FAZI วงดนตรีโพสต์พังค์จากเมืองซีอาน ประเทศจีนที่โลดแล่นในวงการเพลงนอกกระแสมาอย่างยาวนานร่วม 14 ปี ด้วยผลงานที่มีจำนวนถึง 5 ชุด นอกเหนือจะได้นำเสนอบทเพลงผ่านโฆษณา พวกเขายังได้รับโอกาสเพื่อออกเดินทางไปทัวร์ในต่างประเทศที่ทำให้จิตวิญญาณดั้งเดิมและธรรมชาติของเสียงเพลงเหล่านั้นกลายเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะอัลบั้มล่าสุดอย่าง Folding Story (2023) ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์อ่อนไหวและความแข็งแกร่งของชีวิต บนเรื่องราวแห่งความตายและการถือกำเนิดขึ้นใหม่
Space Invader ครั้งนี้ เราเลยชวนพวกเขามาพูดคุยเกี่ยวกับจุดเริ่มต้น ช่วงเปลี่ยนผ่านของชื่อวงจาก ‘The Fuzz’ มาสู่ FAZI ที่เติบโตขึ้นทั้งในแง่ของซาวด์ สไตล์ดนตรี เนื้อหาเพลง และจุดไคล์แมกซ์ชีวิต รวมถึงมุมมองต่อซีนไลฟ์เฮาส์ในประเทศบ้านเกิดตัวเอง ศิลปินที่พวกเขาเคยชื่นชอบแล้วตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ก่อนจะไปเจอกับการแสดงสดที่จะทำให้ทุกคนประหลาดใจในงาน Maho Rasop Festival ประจำปีนี้
ก่อนจะเป็น FAZI วงโพสต์พังค์ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ในช่วงแรกของการก่อตั้งวง คุณเคยใช้ชื่อ ‘The Fuzz’ มาก่อน พอเล่าความเป็นมาคร่าว ๆ ได้ไหมว่า ทำไมถึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ หรือมีจุดเปลี่ยนอะไรระหว่างนั้นหรือเปล่า?
เหตุผลที่พวกเราเลือกใช้ชื่อ ‘The Fuzz’ เพราะคำนี้ให้ความรู้สึกที่ทั้งทรงพลัง และยังหมายถึงซาวด์อันหยาบกร้าน ซึ่งอธิบายสไตล์ดนตรีของพวกเราในช่วงแรกได้ดีครับ แต่เหมือนตอนนั้นมีวงดนตรีสัญชาติอเมริกันวงนึงที่ชื่อว่า FUZZ (วงดนตรีแอซิดร็อกที่ก่อตั้งโดย Ty Segall) เราก็เริ่มคำนึงถึงการตีตลาดนอก เกรงว่าจะเกิดความสับสนกัน ในช่วงที่กำลังทัวร์ยุโรปปี 2017 เราก็เลยเปลี่ยนไปใช้ตัวพินอินที่ออกเสียงคล้ายกันในภาษาจีน อ่านว่า Fǎzī’ (ฟาซี / ฟาซือ) ครับผม
คุณสามารถผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดนตรีของฝั่งตะวันออกอย่างจีนดั้งเดิม และฝั่งตะวันตกอย่างอิทธิพลของโพสต์พังค์ และเคราต์ร็อกได้อย่างไรผ่านผลงานเพลงของ FAZI หรือมีวงดนตรีวงไหนที่คุณกำลังฟัง และให้ความสนใจตั้งแต่ก่อนหน้านี้จนมาถึงปัจจุบันบ้าง?
ในฐานะที่เกิดและเติบโตในประเทศจีน ผมมองว่าซาวด์ของพวกเราก็มีความเป็นชาวตะวันออกอยู่ในตัวเองเป็นทุนเดิมครับ พอนำมันมาผสมผสานกับอิทธิพลดนตรีทางฝั่งตะวันตกที่ค่อนข้างมีประวัติมาอย่างช้านาน อาทิ เคราต์ร็อก โพสต์พังค์ และไซคีเดลิกจนเกิดเป็นดนตรีแบบ FAZI ที่จริง ๆ พวกเราไม่ได้ออกแบบอะไรเป็นพิเศษ แต่ทุกอย่างล้วนออกมาเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะกำหนดมันอย่างตายตัว
ส่วนวงดนตรีที่พวกเราชื่นชอบในตอนนั้น (ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่นะครับ) ก็จะมี CAN, Neu!, Beak>, Rovo, Radiohead, Swans, FUGAZI, black midi, Dawn of Midi, Tortoise, Nik Bärtsch’s Mobile, Follakzoid, Minami Deutsch, Controlled Bleeding และอื่น ๆ
ล่าสุดอัลบั้มที่พวกเราพึ่งฟังจบกันจะเป็น ‘NO TITLE AS OF 13 FEBRUARY 2024 28,340 DEAD’ จากคณะ Godspeed You! Black Emperor, ‘The New Sound’ ของ Geordie Greep ตามด้วย ‘The Collective’ ของ Kim Gordon และ ‘Forgiveness Is Yours’ ของ The Fat White Family ไปตำกันได้ครับ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสุ้มเสียงของคุณถูกพัฒนาขึ้นอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวอัลบั้ม ‘Running Horse’ จนมาถึงผลงานล่าสุดอย่าง ‘Folding Story’ ที่เน้นไปทางธีมหนัก ๆ ซึ่งเกี่ยวกับชีวิต การเกิดและความตาย พอจะอธิบายได้ไหมว่า ในช่วงตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สไตล์ดนตรีและเนื้อหาเพลงของ FAZI เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง?
ในช่วงแรกเริ่มของพวกเรา ส่วนใหญ่มักจะเต็มไปด้วยความดิบหยาบ รุนแรง และโกรธเกรี้ยวครับ ตรงกันข้ามกับในตอนนี้ที่พวกเราเริ่มค้นหาความสมดุลระหว่าง ความละเอียดอ่อนและความแข็งแกร่ง โดยเลือกโฟกัสไปที่วิธีการถ่ายทอดอารมณ์ภายในเพลง และการสร้างจินตภาพให้ออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ในชีวิตที่เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับการกำเนิดของลูก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้พวกเราเลือกที่หยิบเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าเหมือนกันครับ
เพราะหลายบทเพลงของ FAZI ก็สะท้อนหรือสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ลึกถึงระดับจิตใจ เหมือนที่คุณเคยอธิบายไว้ว่า “ภายในอัลบั้มนี้ [Folding Story] มันมีทั้งความโกรธเกรี้ยว เจ็บปวด เศร้าหมองและขัดแย้งกัน แม้เราจะเลือกปล่อยวางอดีตของตัวเองไป แต่เราก็จะไม่มีทางลืมมัน” แล้วมีสิ่งไหนในชีวิตที่คุณรู้สึกชื่นชมมากที่สุด ในฐานะศิลปินที่อยากหันมาแชร์ความรู้สึกอย่างจริงใจร่วมกับแฟนเพลง
การมีอยู่ของดนตรีครับ เพราะดนตรีไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือ แต่มันยังมาพร้อมกับพลังที่ช่วยสะท้อนความจริงแท้ ไปจนถึงความรักและความหวังในชีวิตของพวกเราครับ
คุณเคยมีโอกาสได้ดูโชว์ของ 惘聞 Wang Wen ที่แสดงคู่กับ Jambinai มาก่อนหรือเปล่าคะ? เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อน เราพึ่งได้ดูโชว์ของทั้งสองวงนี้ และคิดว่ามันน่าสนใจในแง่ที่พวกเขาเลือกใช้เครื่องดนตรีดั้งเดิมอย่างที่คุณใช้ “เซียว” (ขลุ่ยจีน) ในงานเพลงของตัวเอง เราเลยอยากรู้ว่ามีเครื่องดนตรีพื้นบ้านอื่น ๆ ชนิดไหนจากประเทศจีน ที่คุณจะนำมาเล่นในโชว์หรือใช้ในอัลบั้มถัดไปบ้างหรือเปล่า
พวกเราเคยได้ดูโชว์ของ Wang Wen กันมาบ้าง แต่สำหรับ Jambinai พวกเรายังไม่เคยดูเลยครับ แต่ก็รู้จักชื่อเสียงของพวกเขามานานพอสมควร สำหรับเครื่องดนตรีพื้นบ้าน แน่นอนครับว่าเราค่อนข้างเปิดรับและยินดีที่จะใช้ ซึ่งจะใช้ในกรณีที่เหมาะสมเท่านั้น (ไม่ทุกเพลง) ซึ่งขลุ่ย (Xiao) และปี่แนจีน (Suona) เป็นเครื่องดนตรีที่เราชื่นชอบ ผมหวังว่าจะได้ไอเดียและนำมันมาใช้ในผลงานเพลงใหม่ ๆ ของเราครับ
หากพูดถึงวงการเพลงร็อกและซีนไลฟ์เฮาส์ในบ้านเกิด ในฐานะวงดนตรีที่สร้างสรรค์ผลงานและทำการแสดงสดมาตลอด 14 ปี คุณมองเห็นความแตกต่างอะไรบ้างในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ และอะไรคือสิ่งที่ศิลปินในจีนสมควรได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงต่างประเทศมากขึ้น
มีวงดนตรีที่ยอดเยี่ยมถือกำเนิดขึ้นมามากมายเลยครับ แต่ละวง แต่ละซีนในประเทศจีน ล้วนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน พวกเขารู้ว่าโลกภายนอกกำลังจะเกิดอะไรขึ้น และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน หรืออย่างอุปกรณ์เครื่องเสียงในเทศกาลดนตรีและไลฟ์เฮาส์ก็มีคุณภาพที่ดีมาก
คนหนุ่มสาวจำนวนมากก็เริ่มให้ความสนใจกับซีนอินดี้ เช่นเดียวกับที่พวกเขาหลงใหลและเริ่มมีความสุขในการแสดง หรือกระทั่งการออกไปดูดนตรีสด เราเองก็จะพยายามขยายฐานแฟนไปต่างประเทศ ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ ๆ เพราะผมเชื่อมาเสมอว่า การแสดงสดของพวกเราสามารถสร้างแรงกระเพื่อม และมีพลังอย่างมากในการส่งมอบแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินรุ่นใหม่เช่นกัน
การได้แสดงในเทศกาลดนตรี Maho Rasop Festival มีความหมายต่อ FAZI อย่างไรบ้างคะ? และนอกเหนือจากนั้น คุณมีวิธีเตรียมตัวอะไรก่อนขึ้นโชว์บ้างหรือเปล่า?
นับตั้งแต่การเปิดตัวและเริ่มออกทัวร์ในต่างประเทศ พวกเราก็ค่อย ๆ ได้รับความสนใจจากนานาชาติและโอกาสจากเทศกาลดนตรีมากมาย อย่างปีที่แล้วก็มีงาน Ear Up Music Festival, Busan Rock, Baybeats ไปจนถึงการได้เข้าร่วมงาน SXSW, Spring Wave, Clockenflap ในปีนี้ สำหรับ Maho Rasop Festival พวกเขาเลือกตารางเวลาโชว์ให้เราได้ดีมาก ๆ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเลยครับ ส่วนก่อนเริ่มโชว์ พวกเรามักเลือกใส่ชุดธีมเดียวกัน วอร์มอัพร่างกายคนละนิดหน่อย แล้วดื่มวิสกี้สักแก้วนึงให้ชื่นใจครับ (หัวเราะ)
มีโมเมนต์อะไรที่คุณคาดหวังที่จะได้รับจากผู้ชมบ้างไหม? โดยเฉพาะแฟน ๆ ที่ตื่นเต้นจะได้เจอคุณและรับชมการแสดงสดของวง FAZI ในงาน Maho Rasop Festival 2024
พวกเราเตรียมวิชวล เซ็ตลิสต์ และโชว์สุดพิเศษรอเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้น อย่าลืมมาดูการแสดงสดของพวกเรานะครับ บอกเลยว่าพร้อมมาก ๆ และทุกคนจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน!
อ่านต่อ คุยลึกแต่ออกรสกับ จิน [SALAD] และ Geordie Greep ถึงโปรเจ็กต์เดี่ยวในอัลบั้ม The New Sound
แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist