Dead End Korridor วงดนตรีที่เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนสมาชิกชาวสถาปนิก โดยชื่อวงยังมีที่มาจาก Dead-end corridor ศัพท์เฉพาะทางสถาปัตยกรรม หมายถึงทางตันหรือปลายทางเดินภายในอาคารที่อยู่ไกลบันไดมากเกินไปมันอาจเป็นอุปสรรคต่อการอพยพ และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน มันอาจให้เกิดความสูญเสียตามมา
พวกเขามีวิธีการเล่าเรื่องอันน่าสนใจในแง่ที่สามารถวาดระบายความอึดอัดหรือโดดเดี่ยวเหล่านั้นมาประกอบร่างกับโครงสร้างที่ค่อย ๆ บิวท์แบบแข็งแรงได้อย่างน่าเชยชม
ทว่าสิ่งที่วงสะกดคนฟังให้อยู่หมัดได้ นอกจากการเบลนด์ส่วนผสมของภาคดนตรีระหว่างแนวโพสต์ร็อกและชูเกซที่บรรเลงสัดส่วนอย่างสวยงาม ความหม่นหมองทางน้ำเสียงที่เข้มข้น บ้างก็ชวนจมดิ่งแบบอ่อนแรงโรยราแล้ว คือเนื้อหาเพลงที่พวกซึมซับผ่านการอ่านหนังสือแล้วนำมาถ่ายทอดเป็นงานศิลปะทางเสียง อันบ่งบอกถึงความคิดที่เกิดขึ้นในสภาวะไร้ทางออกพร้อมด้วยท่วงทำนองที่เคลื่อนไหวราวห้วงอารมณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ คล้ายปล่อยให้ตัวเองผจญไปบนหน้ากระดาษ หรือเพื่อทบทวนถึงชีวิต และความตายที่เราต้องพึงมีสติเสมอ
ปัจจุบัน Dead End Korridor ปล่อยผลงานออกมาให้ฟังทั้งหมด 3 ซิงเกิ้ล อาทิ สุญญกาล, ผ่านพบไม่ผูกพัน และ ดอกไม้ในถังขยะ ที่ทุกแทร็กได้รับแรงบันดาลใจมาจากกวีนิพนธ์หรือข้อเขียนของ สมพงษ์ ทวี, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล และ รงษ์ วงษ์สวรรค์ สำหรับใครที่หลงรักกลิ่นอายดนตรีหรือเอเลเมนต์ภาพรวมแบบวงรุ่นพี่อย่าง Inspirative เราก็อยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังวงนี้เช่นกัน
อ่านต่อ Slowwves คลื่นเสียงบนสายธารดนตรีชูเกซ-สโลว์คอร์ที่อุ่น ฟุ้ง และหมอง
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist