ปิดปี 2023 ด้วยคอนเทนต์เอาแต่ใจของทีม The COSMOS ด้วยการสู้กันของอัลบั้มที่พวกเราชอบที่สุดตลอดทั้งปีนี้ ทำให้พวกเราต้องวางรสนิยมการฟังส่วนตัวไว้ก่อนบ้าง เลยเกิดคอนเทนต์นี้ที่ทุกคนอยากขายอัลบั้มที่ชอบแบบเอาแต่ใจกันสุด ๆ ถ้า 46 อัลบั้มที่เราแนะนำไปก่อนหน้านี้ยังไม่สาแก่ใจ ก็เรียนเชิญลองฟัง Editor’s Pick ชุดนี้ด้วยน้า
James Blake – ‘Playing Robots Into Heaven’ by IGGY
ปกติเราจะชินกับงานแอมเบียนต์ บัลลาด ไวบ์ซึมชวนหงอย แต่อัลบั้มนี้มาแหวกจนเราเซอร์ไพรส์ อิเล็กทรอนิกจัดจ้านซึมเข้าเส้น ใครจะไปคิดว่าจะได้ยินงานสไตล์ leftfield จากพี่เขาหลังยุคที่ไปโปรดิวซ์ให้ศิลปินป๊อปมากหน้าหลายตา แล้วยังใส่พวกเฮาส์ เทคโน ดีปเทค เบรก วนกลับไปโซนแถว ๆ ดั๊บสเต็ปที่เขาถนัดบ้าง รับประกันความเมื่อยเข่าถ้าเอาไปเปิดในคลับเพราะจังหวะหน่วงชวนย่อ เบสกระแทกกระทั้นสะใจ ส่วนพาร์ตทดลองหรือเวิร์ลมิวสิกที่แทรกเข้ามาก็ไม่ได้ย่อยยากเกินจนเต้นไม่ได้ แล้วก็ยังไม่ลืมใส่ซาวด์และเสียงร้องหม่นเศร้าแบบที่เราคุ้นเคยกันแทรกเข้ามาให้แฟนเพลงที่ติดรสมือบัลลาดไม่เหวอมากจนเกินไปนัก แต่ส่วนตัวแล้วเราอร่อยกับรสชาติจัดจ้านในอัลบั้มนี้มาก อยากให้พี่เขากดสุดบ่อย ๆ
Best 3 Tracks = ‘Tell Me’, ‘Big Hammer’, ‘I Want You To Know’
Sufjan Stevens – Javeline by BAM
คืออัลบั้มแห่งการสูญเสียและโอบรับที่ Sufjan Stevens เขียนขึ้นเพื่ออุทิศแด่คนรักผู้จากไปในปีเดียวกัน ส่วนตัวคิดว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานเพลงอาบน้ำตาที่งดงามน่าทึ่งด้วยองค์ประกอบทางดนตรีระหว่างอินดี้โฟล์คและบาโรกป๊อปอันแสนอบอุ่น แต่เดียวดาย ทั้งเครื่องสาย ซาวด์สังเคราะห์ เพอร์คัสชั่น เปียโน และริทึ่มที่ให้จังหวะเหมือนอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมไลน์คอรัสที่สอดประสานกันเป็นฮาร์โมนีอย่างทรงพลัง โดยเนื้อหายังเชื่อมโยงถึงเรื่องราวแบบ universal และ personal ที่เราสามารถ related หรือมีอารมณ์ร่วมกับมันได้ไม่ยาก ต่อการแสวงหาความหมาย กระทั่งการตั้งคำถามต่อจุดพีคจุดหนึ่งของชีวิต เมื่อถูกนำมาประกอบเสียงร้องสะอึกสะอื้นที่ฟังจบแล้วอยากเดินเข้าไปสวมกอดเบา ๆ
Best 3 Tracks: Will Anybody Ever Love Me?, Genuflecting Ghost, Shit Talk
xNOMADx – ‘On Skylines of Embers’ by OAT
ในขณะที่ชาว Gen-Z บนโลกก็ต่างแยกย้ายไปขวนขวายสิ่งที่ตัวเองสนใจในยุคที่ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ไม่มีที่สิ้นสุด ก็ยังมีคนกลุ่มนึงที่หยิบเอาดนตรี (Straight)Edgemetal, 90s – 00s Metalcore กลัมมาปรุงใหม่โดยคัดเอาแต่สิ่งที่พวกเขาชอบมายำรวมกันทั้ง riff / chug กีตาร์แบบ early metalcore และ คอรัสที่ไม่ต้องมีก็ได้ ไม่ประนีประนอม ขยับมาเบรคดาวน์เปลี่ยนจังหวะให้ two-stepping ไปเลยดิ แล้วก็ยังแทรกโมโลดี้แบบ melodic hardcore มาช่วยนำเสนอข้อความของเพลงในมุมมองขัดเกลาชีวิต ยกระดับความคิด (ก็เป็นวง straight edge) ไปสุดยัน aesthetic artwork ที่คัดเอาสไตล์ผลผลิตของยุค 00s มาใช้ ไม่คิดว่าตัวเองจะโหยหาอะไรแบบนี้มาก่อนในปี 2023 เหมือนกัน
Best 3 Tracks: ทุกเพลง เพราะมีอยู่สี่เพลง (เพลงแรกเป็น intro)
Thee Oh Sees – ‘Intercepted Message’ by BINN
เป็นวงที่เริ่มมาจากการทำโปรเจ็คเดี่ยวแนว Lofi / Experimental มันเลยทำให้เราตื่นเต้นทุกครั้งเวลาได้ฟังอัลบั้มใหม่ที่วงได้ปล่อยออกมา บางอัลบั้มก็มาทาง Psychedelic บ้างก็มาเป็น Garage Rock บางทีก็หวด Punk ขี้แตกมาเลย แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของซาวด์ Synthesizer ยุบยิบหูเป็น Background ของเพลงแลัวฟังสนุกอยู่เสมอ เอาจริง… เราว่าวงนี้มันจะหาคำจำกัดความได้ยากมากๆ ว่าเป็นแนวอะไรกันแน่ แต่เข้าเส้นแทบทุกเพลง อยากให้ฟังวงนี้กันเยอะ ๆ ใครชอบ King Gizz, Ty Seagull หรือ Fuzz จะต้องรักวงเน้!
Best 3 Tracks: Intercepted Message, Goon, Sleazoid Psycho
Soft pine – ‘Another half’ by JUMP
เป็นอัลบั้มที่ฟังแล้วโดนเส้น เด้งมาก โยกตามได้ทุกเพลง ต่างจากอัลบั้มก่อนมากๆ ทั้ง ดนตรี จังหวะ สีสัน การร้อง เหมือนได้รู้จัก soft pine อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง
Ryuichi Sakamoto – ’12’ by MCKEE
แค่คอนเซ็ปต์อัลบั้มก็สะเทือนใจสุด ๆ สตูดิโออัลบั้มอันกับสุดท้ายที่มีความส่วนตัวมาก ๆ ของเสด็จพ่อ เพราะเขาบันทึกเสียงต่าง ๆ ไว้ในช่วงที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งในโรงพยาบาลหรือบ้านพัก โดยนำเสียงแอมเบียนตั่งต่างมาผสมกับดนตรีทดลองในแบบที่เขาถนัดมาประยุกต์ เพื่ออธิบายสงครามของตัวเองที่ไม่มีวันรู้เลยว่าจะชนะมั้ย และการทำเพลงก็ดูเป็นวิธีเดียวที่เขาใช้ในการปลอบประโลมตัวเองได้ ทุกแทร็กคือการระบุวันที่แบบ ปี/เดือน/วัน ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นและเขารู้สึกยังไง เปียโนที่หงอยเหงาบิดตัวไปมาระหว่างห้อง เสียงสังเคราะห์ ความเงียบหรือเสียงหายใจถูกเรียบเรียงมาอย่างดี มันหลากอารมณ์ไปหมดในแต่ละคีย์ บางแทร็กคือการปลดปลงว่าชีวิตก็แค่นี้ แต่บางแทร็กก็เต็มไปด้วยความหวัง ซึ่งทั่วโลกก็ได้รู้แล้วว่าเขาได้พ่ายแพ้ให้กับโลกร้าย แต่อัลบั้มจะทำให้เขายังมีลมหายใจอยู่ในใจและหูแฟนคลับของเขาต่อไปอีกนาน
Best 3 Tracks = 20220123, 20220302, 20220404
Paramore – ‘This is Why’ by NEW
เราจะรู้สึกว่า Paramore เป็นวงอีโมมาตลอด จะต้องอยู่ในงานอย่าง Warped Tour เท่านั้นถึงจะถูกต้อง แต่พออัลบั้มนี้มันตอกย้ำมากว่า ศิลปินไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่ที่เดิมและสามารถที่จะ bend ตัวเองออกจากซีนนั้นด้วยการสร้างสรรค์ผลงาน และทำให้เรารู้สึกว่าแนวทางใหม่ของวงก็ไม่ได้ลดทอนความเป็น Paramore ลงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งก็ดูจะเป็นทิศทางที่ศิลปินหลายๆวงเริ่ม adapt ใช้เพื่อที่จะพาตัวเองไปอยู่ใน festival ต่างๆได้มากขึ้น และตอกย้ำความ worldwide มากยิ่งขึ้น เพลงในอัลบั้มนี้ยังคงมีกลิ่นความโกรธแบบอัลบั้ม Brand New Eyes (2009) อยู่บ้าง แต่เสริมด้วย beat สนุกๆ ที่แม้ไม่ได้ pop เท่ากับตอน Hard Times ใน After Laughter (2017) แต่ออกไปทางอินดี้สนุกๆกลิ่นแบบ Foals และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ชอบอัลบั้มมากๆ
Best 3 Tracks = This is Why, Running Out of Time, Crave
We are aliens who travel between galaxies to find the music we love across the universe.🛸💫