล Best Alternative Music Album มาครอบครองโดยไม่รู้ตัว
ในฐานะร็อกสตาร์หน้าใหม่ที่กลายเป็นขวัญใจศิลปิน Hayley Williams (Paramore), Dave Grohl (Foo Fighters), Florence Welch (Florence and the Machine), Iggy Pop และ Harry Styles พวกเธอยังมีฟอร์มดนตรีจังหวะสนุกสนาน เนื้อหาที่หยอกล้ออย่างตรงไปตรงมา และอารมณ์ขันเชิงขี้เล่นไว้มัดใจกลุ่มผู้ฟังระหว่างโชว์ ซึ่งสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของสองสาว Wet Leg ก็เผยให้เห็นว่าพวกเธอรักกันฉันฝาแฝดจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปแล้ว
เพลงที่แนะนำให้ลองฟัง: Chaise Longue, Angelica, Ur Mum
Towa Bird
ดาวติ๊กต็อกคนล่าสุด ที่ได้เดบิวเป็นศิลปินเต็มตัว หลังจากส่งเพลงเดบิวของตัวเองอย่าง Wild Heart ออกมา ทุกคนก็ตกหลุมรักท่าโซโล่กีตาร์ของเธอทันที หลังจากได้รู้จัก Jimi Hendrix ตอนอายุ 12 ก็ทำให้เธอรักการเล่นกีตาร์ขึ้นมาทันที ช่วงโรคระบาดที่แต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อ เธอจึงเปิดแอคของตัวเองแล้วก็เริ่มเล่นกีตาร์ลง Tiktok ไปเรื่อย ๆ จนทุกคนเชียร์ให้เธอทำเพลงของตัวเอง
สิ่งที่ทำให้เรายิ้มออกมาทันทีที่ได้รู้จักเธอ คือเธอนิยามตัวเองว่าเป็น Queer Woman การมีพ่อเป็นแรงบันดาลใจทำให้เธอตระหนักได้ว่าฉันแต่งตัวแบบผู้ชายก็ไม่ผิดอะไรนี่หว่า หรือการโซโล่กีตาร์ที่หลายคนเคยบอกกับเธอว่า มีแต่ผู้ชายที่โซโล่กีตาร์แบบนี้ ทำให้เธอเลือกที่จะโชว์การโซโล่ให้โลกเห็นว่า ไม่ว่าเพศอะไรก็เล่นกีตาร์ได้เท่ชิปหายเหมือนกันโว้ย
เพลงที่แนะนำให้ฟัง: Wild Heart, Boomerang
Arlo Parks
นักร้องนักแต่งเพลงที่ถ่ายทอดโลกทั้งใบผ่านมุมมองในแง่บวกด้วยดนตรีป๊อปโซลของเธอ เธอเลือกที่จะหยิบเรื่อง mental health ความสัมพันธ์ และประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่าในเชิงกวี ขุดลึกลงไปในจิตใจและถ่ายทอดออกมาอย่างเข้าใจ เนื้อเพลงที่อ่อนโยนและเป็นมิตร ทำให้เดบิวซิงเกิลของเธออย่าง Cola เรียกคะแนนจากนักวิจารณ์ได้ถล่มทลาย รวมถึง Eugene, Hurt และ Black Dog ก็เข้าถึงคนฟังจากทั่วโลกภายในเวลาไม่นาน
อัลบั้มแรกของเธออย่าง Collapsed in Sunbeams ก็บรรจุเสียงร้องที่มีเสน่ห์และเนื้อเพลงที่บีบมือให้กำลังใจเราได้อย่างน่าประหลาดแค่เพียงฟัง และที่สำคัญคือเธอต้องการสื่อสารกับคนหลากหลายทางเพศแบบเธอนั่นเอง
Parks ก็เป็นไบเซ็กชวลอย่างเปิดเผย และพูดถึงสิ่งที่เธอเป็นผ่านบทสัมภาษณ์ทุกอัน เธอต้องการสร้างเสียงที่คนหลากหลายทางเพศในโลกนี้ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมัน ซึ่งเธอเองก็เคลื่อนไหวและพูดคุยเกี่ยวกับสิทธิคนหลากหลายทางเพศตลอดเวลาเหมือนกัน
เพลงที่แนะนำให้ฟัง: Dog Rose, Blades, Caroline
Mykki Blanco
ศิลปินที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ที่ไม่เกรงกลัวที่จะทำลายล้างพรมแดนของแนวดนตรี และท้าทายต่อบรรทัดฐานต่อสังคมในเรื่องเพศ ผู้ป้ายกลิตเตอร์ลงบนประวัติศาสตร์ทางดนตรี Blanco ใช้ดนตรี hip hop, punk ไปจนถึงดนตรีทดลองเพื่อสร้างแรงกระเพือมบางอย่างต่อคนฟังทั่วโลก สไตล์การแร็ปที่ไม่เคารพต้นฉบับใด ๆ ทั้งความดิบในไรม์หรือพลังที่ปล่อยออกมาเหมือนประกาศว่าเขาไม่กลัวที่จะแปลกแยกจากโลกไหนทั้งนั้น
หลังจากมิกซ์เทปของเขาอย่าง Cosmic Angel: The Illuminati Prince/ss และ Gay Dog Food สร้างความโกลาหลให้กับซีนฮิปฮอปอเมริกาอย่างบ้าคลั่ง แต่ความสำเร็จที่แท้คือการสร้างแรงบันดาลใจและผลักดันคนหลากหลายในซีนดนตรีได้อย่างงดงาม
Blanco ไม่เคยปิดบังความหลากหลายทางเพศของตัวเองเลย ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนและดนตรีของเขา แถมยังพาแฟนเพลงไปสำรวจความหลากหลายในอัตลักษณ์ทางเพศอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตัวเขาเองก็ยังเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับสิทธิ LGBTQ+ ตลอดเวลา ผ่านโซเชียล เพลงและ MV ของเขา
เพลงที่แนะนำให้ฟัง: Head is a Stone, Loner, Carry On