คุยกับ Chilli Beans. ถึง Sold-Out Show ที่นิปปงบูโดกัง และอัลบั้มเต็มของพวกเธอ ‘Welcome To My Castle’

848

Chilli Beans. สามสาวสุดร็อกจากญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ กับดนตรีที่ผสมหลาย ๆ แนวเพลงเข้าด้วยกันจนมีสำเนียงดนตรีที่โดดเด่นสดใสไม่เหมือนใคร หลังจากเดบิวได้แค่ 3 ปี พวกเธอก็ได้การตอบรับจากแฟนเพลงอย่างท่วมท้น ไม่เพียงแค่ได้โอกาสครั้งสำคัญอย่างการทำเพลงประกอบอนิเมะ One Piece ซึ่งทำให้วงฮิตถล่มทลาย จนได้ขึ้นเวทีนิปปงบูโดกังและมี Sold-Out Show ระดับนี้ของตัวเอง

ซึ่งอัลบั้มเต็มอันดับที่สองของพวกเธออย่าง ‘Welcome To My Castle’ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งพวกเธอก็ไม่ปิดกั้นตัวเองกับแนวดนตรีทั่วไปและพร้อมจะทดลองกับซาวด์สนุก ๆ ที่พวกเธออยากถ่ายทอดออกมา เพื่อเติมรอยยิ้มให้กับคนฟังทุกคน และปีนี้พวกเธอก็พร้อมที่จะไปเจอกับทุกคนบนเวที Summer Sonic 2024 อีกด้วย

Space Invader วันนี้ พวกเราได้มีโอกาสพูดคุยกับวง Chilli Beans ผ่านอีเมล์เกี่ยวกับโชว์ที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกเธอ และอัลบั้มใหม่ของพวกเธอ

สมาชิก Chilli Beans.
Moto (ร้องนำ)
Maika (เบส, ร้อง)
Lily (กีตาร์, ร้อง)

สวัสดีครับ Chilli Beans. ก่อนอื่นเลยต้องขอแสดงความยินดีกับ sold-out show ที่นิปปงบูโดกัง รู้สึกยังไงบ้างกับการขึ้นมาถึงจุดนี้ในฐานะศิลปิน

ภาพของการได้ชวนทุกคนเข้ามาสู่โลกในคอนเซปต์ของอัลบั้ม Welcome to My Castle มันเป็นบรรยากาศที่เพลิดเพลิน และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันในที่นี้ โชว์ของพวกเราเนี่ยแหละ ที่ถ่ายทอดภาพของเพลงได้ดีที่สุดจนสร้างอารมณ์ที่น่าขนลุกขึ้นมา

ทุกคนมาฟอร์มวงด้วยกันได้ยังไง

พวกเราสามคนได้เจอกันที่เรียนโรงเรียนสอนดนตรีชื่อ “Voice” และตัดสินใจฟอร์มวงด้วยกัน

สื่อมักเรียกแนวเพลงของวงว่า neo-garage แต่จริง ๆ แล้วทุกคนเรียกแนวดนตรีของวงว่าอะไร และได้แรงบันดาลใจจากไหน

neo-garage เหมือนเป็นคำจำกัดความแนวดนตรีในช่วงแรก ๆ ที่พวกเราทำวงและเขียนเพลงอย่างอิสระ จากแบ็กกราวในการฟังเพลงของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเลย พวกเราต่างก็โตมากับเพลงคนละแนวเลยทั้งร็อก ฮิปฮอป ฟังก์ เลยอยากถ่ายทอดดนตรีในแบบของเรา

Welcome To My Castle มีคอนเซปต์หลักคือพาคนฟังเข้าไปในโลกของดนตรี แรงบันดาลใจและโลกที่คนฟังคาดหวังจะเป็นยังไงในอัลบั้มนี้

โลกที่มีส่วนผสมของจินตนาการและชีวิตประจำวัน ห้วงความคิดของมนุษย์ที่ไม่ประติดประต่อกัน เราเปรียบอารมณืเหล่านั้นกับประตูของปราสาท เราวาดภาพถึงห้องแต่ละห้องที่เราขังความรู้สึกที่แท้จริงที่เราแสดงออกไม่ได้ในชีวิตประจำวันในห้องเหล่านั้น ในแต่ละห้อง

เราอยากสร้างพื้นที่ทางดนตรีที่ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ ได้ปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง และรู้สึกสบายใจที่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องซ่อนส่วนไหนในตัวเราที่คนอื่นบอกว่าไม่ดีพอ เพราะนั่นคือตัวตนของเรา คุณไม่จำเป็นต้องปฎิเสธตัวเองเพราะเรารู้สึกแย่กับตัวเอง นี่คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนรับรู้จากอัลบั้มนี้

ทั้งสามคนเคยไปทั้ง Fuji Rock และเป็นวงเปิดให้กับ Two Door Cinema Club มาแล้ว ประสบการณ์เหล่านั้นมีผลกับอัลบั้มนี้ด้วยไหม

ตั้งแต่ได้เล่นโชว์มาหลายครั้ง พวกเรารู้สึกว่าได้สนุกไปกับการสื่อสารสิ่งที่เราต้องการในโชว์ของเรา ได้ขับร้องความรู้สึกของเราออกไปในแบบที่มันเป็นก็พอแล้วค่ะ

เนื้อเพลงก็เป็นส่วนสำคัญในอัลบั้มนี้ด้วย มันซ่อนเรื่องราวอะไรน่าสนใจไว้เบื้องหลังอัลบั้มนี้ไหม

ตอนที่พวกเราเขียนเนื้อเพลง Stressed ด้วยการเอาใจคนอื่นมาใส่ใจเรา บางครั้งความเศร้าของเรากับของคนอื่นก็อาจจะซ้อนทับกันได้ ทำให้เรารู้สึกว่าทุกคนก็เศร้าไม่ต่างกัน เราอยากส่งต่อความรู้สึกแบบนี้ลงไปในเสียงดนตรีของเราด้วย

Welcome ทั้งน่าตื่นเต้นและอัพบีทสุด ๆ ช่วยเล่าเกี่ยวกับเพลงนี้ให้ฟังหน่อย

เพลงนี้เกี่ยวกับส่วนหนึ่งในตัวเรากำลังไฮป์ เพราะเราไฮป์สุด ๆ มันเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่บวกและความรู้สึกดี ๆ ในซาวด์ ราวกับ “We can do anything now” (พวกเราทำได้!) นี่คือหนึ่งในหลากหลายอารมณ์ของอัลบั้มนี้ และเราคิดว่ามุมมองดี ๆ ของเพลงนี้ช่วยทำให้อัลบั้มเรายิ่งแปลกขึ้นด้วย

Raise เองก็ประสบความสำเร็จจากการเป็นเพลงปิดของ ONE PIECE ด้วย

พวกเราเคยดู One Piece กันตอนเด็ก ๆ และมันสร้างแรงบันดาลใจเรามาก ๆ เพลงนี้ก็ถูกเขียนขึ้นจากภาพของโลกแห่งโจรสลัดและมนต์เสน่ห์ในจินตนาการ พวกเราคิดว่ามันใกล้เคียงกับโลกของ One Piece อยู่เหมือนกัน

ถ้าทุกคนได้ขึ้นเรือโจรสลัดหมวดฟาง คิดว่าแต่ละคนจะเป็นตัวละครตัวไหนบ้าง

นิโคโรบินค่ะ เพราะชอบผลปีศาจของเธอ Maika น่าจะเป็นโซโล และ Lily คงเป็นช็อปเปอร์ค่ะ

ถ้าให้แต่ละคนเลือกเพลงจากอัลบั้มนี้ที่มีความหมายกับตัวเองมาก ๆ จะเลือกเพลงอะไรกันบ้าง

Moto：aaa, stressed

Maika：Hello bad boy, doll, spark

Lily：stressed, wonderland

สิ่งที่ทำให้โชว์ของทั้งสามคนตราตรึงใจแฟน ๆ ทุกครั้งคืออะไร

เวลาพวกเราฟังเพลงในชีวิตประจำวัน เราจะรู้สึกอยากเต้นตามเพราะเรารู้สึกว่าเราออกห่างจากโลกแห่งความจริงได้ในตอนนั้น เราถ่ายทอดความรู้สึกที่ตรงไปตรงมาของความเศร้าและความต้องการที่จะหายไปจากที่นี่ มันสนุกและฮึกเหิมมากที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้กลายเป็นงานศิลปะอย่างดนตรี

นิปปงบูโดกังก็ได้ไปมาแล้ว ก้าวต่อไปของวงล่ะ

พวกเราอยากเติบโตขึ้นด้วยการรับความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา มากกว่าจะทำสิ่งเดิมซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ อยากลองทำงานที่ได้สะท้อนตัวตนของพวกเราและถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ออกไปสู่ประเทศอื่น ๆ บ้าง

กำลังจะมีทัวร์นอกประเทศบ้างมั้ย เป็นไปได้มั้ยที่จะมาประเทศไทย

ยังไม่ได้วางแผนกันเลย แต่พวกเราอยากออกไปเล่นที่ต่างประเทศเหมือนกัน ยังไงพวกเราเองก็ได้แรงบันดาลใจจากดนตรีต่างประเทศด้วย แล้วก็อยากไปเล่นเฟสติวัลต่างประเทศด้วย ถ้ามีโอกาสก็พร้อมมากค่ะ

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ชาวไทยหน่อย

สวัสดีค่ะ พวกเรา Chilli Beans. พวกเราดีใจมากที่ทุกคนได้สัมผัสความสนุกและความรู้สึกต่าง ๆ ผ่านดนตรีของเรา พวกเราอยากเจอกับทุกคนต่อหน้าซักวัน ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

---

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหว ฟังเพลงใหม่ของพวกเธอก่อนใครที่ Website, Twitter และ Instagram