PLASUI PLASUI กลับมาพร้อม EP ใหม่ล่าสุดในชื่อ Pristis zijsron พร้อมปกที่เป็นปลาฉนากเขียวซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีใบเลื่อนอยู่บนหัว กำลังจองมองพวกเราด้วยอารมณ์อย่างไรก็เดาไม่ถูกเหมือนกัน (แต่บางคนก็มองเป็นคนปากหนา ๆ กำลังทำหน้าบึ้งใส่ ฮา) ซึ่งวงเองก็ใช้ artwork แบบนี้มาซักพักใหญ่แล้ว จนสุดท้ายก็มาอยู่บนปกนี้
เราแอบถาม ปาร์ค มือกีตาร์ของวงว่า ทำไมถึงเลือกเอาปลาฉนากเขียว แล้วยังเอามาเป็นชื่ออัลบั้มอีกด้วย ปาร์คก็ขอตอบในฐานะตัวแทนวงดังนี้
“เพราะเป็นปลาที่ใกล้สูญพันธุ์ครับเลยอยากจะให้ทุกคนช่วยอนุรักษ์ดูเชิญชวนหรืออาจจะรบกวนให้คนไปรีเสิร์ช แล้วเห็นความน่ารักของมันบ้างก็ยังดีครับ ส่วน EP นี้เนื้อหาของเพลงหลักส่วนใหญ่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องของเวลา มันเหมือนเป็นตัวกำหนดชีวิต เรื่องราว หรือความรู้สึก ให้อยู่ในทิศทางที่จะมีความสุข หรือเสียใจ ก็ต้องใช้เวลานำพาไป Isla เป็นเพลงส่งท้ายที่จะปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่างทิ้งไปและถึงเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่”
อีกหนึ่งข้อสังเกตคือ EP นี้ยังคงความ lo-fi ของตัวเองเอาไว้ เหมือนอัลบั้ม Moraray ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าอัลบั้มนี้มันรวมเพลงเก่า ๆ มาในอัลบั้มด้วยเลยอาจไม่ได้อัดใหม่ทั้งหมด บางเพลงที่มัน lo-fi เลยเข้าใจได้ ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวเราชอบ EP Su’ imon มาก เพราะอัดเสียงคุณภาพ ชัดทุกชิ้นจนเราฟังหูฟังดี ๆ แล้วประทับใจมาก แต่พอ EP นี้กลับมาเป็น lo-fi ก้อน ๆ อีกครั้ง ก็อาจเป็นสไตล์ที่วงเองอยากไปมากกว่าด้วย เพราะมันได้มวนอารมณ์ที่ลอย ๆ กว่า
ไม่พูดพร่ำอะไรมากมาย หากฉันรู้ ก็กระชากทุกคนเข้าสู่ภวังค์ของกีตาร์นุ้งแหน่วที่อบอุ่นล่องลอยของเพลง ซึ่งก็เป็นสไตล์ดนตรีอย่างที่วงถนัดเหมือนเดิม กับลูปดนตรีที่อบอุ่นน่าฟัง พร้อมท่อนโซโล่กีตาร์ที่ชวนฝัน เรียกว่าเอาใจแฟน ๆ สุด Time Machine feat. Anatomy Rabbit เองก็น่ารักไม่แพ้กัน การมาเจอกันของสองวงที่เธอชอบนี่คือเป็นคอมโบที่อิ่มสุด ๆ แถมทั้งสองวงก็ปล่อยของกับผ่านเนื้อเพลงที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ Anatomy Rabbit เองก็ไม่ตายไมค์เลย โซโล่ช่วงหลังที่กดรีเวิร์บยับจนเราหลงในวังวนเหมือนอกหักทิพย์ ยิ่ง outro ปลาซุยก็เฉือดเรานิ่ม ๆ ด้วยฮุกทิ้งท้ายได้ดีมาก Parallei Lines เพลงช้าอีกเพลงที่ทำเราใจบางมาก บีบเค้นอารมณ์สุด ๆ แต่ท้ายเพลงก็ยังใส่ไลน์กีตาร์เท่ ๆ เข้ามาตอกย้ำอารมณ์อีก
Happy Hurtday ยังคงเป็นเพลงที่ชอบที่สุดเหมือนเดิม ตั้งแต่ฟังครั้งแรกก็คือไม่มูฟออนอีกเลย กับการตบบ่าเราดัง ปั๊ก! ด้วยท่อนฮุกที่ถูกหยิบมาขยี้ในช่วงแรกเลย หลังจากนวดเรามาทั้งเพลง ก็ลูบหลังเราด้วยโซโล่ outro ที่เท่มาก ๆ กีตาร์ที่ไล่เมโลดี้หวาน ๆ เหมือนภาพทรงจำเก่า ๆ ที่เลื่อนผ่านตาเราอย่างรวดเร็วก่อนจะฉายให้เห็นความจริงว่ามันไม่มีแล้ว ต่อเลยด้วย Good Time / ยืม ที่หยิบเมโลดี้เศร้า ๆ ของเพลงที่แล้วมาเป็น intro ได้อย่างเนียนกริบ ก่อนจะหยิบอิลิเมนเหล่านั้นมาระบาย ๆ ไปทั้งเพลงด้วย แถมยังอัดร้องอีกแบบ เมื่อบอกกลาย ๆ ว่านี้คืออีก stage ของความเศร้ารึเปล่า เหมือนกำลังทำใจยอมรับความผิดหวัง แต่กีตาร์ก็ยังไว้ไลน์ได้อย่างน่าฟังเหมือนเดิม
แต่ของเด็ดคือเพลงสุดท้ายอย่าง Isla ซึ่งวงก็ปล่อยของกันสุด ๆ ด้วยการหยิบจังหวะดนตรีพื้นบ้านมาผสมกับไลน์กีตาร์ของตัวเอง รีเวิร์บในบางช่วงมีกลิ่นไซคีออกมาอย่างม่วนสุด ๆ ฟังครั้งแรกแล้วชอบเลย ซึ่งอย่างที่วงบอกว่าเหมือนกำลังจะปลดปล่อยอะไรออกไปเพื่อเริ่มใหม่ หรือจะบอกใบ้ถึงสไตล์ดนตรีที่วงกำลังจะไปกันนะ อยากบอกว่าทำเลย ชอบมาก
บอกเลยว่า EP นี้เพลงเศร้าแน่นสุด ๆ ใครเพิ่งอกหักแล้วมาฟังไล่ทั้งอัลบั้มก็คือร้องไห้ฮือ ๆ แน่นอน แต่เป็นความเศร้าที่ปลาซุยจะพาทุกคนก้าวข้ามช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ถ้าคิดถึงเขาเมื่อไหร่ก็ใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงปลาซุยเลย ซึ่งเป็นอีกอัลบั้มที่วงทำได้ดีเหมือนเดิม แต่แอบประทับใจเพลงสุดท้าย อยากเป็นกำลังใจให้วงถ้าอยากลองอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และฟังเพลงใหม่ ๆ ของวงก่อนใครได้ที่ Facebook และ Instagram
_less รวมเรื่องทะเล้น ๆ ของวัยรุ่นอินเทอร์เน็ต ในอัลบั้มแรก _RUKRUKLERKLERK
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา