Solitude Is Bliss คือวงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อก 5 ชิ้น สังกัด Pollinate Records จากเชียงใหม่ที่ครองใจผู้ฟังด้วยเนื้อหาชวนขบคิด ชวนกู่ร้อง โดยแฝงความหมายในแง่สังคมการเมือง ปุถุชน ความเรียบง่ายบ้างซับซ้อนของมนุษย์ และเล่นล้อกับเรื่องราวชีวิตอย่างอบอุ่นแต่มากด้วยอารมณ์ตลกร้าย ซึ่งเราเชื่อว่าแฟนคลับหรือใครในที่นี้ก็ต้องเห็นพ้องกันอย่างแน่นอน
ล่าสุดโซลิจูตก็กลับมาเดินสายทัวร์พร้อมปล่อย Such A Vast Sea ผลงานชุดที่ 4 ที่เปรียบเหมือนสนามทดลองในการสร้างสรรค์ซาวด์ที่อนุญาตให้พวกเขาได้ขยับสู่คลื่นเสียงใหม่ ๆ เช่นเดียวกับชื่ออีพีที่แปลตรงตัวว่า “มหาสมุทรอันกว้างใหญ่” หรือท้องทะเลที่รอคอยการสำรวจ แม้บางเวลามันอาจคล้ายคลื่นกระทบฝั่งที่เราต้องย้อนกลับมาตั้งคำถามตัวเองอีกครั้ง
พวกเขาเคยฝากผลงานเด็ด ๆ มาแล้วถึง 3 ชุด อาทิ Montage (2013), อัลบั้ม Her Social Anxiety (2015) และ Please Verify That You Are Not A Robot (2019) ผ่านดนตรีร็อกหลากหลายรสชาติเฉพาะทาง ทั้งการบรรเลงกีตาร์ขับกล่อม การดีไซน์ซาวด์พ่วงไดนามิกที่ขึ้นลงอย่างวูบวาบ และภวังค์เสียงที่ปฏิเสธไม่ได้ กระทั่งความรู้สึกเคร่งขรึม เมามาย หรือหัวเราะร่า Solitude Is Bliss ก็ยังคงเอกลักษณ์ด้านคุณภาพเอาไว้ โดยแต่งแต้มจากประสบการณ์ ซุ้มเสียงแปลกประหลาด และคำบอกเล่าที่ Related ในแต่ละบุคคล
“เราต่างลุ่มหลง…เราต่างวาดฝัน…เราต่างคาดหวัง”
เปิดเฟิร์สแทร็กด้วย No Star In The Sky กับจังหวะเท่ ๆ สับผ่านกีตาร์ ท่อนริฟฟ์ และไลน์ร้องสุด Catchy ที่ค่อย ๆ ดำเนินรีทึ่มเบสกลอง พร้อมเสริมมิติเสียงของคีย์บอร์ด ก่อนทะยานขึ้นฟ้าแล้วลงจอดเพื่อตบเข้า I Don’t Know If I Treated It Right ที่ประเดิมลูปกีตาร์คู่การเคาะจังหวะสลับซาวด์สังเคราะห์ ประกอบเอฟเฟคเสียงร้องกึ่งโรบอทของเฟนเดอร์ที่แอบเล่นลูกคอแบบเป็นพิธี ทำให้ไดนามิกเพลงในแต่ละช่วงออกมากลมกล่อมพอดี
และจากทั้งหมด 6 แทร็ก Background Noise น่าจะเป็นเพลงจังหวะเร้าชวนสะดีดสะดิ้งที่สุดในชุดนี้แล้ว มีครบทั้งกลิ่นอายโพรเกรสซิฟ การาจ เคลือบบนคลาสสิคร็อกแอนด์โรลอีกที ยิ่งเจอเสียงร้องกวนโอ๊ยบวกริทึ่มสนุกสนาน ยิ่งปฏิเสธร่างกายได้ยากมาก ๆ (เอ้า ! โยกไป)
ตามด้วย Mango กับการใส่ลูกเล่น เปรยคำหยอกปนน้ำเสียงหมอง ๆ “น้อยใจ…ปอกมะม่วงกิน” ที่หยิบความป๊อปของดนตรีจับอารมณ์ขันปนเซ็ง ๆ จากชีวิตจริงที่อาจแก้ไขอะไรไม่ได้มากนักเลยขอกินผลไม้ให้สดชื่นสักนิด
Propellerhead อีกหนึ่งเพลงคักคึกแซมกลิ่นอายดั๊บและสำเนียงเรกเก้ที่เปรียบตัวเองเป็นใบพัด เพราะไม่ว่าลมแรงหรือโดนปั่นหัวแค่ไหนก็ไม่หวั่น จังหวะกลองมาร์ชชิ่งกับเสียงกีตาร์สุดสะเด่าที่แวะมาปลุกพลังแบบม่วนจอย ไม่ค่อยมีให้เห็นจากพวกเขาเท่าไหร่ เล่นสดสนุกชัวร์
ปิดท้ายด้วย Secret ที่ร้อยเรียงเสียงไซเคเดลิกให้สั่นไหวอย่างเนิบช้าแต่รู้สึกพรั่งพรูอยู่ในจิตใจ ทั้งเนื้อหาเชิงธรรมและเมโลดี้สละสลวย ตัดซ้อนเลเยอร์ซินธ์ พาร์ทโซโล่กีตาร์บาดลึก และฉาบกลองเน้นจังหวะราวสะกิดให้ตื่นเมื่อตกหลุม บรรยากาศภาพรวมของเพลงจึงสามารถทำให้เราสัมผัสถึงจุดที่เรียกว่า “สุขสันโดษ” ได้อย่างแท้จริง
ติดตามความเคลื่อนไหว และเพลงใหม่ ๆ ของพวกเขาได้ที่ Facebook และ Instagram
อ่านต่อ
ฝ่าเมฆฝนดำทะมึนผ่าน The Clod อัลบั้มใหม่จาก No Party For Cao Dong
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist