ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนจะสิ้นสุดเดือนธันวาคม สื่อนอกและนักฟังเพลงทั้งชาวไทยและเทศมักจะสรุปรายชื่ออัลบั้มหรือศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบ ถือเป็นธรรมเนียมที่คนรักดนตรีต้องเคยลองทำกันสักครั้ง โดยทีมงานคอสมอสเองก็มีลิสต์เล็ก ๆ น้อย ๆ พอกรุบกริบให้กับวงดนตรีบ้านเราเหมือนกัน วันนี้เราเลยถือโอกาสหยิบ 4 EPs จากวงดนตรีฮาร์ดคอร์ไทยที่ไม่อยากให้พลาดในปี 2024 มาฝากให้ทุกคนไปลองฟังกัน
mutationwrld – Mutation (DEMO)
สำหรับเรา พวกเขาน่าจะเป็นไม่กี่วงดนตรีน้องใหม่ในซีนนี้ ที่แค่เปิดตัวด้วย EP เดบิวต์ชุดแรกแล้วรู้สึกอยากติดตามฝีไม้ลายมือต่อยาว ๆ เลยทันที จากลูกผสมทางดนตรีเมทัลคอร์กลิ่นอายบีทดาวน์ติดแทรช ชวนให้นึกถึง Knocked Loose ปั่นรวมกับคณะ Sanction
กล่าวคือมันเป็นผลงานความยาวจำนวน 11 นาทีกว่าที่ดุดัน หนักเอาเบาสู้ และน่าสนใจในแง่ที่วงยังนำลูกเล่น เช่น การมิกซ์ซาวด์สังเคราะห์มาใส่ หรือใช้วิธีจับสไตล์การร้องแบบ Shouted Vocals มาสลับ Nu จนเกิดเป็นแทร็กที่ขอแนะนำเป็นการส่วนตัวอย่าง Unbodied, Burning Rhapsody ก่อนวงจะปิดด้วย Empty Dissonance แบบสวยงาม
38 Special – DEMO
อีกหนึ่งกรุงเทพฯ Old-school beat down รุ่นเยาว์ที่ไฟแรงไม่แพ้ใคร จังหวะแสลมกีตาร์ มีเพลงที่ใส่สไตล์การร้อง Growl ออกมาในลำคอ กึ่งแนว Brutal Death Metal ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในอีพีเดโม่ของ 38 Special (ที่ไม่ใช่วง Country, Southern Rock รุ่นปู่ของสหรัฐ) ที่น่าจะถูกจริตคุณผู้ฟังได้ไม่ยาก
อย่างแทร็กชื่อเดียวกัน พวกเขาก็มีริฟฟ์และท่อนเบรคดาวน์ที่ส่งพลังโดยไม่จำเป็นต้องสับคอร์ดเน้น ๆ ทั้งเพลงก็ได้ ซึ่งพาร์ทเรียบเรียงไดนามิกยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในเพลงทุกแนวอยู่ ฮาร์ดคอร์ก็เช่นกัน ส่วนเพลงปิดแบบ End of World ก็ทำเมโลดี้ได้โคตรเท่โคตรอันตรายจริง ๆ แอบพรีเซนต์แก๊งค์ 2SWORDZ ด้วยเลยละกัน ซัพพอร์ตศิลปินแล้วก็ไปสนับสนุนหนังสือทำมือ Fanzine เสื้อผ้าต่าง ๆ จากกลุ่มนี้ได้นะทุกคน
Carry On – Impermanence
ศิลปินกลุ่มเมทัลฮาร์ดคอร์จากค่าย Holding On Records ที่ขยับแนวเพลงจากอีพีก่อนหน้านี้นิดหน่อย นอกเหนือจากดนตรีไร้การพูดพร่ำ ซึ่งกระหน่ำซัดตั้งแต่วินาทีแรก ด้านเนื้อหาเพลงยังเป็นสิ่งที่เรียกให้เราโฟกัสการนำเสนอเรื่องราวของพวกเขา ผ่านชื่อผลงานที่แปลตรงตัวได้ว่า “ความไม่เที่ยงแท้” ประกอบรวมกับชื่อวงที่หมายถึง การเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปในขณะที่ต้องแบกรับสิ่งต่าง ๆ
เป็นปรัชญาที่ไม่ลึกล้ำซับซ้อน ทว่าวงก็สื่ออารมณ์ความเจ็บปวดจากการกรีดร้อง แหกตะโกน และกระเดื่องกลองที่สับยับได้ดียิ่ง แทร็กที่เราชอบที่สุดขอยกให้ Self-control สู่ Embrace ในท่อนเบรคดาวน์ที่ส่งไม้ต่อให้ไลน์เบสกับกีตาร์สุดพลุ่งพล่าน อันปลดปล่อยให้ผู้ฟังเป็นอิสระ
Whispers – Yom-Ma-Lok
สิบปีที่คุ้มค่ากับการโลดแล่นในวงการเพลงฮาร์ดคอร์ Whispers กลับมาพร้อมอีพี Yom-Ma-Lok ผลงานรองจาก Narok Bon Din (2021) ที่ซาวด์ของพวกเขาพัฒนาไปพร้อมการเดินทางครั้งใหญ่และยังได้เซ็นสัญญากับ Flatspot Records ค่ายเพลงสัญชาติอเมริกัน
โดยมีแขกเรือนอย่าง Jem Siow ฟรอนต์แมนตัวจี๊ดจาก SPEED ในเพลง A Choice to Survive, พี่ Shaun Alexander จากคณะ Demonstration Of Power ใน Wisenheimer (You Were Never One Of Us) และ Stephen Bessac จากวง Kickback ในเพลง Yom-Ma-Lok ร่วมทัพ เพื่อประกาศศักดาให้ถึงสรวงสวรรค์ โลกมนุษย์ และยมทูตรู้ว่าชาว Bangkok Evilcore ไม่ได้มาเล่น ๆ
ทั้งคุณภาพด้านโปรดักชั่น การเชื่อมต่อระหว่างเพลง อย่างแทร็กแรกก็ค่อนข้างมีความ emotional และเทมโปที่โทนดาวน์ลงมา พอตัดเข้าแทร็กสองที่ดำเนินด้วยคิกดรัม ผสมโรงกับริฟฟ์กีตาร์ไลน์เบสเท่ ๆ และโวคัลที่ไมค์และเจมร้องในช่วงสุดท้ายคือเท่เลย ยังไม่นับเพลงอื่น ๆ ที่ได้บรรดาพี่ชายมาห้ำหั่น กระทั่งกิมมิคใน Retribition ที่วงหยิบแบ็คกิ้งแทร็กเสียงพระสวดมาใส่ ยิ่งทำให้ผลงานชุดนี้ขลังขึ้นไปอีกขั้น
อ่านต่อ 4 วิธี ซัพพอร์ตศิลปิน ให้พวกเขาอยู่รอดในยุคสตรีมมิ่ง