TELEX TELEXs เดินทางมาถึงอัลบั้มที่ 3 แล้ว กับ Boy, I Can’t Stay With You All Night ซึ่งกลับมาทวงตำแหน่งเจ้าแม่แห่งเพลงอกหักอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมสไตล์ดนตรีในอัลบั้มที่หลากหลายขึ้นมาก ด้วยรูปปกที่เซ็กซี่เกินคาด ก็เป็นการประกาศกลาย ๆ ว่าพวกเขาเองก็โตขึ้นเยอะมากในอัลบั้มนี้ มันจึงมีหลาย ๆ เลเยอร์ในความเศร้าของพวกเขา โดยเฉพาะการรับมือกับความเศร้าก็อาจจะไม่ใช่แค่การร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ หรือสบถด่าอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ แต่บางคนอาจรับมือกับความเศร้าด้วยการนั่งเปิดเพลงฟังในคืนเหงา ๆ คืนหนึ่ง ออกไปกินหมูกะทะแล้วรีบกลับบ้านนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ทำให้ไม่มีเวลามานั่งร้องไห้อะไร
จากปากคำบอกเล่าในโพสต์ของ ปิ้ว มือซินธ์และคนแต่งเพลงของวงก็อธิบายว่า อัลบั้มนี้เพลงเสร็จหมดเลยก่อนที่จะคิดคอนเซปต์อัลบั้ม ก็เลยอาจจะเป็นเพลงที่มีความแตกต่างกันมาก ๆ ขึ้นอยู่กับว่าไปเจออะไรมาในแต่ละเพลง แต่ที่น่าสนใจคือวิธีการทำงานที่ใช้ดนตรีจริงมากขึ้น ซึ่งปิ้วเล่าไว้ดังนี้
“อัลบั้มนี้มีการใช้เสียงสังเคราะห์น้อยลงมาก ๆ มีการอัดกลองจริงมากขึ้นในหลาย ๆ เพลง ใส่เสียงกีตาร์โปร่ง และเปียโนจริง ทำให้มันดูมีความจริงจังขึ้นมาก ๆ ในทางด้านดนตรี และสำหรับเนื้อเพลงในอัลบั้มนี้ ก็จะมีการลองขึ้นและแต่งจากกีตาร์โปร่งบ้าง ซึ่งอัลบั้มที่ผ่าน ๆ มาเราไม่ค่อยได้ทำ ซึ่งก็เป็นวิธีที่เมื่อก่อนตอนเป็นเด็ก ๆ ผมใช้แต่งเพลงอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นการลองกลับมาทำอะไรที่มัน Basic ของตัวเองอีกครั้งนึง (ยกตัวอย่างเพลง ดาว, timetosay, ฤดูร้อน, รอ)”
ผลลัพธ์ของอัลบั้มนี้ เหมือนเป็นการมองหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของวงมากกว่าเหมือนกัน ทำให้เราได้ลองฟังหลากรสชาติของเพลง เกือบทุกเพลงก็เวิร์คมาก ๆ สำหรับเรา ส่วนใครยังไม่ได้ลองฟัง ก็มาฟังไปพร้อม ๆ กันทีละเพลงตามในบทความนี้ด้วยกันนะ
เปิดอัลบั้มแบบสดใสสุด ๆ ด้วยเพลง Paris ซึ่งเป็นเพลงแรกหลังจากที่วงเข้าค่าย Juicey ด้วย เป็นเพลงที่คัมแบ็กแบบคลั่งรักสุด ๆ ซึ่งก็ยังเป็นซินธ์ป๊อปที่น่ารักเหมือนเดิม แต่ในความรู้สึกคือมีส่วนผสมของความป๊อปมากขึ้น ไม่ได้ใส่ซินธ์เสียงแหลมจี๊ดจ๊าดอะไรมากมายเหมือนอัลบั้มก่อน ก็ทำให้เพลงดูอุ่นและฟังเพลินขึ้นเยอะ นอน (burnout) ก็เป็นอีกเพลงที่เราแอบชอบนะ ดนตรีที่มีกลิ่นของความ chiptune แทรกด้วยเสียงคล้ายโวคาลอยด์เข้ามาก็ได้รสชาติแปลกใหม่ดี เพลินกับลูกเบสเด้ง ๆ ในเพลงด้วย เนื้อเพลงก็น่ารักตรงใจวัยรุ่นดี ส่วนตัวก็ชอบนอนหนีปัญหาเหมือนกันเลยอินเพลงนี้เป็นพิเศษ
มาถึงเพลง ใช่หรอวะ (WTF) ที่เอาใจแฟนคลับวงแบบเต็มที่ ทั้งรูปรสอารมณ์เสียง ทุกอย่างคือเป็นสไตล์ TELEX TELEXs ที่เราคุ้นเคย และไม่แปลกใจถ้ามันจะกลายเป็นเพลงติดปากทุกคนทันทีที่ฟังครั้งแรก กับท่อนฮุกที่อยากตะโกนตามทุกครั้ง ดูเป็นท่าไม้ตายใหม่ของวง ดาว (Let Me) intro ด้วยบันลาดเหงา ๆ ขายพลังเสียงของ ออม เต็ม ๆ ก่อนครึ่งหลังจะซัดจังหวะป๊อปเศร้า ๆ เข้ามาจน แอบเห็นมี ปกป้อง Plastic Plastic มาช่วยแต่งเพลงด้วย
เธอไม่ต้องกลับมา (Just Don’t) ที่เซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการได้ โจริน 4EVE มาช่วยเติมความเจ็บปวดผ่านเสียงหวานจับใจให้ด้วย แอบขโมยซีนเหมือนกัน แต่ outro ที่วงปล่อยของกับฮุกสุดท้ายก็ไม่อ่อมเลย กลายเป็นเพลง T-Pop ที่สมบูรณ์แบบ Boy, I Can’t Stay With You All Night เข้าใจว่าเป็นซิงเกิลปล่อยของกับ instrumental ของปิ้ว ที่มีกลิ่นของความ lo-fi บีทเพลิน ๆ เจือคราบน้ำตานิด ๆ เอาไว้ฟังตอนขับรถเพลิน ๆ ได้
มาถึงครึ่งหลังของอัลบั้ม กับ 2 เพลงที่ชอบมากในบั้มนี้ กับ มันจบไปแล้ว (It’s Over) ที่มีความเป็น r&b เท่ ๆ ที่เปิดด้วยซินธ์เสียงแหลมแสบทรวง ก่อนออมจะร่ายมนต์ให้เพลงดูเศร้าตั้งแต่คำแรก ก่อนจะโชว์ฮิตโน๊ตในท่อนฮุกด้วย บีทก็เอาเรื่องเหมือนกัน และ การเต้นรำของเงา (Eclipse) ที่ใส่เต็มด้วยจังหวะป๊อปร็อกสนุก ๆ ได้รสชาติแปลกใหม่ของวง เพลงก็ไต่ความไฮป์ไปได้ตลอดทั้งเพลง โดยเฉพาะฮุกสุดท้ายที่ใส่อารมณ์กันสุดขีด แล้วจบด้วย outro ที่กระแทกอารมณ์สุด ๆ ฟังครั้งแรกคือชอบเพลงนี้ทันที
Halloween เอาใจคนอกหักด้วยอินโทรด้วยบีทหวานแหววชวนโยกตาม จังหวะซินธ์ป๊อปที่มีลูกกรูฟที่โคตรเท่ โดยเฉพาะฮุกที่มีกลิ่น 90 มาก ๆ ท่อนโซโล่ก็ปล่อยของสุด ๆ ทำไมฟังแล้วคิดถึงเพลงคริสติน่าไม่รู้ ฮา เนื้อเพลงก็น่ารักดี ปรับอารมณ์กันหน่อยด้วย timetosaygoodbye. ที่ปิ้วโชว์เสียงของตัวเอง ซึ่งมีความป๊อปฟังเพลินที่ถูกออกแบบมาอย่างดีให้เราต้องฟังวนไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งอกหักแล้วอยากจะหาเพลงร้องไห้ตาม เพลงนี่ก็เหมาะมาก
ฤดูร้อนที่ไม่มีเธอแล้ว (Without) ก็กลับมาเป็นซินธ์ป๊อปสนุก ๆ อีกครั้ง ลูปกลองชวนใจลอยกับบีทหวาน ๆ ที่เคลือบยาพิษด้วยเนื้อเพลงชวนเศร้า ฟังแล้วพร้อมเก็บกระเป๋าไปทะเลตอนนี้เลย เป็นอีกเพลงที่ก็ฟังวนได้เหมือนกัน ก่อนจะจบด้วย รอ (Endless) ที่มีแค่กีตาร์โปร่งกับเสียงสะเทือนอารมณ์ของออม เรียกว่าเป็นอะไรที่ฉีกจากสิ่งที่วงเคยทำมาก ๆ ก็เป็นป๊อปที่ต้องมีติดเพลย์ลิสต์ไว้บ้างในวันที่กำลังเศร้า
ฟังอัลบั้มนี้จบแล้ว เราแอบตื่นเต้นเหมือนกันว่าโชว์ของพวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง การออกแบบโชว์เพื่อเล่นเพลงในอัลบั้มนี้น่าจะทำให้ได้อรรถรสใหม่ ๆ ของการไปดูวงนี้สด ๆ บนเวทีอยู่เหมือนกัน แอบหวังว่าคอนเสิร์ต “TELEx TELEXs โบกไก่ Strikes Back” ที่กำลังจะจัดขึ้นที่ Voice Space จะได้ฟังเพลงใหม่ ๆ หลายเพลงในอัลบั้มด้วยนะ กดบัตรพร้อมกัน 30 มีนาคมนี้ที่ Ticketmelon
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และฟังเพลงใหม่ของวงก่อนใครได้ที่ Facebook และ Instagram
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา