หลายคนรู้จัก ปิ๊ก—นัดส์ เจดีย์ Co-Founder โปรโมเตอร์สายร็อก Loudly Prefer ดีอยู่แล้ว เขาเองก็คร่ำหวอดในซีนดนตรีอันเดือดพล่านมานาน การันตีด้วยการทำคอนเสิร์ตสายโหดหลายสเกลมาอย่างโฉกโฉน พาศิลปินเมทัลระดับโลกมาสร้างความระห่ำถึงไทยหลายครั้ง ด้วยประสบการณ์ที่สะสมมา ถึงเวลาที่เขาจะขยับตัวเองออกจาก safe zone แนวดนตรีที่เขาถนัด ด้วยการหันมาจับอีกหนึ่งซีนดนตรีที่เขาชื่นชอบอย่าง post-rock ที่ซีนก็เติบโตขึ้นทุกวัน
Bangkok’s Post จึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อป่าวประกาศให้โลกรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของซีน post-rock ไทย โดยมีศิลปินต่างประเทศถึง 2 วงมาร่วมเฉลิมฉลองความมันในครั้งนี้ด้วย
COSMOS Creature วันนี้ เราอยู่กับพี่ปิ๊ก ที่มาชวนทุกคนไปงานนี้ให้ได้รวมถึงความเคลื่อนไหวของซีนร็อกในตอนนี้ สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้ตลอดการพูดคุยกัน คือความตื่นเต้นในแววตาเวลาพูดถึงงาน พูดถึงศิลปินทุกวงที่เขาตั้งใจเลือกมาเอง มันยิ่งทำให้เราเชื่อว่า Bangkok’s Post จะต้องเป็นหมุดหมายสำคัญให้กับซีนดนตรีไทยได้แน่นอน
จุดเริ่มต้นของงาน Bangkok’s Post
ต้องย้อนกลับไปประมาณปี 2018-2019 เลยครับ โปรเจกต์นี้ขึ้นมาเพราะในทีมงานเราชอบ post-rock ชอบ instrumental ชอบดนตรีบรรเลง ตอนนั้นก็ได้ทำงานนี้กับแบรนด์หนึ่ง โปรเจกต์เสร็จหมดแล้วแต่สุดท้ายมันมีข้อผิดพลาดนิดหน่อย ทำให้งานนี้ไม่เกิด แล้วเราก็พับเก็บมันมานานมาก จนช่วงหลังโรคระบาดมาเราปัดฝุ่นอันนี้ก่อน เคยนำเสนอตอนเราทำงานกับ Lido Connect แต่มันยังไม่มีโอกาสเหมาะที่จะทำ จนได้ทำ Deafheaven ที่เป็น Solo Show ก็มีความมั่นใจประมาณนึงละ มาทางนี้ก็มีคนซัพพอร์ตนะ มาถึงตอนนี้มันเป็นจังหวะที่วงนอกก็ได้ วงไทยในซีนนี้ก็เติบโต ตอนนั้นมันนอกกระแสมาก ๆ มาตอนนี้ดนตรีแนวนี้จะเป็นเมนสตรีมไปแล้วด้วยซ้ำ ระยะเวลาบ่มเพาะมันมาดีละ จังหวะก็ได้ ทำไมไม่ทำซะตอนนี้เลยล่ะ เราอยากทำ post-rock festival รูปแบบใหม่ที่มันเต็มที่ที่สุดเท่าที่ทำได้ในกรุงเทพ
ผมกับทีมทำงานกันไปพอเฉียดเข้ามาในแนวนี้ ทุกคนก็จะบอกว่าให้หยิบ Bangkok’s Post มาทำดิ ผมว่ามันต้องรอจังหวะบางอย่าง เราทำงานคอมเมอเชียลอะ เราไม่ได้มาทางงานแมสแน่ ๆ ตลาดมันแน่น ผู้เล่นเยอะ เราไปเบียดกับเขาก็คงเหนื่อยเนอะ เรากลับมาทำอะไรที่เราชอบดีกว่า คัดแต่สิ่งที่เราชอบก่อนเลยจริง ๆ และนี่เป็นงานเฟสติวัลเต็มรูปแบบงานแรกของ Loudly Prefer ด้วย เราทำงาน Rampage ที่ลิโด้สลับสองฮอลล์ทั้งวัน แต่ก็ยังไม่ท้าทายเท่าเรามาจัดงานนี้เลย
Deafheaven มารอบที่ 3 แล้ว ในแต่ละครั้งที่วงมามันมีหมุดหมายบางอย่างสำหรับวง
นี่คือโจทย์ใหญ่ของเราเลย มารอบที่ 3 ใครจะอยากมาดูวะ ตามทฤษฎีการจัดงานคือครั้งที่สามมันจะน้อยกว่าสองรอบแรก ได้เซ็นอยู่ Roadrunner Records ก็จริงแต่เพลงใหม่ก็ยังไม่ออก จะ PR ยังไงดี แต่พวกเรากลับมองว่ามันน่าตื่นเต้นกว่านั้นอีก เขามาเป็นส่วนหนึ่งของ Maho Rasop จนกลายเป็นกระแสในคนฟังเพลง ช่วง Solo Show เขาก็ใส่เต็มสะใจเลย ครั้งนี้นึกภาพ เขามาเป็น Headliner ใน Festival ที่เป็นทางดนตรีของเขาเลยนะ คนไปเฟสติวัลความคาดหวังความเอนจอยย่อมแตกต่างกับ Solo Show อยู่แล้วในระดับหนึ่ง พอมันเป็น Festival เนี่ย ความหลากหลายของไลน์อัพ ความต่อเนื่องตั้งแต่ประตูเปิด vibes ของงาน กิจกรรม ของกินของดื่มของใช้ของช็อปปิ้งในงาน สำคัญสุดคือผู้คนในงานที่มีความรู้สึกร่วมกัน ประสบการณ์มันสำคัญ คนที่ชอบดนตรีแบบเดียวกันมาสนุกด้วยกัน ผมเชื่อว่า Deafheaven รอบนี้มันจะเยี่ยมมาก ๆ และแตกต่างกับสองครั้งแรกแน่นอน เพราะนี้คือ Festival ของเขาเลย
Chinese Football ก็เป็นอีกเฮดไลเนอร์ที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน
เรามีสะกิดเอเจนต์ของเขาว่าเราอยากให้เขามาเล่นที่ไทยนะ น้อง ๆ เพื่อน ๆ ในวงการก็แนะนำวงนี้มาตลอด ชื่อก็ติดหูมากเพราะมันล้อเลียน American Football วงโปรดผมเลย (หัวเราะ) แต่พอไปฟังแล้วก็ชอบมาก แต่พอเริ่มติดต่อประสานงานช่วงนั้นดันล็อกดาวน์ แล้วเขาอยู่อู่ฮั่นด้วย โห จบเลย หลังจากนี้ฟ้าเปิดค่อยว่ากัน แล้วพอจะจัดงานนี้ก็อยู่ในหัวเราเสมอว่าอยากให้เขามาเล่นงานนี้จริง ๆ แล้วเขามีทัวร์เอเชียพอดี และวงไม่ค่อยได้เล่นในโปรดักชั่นใหญ่ ๆ แบบนี้มันก็ตื่นเต้นนะ จัดเต็มทั้งเวทีและแสงสีขนาดนี้ อยากรู้เหมือนกันว่าโชว์เขาจะเป็นยังไง
มีวงจีนมาร่วมงานแบบนี้ ดูจะเป็นการเปิดตลาดให้กับวงจีนในอนาคตด้วยมั้ย
ตอบเลยว่าใช่ครับ มันเปิดโอกาสแน่นอน วงจีนจะมาไทยก็เลือกวงที่น่าสนใจสำหรับเรา แต่วงไทยไปจีน ทุกวงก็เตรียมแลกคอนเนกชั่นกับเขาไว้ ถ้ามีโปรโมเตอร์ฝั่งจีนไต้หวันฮ่องกงมา ถ้าคุณเล่นดีก็เป็นโอกาสสำหรับทุกคน เป็นเรื่องปกติที่คนในอุตสาหกรรมต้องมาเจอกันแบบนี้
ตัวผมเองเราเห็นตลาดเขา แล้วเราเห็นวงอเมริกาหรืออังกฤษที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ด้วยประชากรและความต้องการเขาหนาแน่นมาก งานเฟสติวัลนี้เล็กมากเลย ห้าหมื่นคนเอง (ทำหน้าตกใจ) เราเห็นบิวกิ้นหรือ HYBE ไปโชว์ระดับห้าหมื่นเจ็ดหมื่นคน ธรรมดา ดนตรีแบบนั้นเขายังไปได้ขนาดนั้น Whispers ไปเล่นที่นั่นงานไม่ใหญ่จัดกันเอง ขาย 600 ใบเอง โอ้โห เราจัดงานฮาร์ดคอร์วงนอกใหญ่ที่สุดของเราคนเยอะที่สุด 500 ใบ (ทำหน้าทึ่ง) คนจีนที่เป็นนักธุรกิจดี ๆ ผมกล้าพูดเลยว่าเขาเลี้ยงดูปูเสื่อจนคุณตกใจ การได้กินได้อยู่ที่เขาจัดให้ Whispers ไปเล่นเขาเอา Lamborghini แบบรถตู้มาใส่เครื่องดนตรีนะครับ ตกใจ ทุกคนก็ตกใจ แต่นี่ปกติของเขา กินเหลาทุกวันจนบอกเขาเบื่อแล้ว อยากไปเดินเล่นกินในตลาด เจ้าภาพเขาบอกไม่ได้
วงไทยแต่ละวงก็คัดเลือกมาอย่างตั้งใจ
ขอพูดถึงวงน้อง ๆ ก่อนละกัน สิริพรไฟกิ่ง เราเห็นเขาเล่นงานต่าง ๆ ในซีนหลายงานละ เล่นดี เพลงดี มีมูฟเม้นต์เรื่อย ๆ ของดีนะ พอถึงงานนี้ก็คิดว่าของดีสี่ภาคเนอะ วงเชียงใหม่ก็น่าจะเอามาโชว์นะ ผมเคยดูตอนผมไปดูแลเวทีหรือโชว์งานต่าง ๆ พวกนี้มีของ ส่วน Shadow Colonies โห อินเตอร์ มีจุดเด่นในเรื่องซาวด์เวฟ เขาเล่นอิเล็กทรอนิกหมดก็ได้นะ แต่ดันมีกีตาร์ที่เป็นซาวด์ดิบ ๆ อนาล็อกมาใส่ ซึ่งไม่ดูเคอะเขินเลยอะเป็นก้อนเดียวกัน น้องแอนนักร้องนำก็เคยอยู่วง Orbital XX นอกจากนี้น้องยังร้องแจ๊สร้องโอเปร่า วงนี้เลยมีเสียงร้องเป็นจุดเด่นที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอัลบั้มใหม่ที่เขาเพิ่งปล่อย หลับตาฟังไม่คิดว่าเป็นวงไทยนะ ด้วยซาวด์แบบนี้ ในงานน้องน่าจะไล่เรียงอารมณ์คนดูได้ ไม่ต้องกระหน่ำเกินไป ลอยและชิล มีความเป็น post-rock ติด ๆ ในตัวเพลงด้วย เป็นของดีที่อยากให้ทุกคนได้ดู
ส่วนหนึ่งเพราะอยากให้โอกาสวงใหม่ ๆ ด้วย
เป็นส่วนหนึ่งของงานที่เราให้ความสำคัญด้วย The Biirthday Party เห็น Trash Lab เขาทำวงนี้มานาน ช่วงนี้เขากำลังมา ฟังเพลงก็ภาพหนึ่งเนอะ แต่ไปดูโชว์แล้ว โอ้โห มันได้ นี่วงหน้าใหม่หรอเนี่ย รูปลักษณ์มันเหมือนจะเข้ม แต่มันสวย มันนวลจังเลยวะ ในความสวยงามนุ่มนวลของโชว์ทำไมมันหนักแน่นจัง ทำงานดี รอบนี้เอาว่ะเอามาเล่น สามวงนี้มาต่อกันเป็นเวฟขึ้นลงขึ้นลงเลยนะ
เอามาประกบวงรุ่นพี่เลย
ผมเรียกพวกเขาว่า Local Headliner เลยอะ เรามี Deafheaven เป็น Big Headliner มี Chinese Football เป็น International Headliner เนอะ แต่ผมว่า Local Headliner ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขาเลยด้วยซ้ำในแง่ของคุณภาพ ดูเพลงใหม่ TORRAYOT ดิ คุยกับอู๋ถามสารทุกข์สุกดิบ เขาฝากวงกับผม คำแรกผมพูดเลย จะจัดงานเนี่ย เล่นงานพี่นะ ดีลก่อนเลย (หัวเราะ) กูไม่รู้กูดีลมึงก่อน เราดูวงนี้หลายรอบ post-blackgaze มันเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ว่ะ ผมจัดงาน Mayhem อู๋มาดูนะ ตามซัพพอร์ตงานเมทัลงานอันเดอร์กราวหลายงาน เป็นคนมาดูงานจริง เขาก็เล่นหลายงานนะ แต่พอมันเป็นเฟสติวัลใหญ่ ๆ จะเป็นยังไงวะ เพลงใหม่คือชอบมาก
แล้วอีกสองวงให้พูดอะไรอะ (หัวเราะ) Desktop Error อินเตอร์แล้ว เอเชียแล้ว ทัวร์ญี่ปุ่น เขาพิสูจน์ตัวเองมาตั้งแต่สิบปีที่แล้ว เล่นแนวนี้มาก่อนกาล ตอนนั้นยังคิดเลย เราชอบนะ แต่ใครจะฟังวะ แต่ตอนนี้เขาพิสูจน์แล้วว่าเขาทำได้ดี แล้วเขาเป็นตัวเองจัด ๆ เลย มาวันนี้มีผลตอบรับที่ดี กลุ่มคนฟังมันขยาย ความรู้ทางดนตรีการเข้าถึงมันขยาย ปล่อยอัลบั้มใหม่ก็ขายหมด ทัวร์หรือเสื้อก็ขายหมด ส่วนตัวพวกผมเองก็แคล้วคลาดกับวงมาหลายที มาครั้งนี้คือต้องได้ว่ะ ที่สำคัญ Bangkok’s Post ครั้งแรกผมอยากรวมตัวท็อปทั้งหมดไว้ก่อนเลย อย่างน้อยมาเกือบหมดแล้วนะ ต้องขอบคุณที่เขาตอบรับมาเล่น
INSPIRATIVE คือที่สุดของเมืองไทยในสาย เขาเป็นวงที่ทำงานไม่หยุดเลยอะ เขาเล่นเฟสติวัล งานเล็ก ๆ งานใหญ่ ๆ พอซีนมันเริ่มขยายแล้วโปรโมเตอร์ประเทศอื่นมาหาวงไทยดี ๆ ไปเล่น วงเขาไปเล่นจีนห้าหกโชว์ไซส์ห้าร้อยหกร้อยคนที่โน่นแล้ว Sold Out เนี่ย ไม่ธรรมดานะครับ เราทำงานต่างประเทศเราเข้าใจเลย พองานเราเป็นบรรยากาศที่ตรงสายเนอะ คนดูน่าจะได้รับแสงสีเสียงเต็มที่ คุ้มครับ Local Headliner ที่ได้ทั้งสามวงมาอยู่ในงานเดียวกันนี่ ไม่อยากพลาดจริงครับ
นอกจากไลน์อัพที่คัดสรรมาอย่างดีแล้ว ในงานจะมีกิจกรรมอีกบ้าง
เราก็นึกเนอะ อยากให้ทุกคนไปเฟสติวัลอันหนึ่งในไซส์กลาง ๆ ที่อบอุ่น เดินไปเจอนั่นเจอนี่ เข้ามาเห็นบรรยากาศดี ๆ เซฟ สะอาด สบายใจ ดนตรีที่มามันชัดอยู่แล้วว่าต้องชอบซักวงแหละ มากับเพื่อนก็มีจุดเท่ ๆ ให้เช็คอินแหละ มาแล้วหิวก็มีของอร่อยให้กิน อยากดื่มอะไรชิล ๆ ในงานก็มีให้เต็มที่แหละ ตั้งแต่บ่ายยันเที่ยงคืน มีเวทีเพิ่มอีกอันเป็นเซอร์ไพรส์ แต่ขออุบไว้ก่อน มีเวทีเดียวเพลงหนัก ๆ มันก็อาจจะล้า ๆ เนอะ post-rock มันเป็นเพลงที่ฟังแล้วมันไปไกลเนอะในจินตนาการ แต่ฟังนาน ๆ อาจจะอยากพักบ้าง ที่สำคัญคือ merchandise ของศิลปินต่างประเทศมาครบ แต่ศิลปินไทยต้องรอดูว่าทุกวงจะเอาอะไรมาขาย เราให้พื้นที่เต็มที่เลย และ merch ของงาน Bangkok’s Post ครั้งแรก เรามีแน่นอน เดี๋ยวประกาศอีกที มีบูธร้านซีดีไวนิลไปออกก็ต้องมี พวกแฟชั่นเสื้อผ้าให้ช็อปปิ้ง กินเที่ยวช็อปสนุกสนานอยู่ในนั้นทั้งวัน
ของที่มาคู่กับ Loudly Prefer คือมอชพิต ในงานนี้ก็ไม่แน่ว่าจะมีไหม เราวางแผนความปลอดภัยไว้ยังไงสำหรับคนที่สนใจงานนี้แต่ไม่อยากมอช
เบื้องต้นหน้าเวทีมีแผงกั้นนะครับขึ้นเวทีไม่ได้ (หัวเราะ) ในงานจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเยอะครับ เพื่อควบคุมทุกอย่างที่เป็นพื้นฐานความปลอดภัย แต่เมื่อมีวงมอช ยังไง ถ้าเราต้องการจะดูสบาย ๆ สเต็ปถอยออกมาก่อนครับ แล้วคนที่เขาถึงอะ ไม่ไหวแล้วอยากออกไปวิ่ง เขาจะเข้าไปเอง ส่วนเราก็เลี่ยงมาหน่อย แต่ผมว่าอาจจะน้อย มันไม่ค่อยมีจังหวะให้ทุบเท่าไหร่ น่าจะเป็นเซอร์เคิลพิตกับแท็กกันมากกว่า แต่เราแนะนำในฐานะที่ทำฮาร์ดคอร์หนัก ๆ กันเยอะ เราคงห้ามไม่ได้ มันเป็นกฎการอยู่ร่วมกันเนอะ เราคงไม่ตามใจใครที่สุด อยากให้ระแวดระวังและให้เกียรติกันครับ ถ้าเขาเริ่มหมุนก็ให้สเต็ปออกมาครับ เขาจะไม่ดันหรือบังคับเราเข้าไปหรอก
เราจะคอยประกาศในงานด้วยว่าช่วยกันเซฟนะครับ บางคนอาจจะไม่รู้จริง ๆ ไม่ว่ากัน คนมอชก็อย่าเอาเครื่องดื่มเข้าไปในวงก็อย่าสาดครับ มันเหนียว (หัวเราะ) มันไม่ดี ฝากแก้วไว้ก่อน ในงานก็จะมีหน่วยแพทย์ทีมช่วยเหลือแน่นอน
ทำ Loudly Prefer มานาน ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้บ้าง
ทุกคนที่เป็นโปรโมเตอร์ มันเห็นชัดว่าทุกคนมีพื้นที่ของตัวเอง แต่มันไม่ได้เกิดขึ้นว่าเราอยากเป็นแบบนั้นแบบนี้ สิ่งที่เราจะขับเคลื่อนตัวเองคือ เราทำในส่วนที่เราชอบจริง ๆ ให้ดี ทำเต็มที่ทุกงาน อย่าหลอกคนดู บอกแสงสีจัดเต็มแต่มีไฟสี่ดวง มันไม่ใช่ เราจะพูดในสิ่งที่เราไม่ได้ทำไม่ได้ นี่คือคีย์หลักของ Loudly แล้วพรูฟให้ทุกคนเห็นว่า เออ เต็มที่จริง วันที่มันมีปัญหาเราก็แก้ปัญหาเต็มที่ Headliner แคนเซิลกะทันหัน เรารีบจัดการเพื่อหาวงที่ดีมาให้ แล้วกลายเป็นโคตรดีเลย มันก็เป็นเครื่องพิสูจน์เหมือนกัน พอเราอยากทำอะไรมากขึ้น ก็อยากให้ชอบที่จะทำ ไม่ใช่ทำเพื่อให้เราใหญ่ แต่มันต้องใหญ่เมื่อเราทำเสร็จแล้ว เราต้องจริงใจกับทีมงานที่เราทำด้วย จริงใจกับงานที่ออกมาให้คนดูด้วย แล้วจะอยู่ได้นาน เพราะเราอยากทำสิ่งนี้เป็นทั้งสิ่งที่ชอบเป็นธุรกิจของเรา เราปักหมุดว่าจะทำร็อกทำเมทัล เราก็มีพาร์ทเนอร์ที่ดีทั้ง Holding On Records มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ สายเมทัลอย่าง Bomb Records มีคนที่ทำเพลงร็อกดี ๆ มีกลุ่ม Defiance Entertainment ที่เป็นผู้จัดที่ยอดเยี่ยม
หลังยุคโรคระบาดซีนร็อกมันเปลี่ยนไปขนาดไหน
มันเปลี่ยนด้วยทิศทางดนตรีมากกว่าเนอะ ก่อนหน้านี้กระแสฮิปฮอปมันมาจริง ๆ หลังจาก EDM ทุกคนที่ชอบเพลงร็อกมักจะพูดว่า “กระแสดนตรีร็อกเดี๋ยวมันก็กลับมา มันไปเป็นไซเคิล” ตอนนี้ถามว่าเมื่อไหร่อะ (หัวเราะ) เรารอให้วงระดับ Linkin Park หรือ Green Day ทำให้มันกลับมารึเปล่า Metallica จะกลับมามั้ย ก็ไม่ เพราะเจนคนเปลี่ยนแล้วครับ ผมนี้ผมสี่สิบกว่า น้องที่สนิทตอนนั้นตอนนี้มันไม่น้องแล้วนะ มันสามสิบกว่า มีครอบครัว มีหน้าที่รับผิดชอบ เราจะมองว่ามันเป็นมือกีตาร์วงนั้นนักร้องวงนี้ไม่ได้แล้วนะ เราต้องเข้าใจมุมเขาละ พอมันเปลี่ยนหมดคนที่จะทำอะไรเพื่อเปลี่ยนคงต้องเป็นคนรุ่นใหม่ สิ่งที่คนรุ่นใหม่ชอบตอนนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับดนตรีร็อกแบบที่ผมชอบเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็ยังทำสิ่งที่เราชอบนั่นแหละ ให้ผมไปทำตรงนั้นอาจจะทำได้ แต่มันไม่เต็มที่แบบที่ทำตอนนี้
วันที่เราคุยกัน ดนตรีร็อกกึ่งเมทัลเทรนด์โลกที่นำคือ Bring Me The Horizon แน่นอน แล้วออกมามันเจ๋งจริงว่ะ ดนตรีมันหนักหน่วงนะแล้วมันมีอะไรในนั้นเต็มไปหมดเลย ยิ่งกว่ายุคผมที่ชอบ Linkin Park ชอบ Limp Bizkit ชอบ Korn ใน Era ของ nu-metal เยอะเลย มันไม่ได้มีสิ่งใหม่อะ มันเป็นดนตรีที่มีอยู่กับของใหม่รวมกัน บางคนมี trap pop-punk รวมออกมา มันร่วมสมัย ทุกอย่างเป็นการรวมกันเพื่อสร้างอะไรใหม่ ๆ พอดนตรีมันออกมาทิศทางนี้ Loudly Prefer เหมือนจะฝืนโลกอยู่รึเปล่า แต่ก็ไม่ ในทีม Loudly มี Witchhunter Productions พี่เขาก็ชอบดนตรี thrash metal เยอะแยะไปหมด มันเลยออกมาเป็น Testament Live in Bangkok หรือล่าสุด Fear Factory Live in Bangkok งานแบบนี้ใครจะจัดถ้าไม่ใช่พี่ ๆ เขาทำ ผมชอบแต่ไม่ได้เข้าเส้นเหมือนพี่ ๆ เขา ทีม Witchhunter เขาระห่ำมาก ทำตัวเลขออกมาแล้วยังขาดทุน เขาบอกไม่เป็นไร ดีกว่านั่งเครื่องไปดูญี่ปุ่น ลง ๆ ตังไปเหอะ ทำแม่งไป คุณจะหาคนแบบนี้ที่ไหน (หัวเราะ) Behemoth อย่างเงี่ย คนที่ชอบ black metal หาดูพวกนี้ยาก วงเขาเล่นยุโรปอเมริกานี่สเตเดี่ยม อารีนา ถ้าเฟสติวัลเขาอยู่แถวบนนะ มาบ้านเราเขาเล่น club show 300 คน เขายอมเล่นอะ ไม่ได้หาดูในไทยได้อีกครั้งแล้วล่ะ มันฝืนกระแสโลก แต่มันไม่ฝืนใจเราเลย มันยังมีคนชอบจริง ๆ คนที่ยังติดตามและสนับสนุนดนตรีร็อกในบ้านเรายังมีเยอะ แต่ซีนร็อกเมทัลในบ้านเราก็แบ่งไปเป็นกลุ่ม ๆ อีก แค่เราจะทำงานแล้วไปเสิร์ฟกลุ่มไหนเท่านั้นเอง Loudly เราเอาหมด ไอ้ที่เราทำอยู่มันไม่เหงาหรอก
Bring Me The Horizon หรือ Deafheaven เคยโดนกระแสลบเพราะเปลี่ยนแนวเพลง พี่ปิ๊กคิดยังไงกับเรื่องนี้
มาตอนนี้ผมเข้าใจเรื่องนี้ ถ้าตอนผมยังวัยรุ่น ผมชอบวงนี้มาก ๆ แล้วมันเปลี่ยนไปทำอีกแนว เฮ้ย แม่งไม่หนักเท่าเดิมไม่มันเหมือนเดิม ละทิ้งตัวตน กูไม่เอาละ เรามันพุ่งอะ การฟังอะไรมันเต็มที่ชอบมันสุด ๆ พอมันปรับเปลี่ยนก็คงอะไรวะ ก็ตอนนั้นเรารู้เท่านั้นอะ มาวันนี้ก็พูดแค่ว่า ปกติ (หัวเราะ) เปลี่ยนแปลงอะไรได้หมด ต้องบอกงี้ ด้วยความโชคดีละกันผมเคยทำ Project Manager ตอน Bring Me The Horizon มาไทยครั้งแรก ผมนั่งทำงานกับทาง Overdrive ให้เขา ดูแลศิลปิน จัดคิวหลังบ้าน ผมโชคดีได้คุยกับ Jordan Fish เรื่องเพลงทั่วไป ตอนนั้น 2014 เห็นเขาเปลี่ยนแปลงผมไม่แปลกใจเลย เพราะ Jordan บอกว่า เราไม่ได้ฟังเพลงร็อกแบบที่เคยฟังแล้วว่ะ ตอนนี้เราสนใจ trap hiphop techno EDM electronic เขาพูดประมาณนั้น หลังจากนั้นอัลบั้มก็ออกมาเรื่อย ๆ แล้ววงก็โตขึ้น ๆ จนแมสสุด ๆ ถึงตอนนี้ Jordan Fish จะออกไปแล้ว ก็ยังเห็นทิศทางของวงที่ชัดเจน เขาเปลี่ยนเพราะเขารู้สึกอยากจะเปลี่ยน เขาก็คงไม่อยากทำอะไรเดิม ๆ
ตอนนั้นอ่านนิตยสารเหมือน Chino Moreno นักร้องนำ Deftones เขาก็บอกว่าชุดนี้เปลี่ยน ก็เปลี่ยน กูไม่อยากทำอะไรเดิม ๆ เราก็เข้าใจว่าไม่อยากทำอะไรเดิม ๆ ก็จริงนะ ในโลกคนทำงานไม่มีใครอยากทำอะไรเหมือนเดิม ทุกคนอยากทำอะไรที่มีความท้าทายใหม่ ๆ ฉีกตัวเองไปเลยให้เป็นอะไรมากกว่าเดิม แค่นั้นเอง วงระดับไอคอลอย่าง Metallica หรือ Korn ก็ยังเคยโดนด่าเรื่องนี้เลย (หัวเราะ) กลับมา Deafheaven ตอนปล่อยอัลบั้ม Infinite Granite ผมมีน้องฝั่ง blackgaze เยอะ มันทำเหี้ยอะไรเนี่ย (หัวเราะ) ผมบอกให้ลองฟังก่อน ผมซื้อซีดีฟังกลายเป็นฟังตลอดไม่เคยเปลี่ยนออกจากรถเลย อัลบั้มนี้ฟังเพลิน ฟังลื่นกว่าอัลบั้ม Sunbather ได้หนักหน่วงได้สะใจ แต่ไล่ไป 7-8 เพลงไม่ไหว แต่เขาไม่ทิ้งสิ่งที่เขาเป็นเลยนะ จริง ๆ ของใหม่บางทีต้องให้เวลามันหน่อยส ถ้าเปิดใจลองซักหน่อย ถ้ามันไม่ดีค่อยมานั่งด่าด้วยกัน (หัวเราะ) ผมว่าตอนนี้เราเสพสื่อแล้วเราตัดสินอะไรเร็วกว่าเดิมนะ ไถเฟซบุ๊กทุกคนมีเวลา 3 วิ ประชุมคอนเทนต์กัน 2 อาทิตย์ (หัวเราะ)
ฝากถึงคนที่ยังลังเลจะซื้อบัตร Bangkok’s post หน่อย
ตัดสินใจเลยครับว่าซื้อแล้วมางานนี้กัน คุณจะได้เจอ New Era ของงานเทศดาลดนตรี post-rock ใจกลางกรุงเทพ พร้อมทั้งวงนอกท็อป ๆ ที่เราคัดมา วงไทยตัวท็อปและน่าสนใจ งานเฟสติวัลรูปแบบนี้หาได้ยาก เราทำครั้งนี้สนองความต้องการของเราด้วย และเชื่อว่าสนองสิ่งที่ทุกคนมองหากันอยู่ หลับตานึกภาพเฟสติวัลที่เข้ามาอบอุ่น ปลอดภัย สะอาด มีเพลงดี ๆ มีจุดพักสบาย ๆ มีจุดเช็คอิน มีอาหารการกินพร้อม มีโปรดักชั่นระดับสากล ที่นี่ตอบโจทย์หมดครับ
Loudly Prefer ภูมิใจเสนอ บางกอก POST: THE NEW ERA OF POST-ROCK FESTIVAL
เตรียมตัวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แห่งเทศกาลดนตรีโพสต์ร็อกของชาวกรุง กับวง blackgaze แนวหน้าอย่าง Deafheaven ที่ยึดครองหัวใจคอเพลงโพสต์ร็อกชาวไทยจำนวนมากในตลอดหลายปีที่ผ่านมา กับการกลับมาครั้งใหม่ในฐานะเฮดไลน์เทศกาลดนตรี พร้อมด้วย Chinese Football วง math rock ไฟแรงส่งตรงจากอู่ฮั่น ร่วมด้วยวงดนตรีชั้นเยี่ยมของเมืองไทย ที่จะพาคุณหลุดลอยเข้าไปในโลกของดนตรีโพสต์ร็อกที่ทั้งลึกและลอยไปแบบไร้ขีดจำกัด เจอกัน 13 กรกฎาคม Centerpoint Studio ซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/loudlyprefer/bangkokpost2024
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา