ต่อกันด้วย 23 อัลบั้มนอกประเทศไทยที่เราชอบที่สุดในปีนี้ แต่ต้องยอมรับว่าอัลบั้มต่างประเทศมันมีจำนวนเยอะมาก ๆ และเชื่อว่าเรายังตกหล่นไปอีกหลายอัลบั้ม โดยเฉพาะอัลบั้มจากในเอเชียเองเนี่ยแหละ ที่เราอยากจะมีเวลาสำรวจมันให้เยอะกว่านี้ แต่ทุกอัลบั้มในนี้ก็เกิดจากการฟัง นั่งพูดคุยกันว่าอัลบั้มไหนควรอยู่ในบทความนี้บ้าง เอาปีนี้ก่อนว่า 23 International Albums of the Year 2023 มีใครบ้าง
Beach Fossils – ‘Bunny’
หลังจากห่างหายไป 6 ปี พวกเขาก็กลับมาพร้อมอัลบั้มที่ยังเข้มข้นด้วยซาวด์ชวนล่องลอยของ dream pop เหมือนเดิม แม้ถ้าเทียบกับอัลบั้มอื่น ๆ ในลิสต์แล้ว อาจจะดูไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่พวกเขาก็จะเป็น safe zone ให้พวกเราตลอดไป
เพลงที่แนะนำ ‘Run to the Moon’, ‘Dare Me’, ‘Tough Love’
Blink-182 – ‘One More Time…’
อัลบั้มล่าสุดของตำนาน pop punk ที่กลับมารวมตัวกันได้ปลุกความเป็นวัยรุ่นว้าวุ่นในตัวคุณ 19 บทเพลงในอัลบั้มนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากว่าแนวเพลงเป็นยังไง สำเนียงกลองของ Travis Barker ย้อนทำให้รู้สึกถึงความคึกคะนองในวัยเด็กที่กำลังต่อต้านผู้ปกครองแม้เวลามันจะเลยผ่านไป 20 กว่าปีแล้วก็ตาม การได้ฟังอย่าง One More Time ยอมรับว่าทำเอาน้ำตาซึมมากๆ เหมือนเป็นบทสรุปของช่วงเวลาที่ขาดหายไปของ Tome Delonge ในช่วง 5 ปี และการตรวจพบเจอมะเร็งของ Mark Hoppus
Blush – ‘Supercrush’
อัลบั้มชุดแรกของวงดนตรี Alt-Rock, Shoegaze สัญชาติสิงค์โปรที่เราจะได้เห็นพัฒนาการด้านซาวด์ที่ก้าวกระโดดขึ้นมาภายในระยะเวลา 2 ปี บนเมโลดี้ป๊อปฟังง่ายแล้วค่อนข้างอิมแพคกับเสียงร้องอันเปล่งประกายของ Soffi Peters ซึ่งทำให้เรานึกถึงบรรดาฟรอนต์เกิร์ลที่แม้จะมีความนุ่มนวลแบบเฟมินีน แต่พวกเขายังแฝงความกบฏด้วยการดีไซน์รายละเอียดเพลงที่ได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่มาจากศิลปินยุค 90s
เพลงที่แนะนำ ‘Crush’, ‘Supertruck’, ‘Mandy’
Bully – ‘Lucky for You’
คิดถึงวงดนตรีอัลเทอร์เนทิฟ อินดี้ร็อก เสียงแตกพร่าหู กับอินเนอร์กรันจ์ดิบ ๆ ที่ Alicia Bognanno ฟรอนต์วูแมนของวงร้องแผดเสียงไม่สนลูกใครแบบนี้มาก แล้วอัลบั้มล่าสุดของ Bully ก็มีให้เราครบรสที่โหยหา มีเพลงที่เป็นฟีลซาวด์แทร็คหนังวัยรุ่นยุค 2000s หรือ spoken words ปลดปล่อยอารมณ์ พอได้ฟังทั้งชุดก็เหมือนว่าวงพาคนฟังย้อนวัยกันไปเป็นวัยรุ่นได้อีกครั้ง
เพลงที่แนะนำ ‘Hard to Love’, ‘How Will I Know’, ‘All This Noise’
Caroline Polachek – ‘Desire, I Want to Turn Into You’
อาร์ตป๊อปสุดเด้งที่ฟังเพลินและเต้นเพลินอย่างที่สุด กับ 12 เพลงหลากแนวแต่ยังแน่นไปด้วยซาวด์สนุก ทั้งแดนซ์ฮอล ละติน UKG DnB ฟังแล้วเหมือนได้เที่ยวไปบนเกาะสวรรค์กับเธอ และยังหยิบยืมเอเลเมนต์จากงานชุดก่อนมาใช้บ้างในบางเพลงเพื่อให้ยังเกาะมู้ดกันไปได้ แถมยังได้ศิลปินอย่าง Grimes และ Dido มาร่วมแจมในอัลบั้ม และไวนิลชุดนี้ก็ถูกจับจองหมดในเวลาอันสั้น
เพลงที่แนะนำ ‘Welcome to My Island’, ‘Fly to You’, ‘Smoke’
Corinne Bailey Rae – ‘Black Rainbows’
ค้นหาแนวทางของตัวเองมาหลายอัลบั้ม มาจนชุดนี้เธอก็ evolve กลายเป็น genre-bender ไปแล้วอีกคน จากเพลงโซลป๊อป r&b ฟังสบายใน ‘Put Your Records On’ ที่ทำให้หลายคนได้รู้จักเธอ ตอนนี้ได้โอบรับเอาแนวดนตรีที่หลากหลายยิ่งขึ้นเข้ามาในงาน ทั้งร็อก ทดลอง นอยซ์ อิเล็กทรอนิก ซาวด์มีความท้าทาย หลากหลายแบบที่เรียกว่า Black Rainbows ได้เต็มปาก
เพลงที่แนะนำ ‘Black Rainbows’, ‘Erasure’, ‘New York Transit Queen’
Descartes A Kant – ‘After Destruction’
วงคอนเซ็ปต์แน่นวงนี้เขามาแหวก กับการเป็น retro-futuristic เต็มขั้น แค่แทร็คแรกที่เป็น introduction อัลบั้มก็ทำเป็นระบบคล้ายกับการตั้งค่าตอนเปิดใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรก แต่ DAK เขาทำเหมือนเป็นการตั้งค่าว่าเราจะได้ฟังเพลงแบบไหนในอัลบั้มนี้ แล้วพาเราเข้าสู่โลกพังก์ นอยซ์ อิเล็กทรอนิก prog-rock ชวนหัว เสียงร้องใส ๆ ผสมผสานการเรียบเรียงสุดป่วนที่คาดเดาไม่ได้
เพลงที่แนะนำ ‘Graceless’, ‘The Mess We’ve Made’, ‘After Destruction’, Ultra-Violence
Enforced – ‘War Remains’
ชุดใหม่ของ Enforced อาจจะไม่ได้ innovate สิ่งใหม่ขึ้นมาให้ดนตรี Crossover Thrash Metal แต่มันคือการนำทุกอย่างมีที่อยู่ในแล้วในทศวรรษก่อนมาหลอมรวมขึ้นรูปเป็นตีดาบชิ้นนึงที่โลหะของมันไม่จำเป็นต้องใหม่หรือบริสุทธิ์ ทั้งการสาดทุ่งระเบิดริฟกีตาร์ และเล่นสลับจังหวะเร็วกับเร็วมาก ชวนให้นึกถึง Sepultura ยุคแรก หรือยุคกลางของ Slayer และเทคนิคการตะเบงเสียงหรือน้ำเสียงคล้ายคลึงกับ Riley Gale (Power Trip) ขวัญใจคนฟังดนตรีสายนี้ที่ล่วงลับไป ทิ้งท้ายดาบที่ดีคือดาบที่รวมโลหะแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน
เพลงที่แนะนำ ‘Hanged by My Hand’, ‘Avarice’
GUM – ‘Saturnia’
นอกเหนือไปจาก Pond และ Tame Impala แล้ว Jay Watson เขาก็ยังมุ่งมั่นทำเพลงนีโอไซเคเดลิก/แอมเบียนต์ในแบบของเขาอย่างไม่ลดละ ในอัลบั้มล่าสุดนี้แม้จะดูสุขุมลุ่มลึก แต่ก็มีความซับซ้อนในการเรียบเรียงดนตรีมากยิ่งขึ้นไปด้วย แถมในบางแทร็คก็ได้ย้อนไปบูชาครูในเพลงโฟล์กไซเคเดลิก 60s ผ่านทางคอร์ดไลน์กีตาร์ ทว่าก็ใส่เอเลเมนต์อิเล็กทรอนิกเข้าไปให้ดูร่วมสมัย
เพลงที่แนะนำ ‘Muscle Memory’, ‘Real Life’, ‘In a Glasshouse (With No Light)’
Helsinki Lambda Club – ‘Welcome to Helsinki Lambda Club’
การนำเสนออัลเทอร์เนทิฟ นีโอไซเคเดเลียแบบตะวันตก แต่ยังยึดการร้องเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่ได้ทำให้เกิดกำแพงทางการสื่อสารภาษาดนตรีแต่อย่างใด ทั้งยังกลายเป็นศิลปินขวัญใจโชว์เคสเฟสติวัลโดยได้ไปเล่นมาหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัลบั้มชุดที่ 5 นี้ถือเป็นการค้นพบตัวตนของวงอย่างแท้จริง ความสนุกสนาน สดใส และหลากหลายแนวเพลงทำให้เราจอยได้สบาย ๆ
เพลงที่แนะนำ ‘Taiwanese Cigarettes’, ‘A Cold Break’, ‘See the Light’
Jockstrap – ‘I<3UQTINVU’
ดูโอ้อิเล็กทรอนิกสุดกวนที่เนื้อหาของเพลงเขาไม่เคยจะลดละในความทะลึ่งตึงตัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงคราง หรือเนื้อร้องที่โป๊เข้าขั้น explicit แต่เราก็สะใจกับส่วนผสมในดนตรีของเขาและเธอทุกครั้ง เสียง distortion, sampling อะไรที่เพี้ยนและคาดไม่ถึงเนี่ยแหละที่ทำให้งานของ Jockstrap สนุกและน่าสนใจ ยิ่งอัลบั้มนี้ได้ชวนศิลปินมากมายมาร่วมแจมทำให้เกิดสีสันใหม่ ๆ ขึ้นอีกเป็นกอง
เพลงที่แนะนำ ‘Sexy’, ‘I Touch’, ‘I Noticed You’
Jungle – ‘Volcano’
กลายเป็นอัลบั้มที่ชอบที่สุดของวงนี้ไปเลย พวกเขาหยิบจังหวะ nu-disco กับ soul jazz สนุก ๆ มาให้พวกเขาเต้นตามกันแบบฉ่ำหู เหมือนคอกเทลหวาน ๆ ที่กลมกล่อมด้วยวอดก้าเข้ม ๆ สลับกับเครื่องเทศรสเผ็ดเร้าใจ อัลบั้มนี้มีความเข้าใกล้ Daft Punk อยู่เหมือนกัน ทั้งจังหวะฮุกอะไรก็คือเอาเรื่องทุกเพลง โดยเฉพาะอัดร้องที่ทำให้เพลงมีสีสันขึ้นสุด ๆ ส่วนเพลงที่มีศิลปินมา feat ก็ให้รสชาติที่เฉพาะตัวมาก ๆ กับการใส่ hip-hop เข้าไปได้สนุกไม่แพ้กัน
เพลงที่แนะนำ ‘Back On 74’, ‘Every Night’, ‘Pretty Little Thing’
Kim Dracula – ‘A Gradual Decline In Morale’
หนุ่มน้อยอัจฉริยะจากออสเตรเลีย แค่ซิงเกิลแรกก็ทำให้เราต้องจำชื่อเขาได้ทันที กับการเบลนทุกแนวดนตรีอยู่ในเพลงเพลงเดียว ตั้งแต่ rock, nu-metal, screamo, drum ‘n bass, jazz ไปจนถึง bossa nova รวมถึงเทคนิคทางดนตรีอีกมากมายเกินกว่าจะนึกถึง ซึ่งเขาทรานซิชั่นทุกอย่างได้อย่างสมูธมาก ทุกเพลงล้วนเต็มไปด้วยความบ้าของเขา ในทางกลับกันถ้าไล่ฟังทั้งอัลบั้มมันก็ยังสมูธเหมือนเดิม เรียกว่าเป็นศิลปินอีกคนที่ลูกบ้าเยอะไม่แพ้ใคร
เพลงที่แนะนำ ‘Luck Is A Fine Thing (Give It A Chance)’, ‘Drown’, ‘Make Me Famous’
Kokeshi – ‘Reikoku’
Black Metal จากญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในตอนนี้ กับการผสมผสานดนตรี Hardcore, Post-Hardcore, Shoegaze และ Death Metal เข้าด้วยกันอย่างลงตัว กับการบิวต์ดนตรีตามสไตล์ Asmostphoric Black ไปเรื่อย ๆ จนเข้าหวด Blast Beat กันหัวหลุด
เพลงที่แนะนำ ‘taikai’, ‘kaiba ni shizumu’, ‘nahan kesson syoujo dokkyou’
Narrow Head – ‘Moments of Clarity’
ผลงานเต็มจำนวน 12 แทร็คที่เซอร์วิสนักฟังวัยวันวานโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าวงแทบจะควักทุกรายละเอียดของ sub-genre ฝั่งอัลเทอร์เนทิฟร็อก มาต่อเติมชิ้นส่วนสดใหม่ด้วยวัตถุดิบดั้งเดิมที่มีอยู่ ตั้งแต่กรันจ์ ชูเกซ เมทัล และโพสต์ฮาร์ดคอร์ บางแทร็คก็มีความ radio-friendly ผสมเอเลเมนต์เพลงป๊อปปลอดภัยต่อรูหู หากใครกำลังคิดถึงบรรยากาศที่เหมือนเปิดเพลงตามวิทยุหรือมิวสิคแชแนลสมัยก่อน ก็ไม่ควรพลาดอัลบั้มนี้
เพลงที่แนะนำ ‘Sunday’, ‘The World’, ‘Flesh & Solitude’
No Party For Cao Dong – ‘瓦合 (The Clod)’
อัลบั้มแห่งเมฆฝนสีดำเทาของวงดนตรีจากประเทศไต้หวันที่วาดระบายเสียงร้องไห้และบรรเลงความอัดอั้นตันใจผ่านดนตรีโพสต์ร็อคไว้อย่างกล้าหาญ ครบทั้งซาวด์ดุดัน หม่นเศร้า รวมถึงการเรียบเรียงไดนามิกเพลงและเมโลดี้ในรูปแบบสวยงามเรียบง่าย ทว่ามีพลังมากพอที่จะโอบอุ้มเราให้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า บนความรู้สึกถึงอ้อมกอดที่ใครคนหนึ่งพึงมอบให้อีกคนที่กำลังแตกสลายได้
เพลงที่แนะนำ ‘The Human, the Hole and the Mountain’, ‘Daydream’, ‘Chang’
ONE CLICK STRAIGHT – ‘ONE CLICK STRAIGHT’
อินดี้ร็อก-ซินธ์ป๊อปสัญชาติฟิลิปปินส์ที่ defined ดนตรีของตัวเองว่าหวานนุ่มราวลูกกวาด หากส่วนผสมหลักของพวกเขาในอัลบั้มนี้ เต็มไปด้วยองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งดรัมบีท ริฟฟ์พังค์ ผสานกลิ่นอายนิวเวฟ กับจังหวะอัพลิพท์ที่ไม่เน้นซาวด์หวือหวาเยอะ แต่ค่อนข้างกลมกล่อมและน่าจะถูกใจวัยรุ่นเจเนอเรชั่นใหม่ได้ไม่ยาก
เพลงที่แนะนำ ‘Untitled 01’, ‘Untitled 02’, ‘Dahan-Dahan’
Paramore – ‘This Is why’
แค่ได้ฟังเพลง This Is Why ครั้งแรก มันก็ตราตรึงใจเราสุด ๆ ไปเลย กับอัลบั้มที่ลดความอีโมของตัวเองลง และเติมสไตล์อินดี้ร็อกลงไปได้สนุกและเท่สุด ๆ ไปพร้อมกัน ขยับตัวเองเข้ามาในตลาดเพลงร็อกได้อย่างสวยงาม รวมถึงภาพรวมของอัลบั้มนี้ที่มีความอัลเทอร์เนทีฟยุค 2000 ก็ทำให้คนที่โตมากับวงก็เข้าถึงทุกเพลงได้ไม่ยาก ยิ่งไลน์กลองกับไลน์กีตาร์ที่จี๊ดจ๊าดเกินขีดก็ทำให้คนที่ไม่ใช่แฟนวงติดใจอัลบั้มนี้ได้เหมือนกัน
เพลงที่แนะนำ ‘This Is Why’, ‘Running Out of Time’, ‘Figure 8’
Squid – ‘O Monolith’
อีกหนึ่งวงโพสต์พังค์ลูกบ้าจากเมืองอังกฤษที่กำลังถูกจับตามองด้วยสไตล์ดนตรีและเสียงร้องกึ่งแหกคอตะโกน ซึ่งอัลบั้มชุดนี้โทนดาวน์ความโหวกเหวกโวยวายลงเล็กน้อย แล้วโชว์สกิลการดีไซน์ซาวด์สุดน่าตื่นตาที่เราต้องยอมรับในความ Innovative และเนิร์ดดนตรีของพวกเขา ผ่านหลากเอเลเมนต์แปลกประหลาด ทั้งกลิ่นอาย electronica, psychedelia และจังหวะเพอร์คัสชั่นแบบ krautpop ที่พอลองฟังดีเทลดี ๆ แล้วเส้นเด้งไม่เบา
เพลงที่แนะนำ ‘Swing (In a Dream)’, ‘Undergrowth’, ‘The Blades’
Subsonic Eye – ‘All Around You’
ปีนี้สิงค์โปรเขามาแรงจริง ๆ สำหรับ Subsonic Eye ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอินดี้แบนด์ที่หยิบจับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวกับบรรยากาศระหว่างวิถีชีวิตคนเมืองและธรรมชาติ มาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านซาวด์ดนตรีและท่อนฮุคของพวกเขาได้อย่างอบอุ่นละมุน รวมถึงความกระฉับกระเฉงในจังหวะเพลงสไตล์ป๊อปร็อกที่ชวนเพลิดเพลินมาก ๆ เมื่อฟังต่อกันทั้งชุด ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายยังมีสิ่งสวยงามรอคอยเราอยู่เสมอ
เพลงที่แนะนำ ‘Performative’, ‘J-O-B’, ‘Yearning’
Yves Tumor – Praise a Lord Who Chews but Which Does Not Consume; (Or Simply, Hot Between Worlds)
ความ art-rock ที่กรีดกราดพร่างพราวสวยงาม จังหวะจะโคนที่ไม่มีใครเหมือน ตัวแม่เสียงพ่อที่ทุกคนหลงรัก จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Yves Tumor กับอัลบั้มที่สี่ของเขาที่ยากขึ้นไปอีกระดับ กับการออกแบบดนตรีที่กล้าท้าทายจังหวะดนตรี มีส่วนผสมของหลากหลายแนวดนตรี ตั้งแต่กลิ่นของ industrial ที่แข็งกราว หรือผสมแร็ปลงไปในบางเพลง เปรียบได้กับชุดฟินาเร่งาม ๆ ซักชุดที่มีเครื่องประดับงดงามไปหมด
เพลงที่แนะนำ ‘Parody’, ‘Heaven Surrounds Us Like a Hood’, ‘Echolalia’
Zulu – ‘A New Tomorrow’
ดาวรุ่งดวงใหม่ของอเมริกันฮาร์ดคอร์ซีนกับคอนเซ็ปต์อัลบั้มที่มีเมสเสจค่อนข้างเด่นชัด ด้วยการระบายความโกรธเกรี้ยวพร้อมเฉลิมฉลองต่อความภาคภูมิใจในชาติพันธุ์ พวกเขาเลือกโอบรับเสียงเพลงที่ควบรวมแจ๊ส โซล ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี โดยไม่ละทิ้งมนต์เสน่ห์ของดนตรีหนักหน่วงไปไหน แม้องค์ประกอบภาพรวมในส่วนของทรานสิชั่นระหว่างแทร็คบางแทร็คจะโดดห่างออกจากกัน แต่ก็ไม่ทำให้เสียรสชาติในด้านวิธีการเล่าเรื่องเลย
เพลงที่แนะนำ ‘Fakin’ Tha Funk (You Get Did)’, ‘Lyfe Az A Shorty Shun B So Ruff’ ‘Who Jah Bless No One Cursed’
Best Album of the Year:
Enter Shikari – ‘A Kiss For The Whole World’
มาถึงสตูดิโออัลบั้มอันดับที่ 7 แล้ว แต่พวกเขาก็ยังมีลูกเล่นใหม่ ๆ มาให้เราโยกหัวตามตลอด พวกเขากลับมาได้เท่สุด ๆ กับการผสมความเป็นเมทัลเข้ากับดนตรีอิเล็กทรอนิกได้ลงตัวอย่างประหลาด บาลานซ์ความร็อกเดือด ๆ ให้เข้ากับความสนุกของดนตรีได้อย่างเพลินมาก คิดจะปล่อย dubstep อัดเราให้ตกใจเล่นก็ทำ เรียกว่าลูกบ้าเต็มไปหมดทั้งอัลบั้ม สลับอารมณ์แทบไม่ทันทุกเพลง แต่บอกเลยว่าดูสดแม่งมันแน่นอน
เพลงที่แนะนำ ‘A Kiss For The Whole World’, ‘It Hurts’, ‘Jailbreak’
อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา