Wadfah ก็คงเหมือนเด็กวัยรุ่นทุกคนที่ต้องเบนเข็มเข้ามาในเมืองหลวง เพื่อเติมเต็มและไขว่คว้าความฝันของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะปล่อยอีกหนึ่งเพลงฮิตที่ทำให้พวกเราตกหลุมรักในดนตรีของเธออย่าง I hate this city กับซาวด์อัลเทอร์เนทีฟร็อกที่บอกเล่าถึงเมืองที่สูบความฝันของเด็กวัยรุ่นไปจนหมด ในมุมมองของวาดฟ้าตอนนั้นรู้สึกว่าเมืองดับฝันเราตั้งแต่หน้าปากซอยบ้านแล้ว
มาวันหนึ่งเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Design Week 2024 ในฐานะตัวแทนศิลปินไทยจากโปรเจกต์ “Music Exchange” ที่ช่วยต้อนรับขับสู้ศิลปินไต้หวันกับเกาหลีใต้มาเจอกันที่หน้าไปรษณีย์กลาง Transmission วันนี้ เราชวนเธอมาคุยเกี่ยวกับดนตรีของเธอ และมุมมองของเธอเกี่ยวกับเมืองกรุงเทพ พร้อมเพลงใหม่ที่กำลังจะตามมา
ทำไมเราถึงชอบหรืออยากทำเพลงอัลเทอร์เนทีฟยุคก่อน หรือเพลงร็อกยุค 2000
จริง ๆ มันมาโดยธรรมชาติเลยค่ะ เพราะวาดฟ้าฟังเพลงยุคนี้อยู่แล้ว เคยลองพยายามเขียนเพลงให้ดูป๊อปขึ้นแต่สุดท้ายก็จะมีกลิ่นอายของ 2000 ติดมาตลอดเลย เหมือนมันอยู่ในสายเลือดของวาดฟ้าเลย (หัวเราะ) ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
แรงบันดาลใจจากยุคนั้น
ชอบ Lily Allen ค่ะ หลัง ๆ มานี่ก็ฟังเพลง twee pop ค่อนข้างเยอะ เริ่มสนใจเพลงแนวนี้ด้วย น่ารัก ๆ ป็อปปี้เลิฟ
ช่วงนี้ฟังใครอยู่บ้าง
ตอนนี้ชอบคนญี่ปุ่นชื่อ Lovely Summer Chan ไม่เกี่ยวอะไรกับความ 2000 เลย แต่ชอบ (หัวเราะ) แต่ถ้าวงที่ฟังบ่อย ๆ ตอนนี้คือ LE SSERAFIM ค่ะ (หัวเราะ) มีอีกคนที่วาดฟ้าชอบมากและอยากแนะนำเลยคือ Hatchie ค่ะ มีกลิ่นอายยุค 2000 มาก ๆ เพลง Sure
ได้ยินว่ากำลังถ่าย MV เพลงใหม่กันอยู่
ใช่ค่ะ ชื่อเพลง salad days จะออน 8 กุมภาพันธ์นี้ค่ะ คำว่า salad days หมายถึงวัยเด็ก วาดฟ้าก็เพิ่งไปเจอคำนี้มาได้ไม่นานจากเพลงของ Mac Dermarco ชื่อเพลงเดียวกันเลย ก็เลยได้แรงบันดาลใจมา ชอบที่ความหมายกับคำมันน่ารัก เกี่ยวกับวัยรุ่นที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ วาดฟ้าเข้าวัยทำงานแล้ว รู้สึกวัยเด็กของฉันค่อย ๆ หายไปแล้ว เลยเป็นท่อน “salad days are gone, I miss you, John” พูดถึงเพื่อนในวัยเด็กผ่านตัวละครสมมติ เพลงนี้จะมีความเป็นอิเล็กทรอนิกป็อปมากขึ้น แต่พอทำเสร็จให้พี่ ๆ ที่ค่ายฟัง ใคร ๆ ก็พูดว่า โอ้ว (เก๊กเสียงผู้ชาย) สองพันสุด ๆ (หัวเราะ)
เพลงของเรามักจะพูดถึงความสาหัสของการเป็นวัยรุ่น ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ส่วนตัวหมดเลยรึเปล่า
ประสบการณ์ส่วนตัวเลยค่ะ วาดฟ้าเขียนเพลงเหมือนเป็นการบ่นระบายเกี่ยวกับชีวิต เมสเสจหลัก ๆ ของวาดฟ้าอยากให้ทุกคนที่ฟังรู้สึกอยู่กับความเศร้าเหล่านั้นได้มากขึ้นมากว่า อยากให้เพลงนี้เป็นเพื่อนเขาในเวลาที่เศร้า ทุกเพลงของวาดฟ้าเขียนถึงวัยเด็กบ่อยมาก ๆ เลย น่าจะกลายเป็นคาแรกเตอร์ของวาดฟ้าไปแล้ว การเขียนการพร่ำเพ้อถึงวัยเด็ก อยากให้ทุกคนรักษาเอาไว้ไม่ลืมพลังในวัยเด็กของตัวเอง
ความทรงจำวัยเด็กที่เราชอบที่สุด
ของวาดฟ้าเด็กในที่นี้ไม่ได้หมายถึง 5 ขวบ แต่ช่วงเวลาที่คิดถึงที่สุดคือช่วงม.ปลาย 16-17 ไม่ต้องคิดอะไรเลยไม่ต้อทำอะไรมากมาย ไปขี่มอเตอร์ไซส์กับเพื่อน กินหมาล่าหลังโรงเรียน (หัวเราะ) ช่วงเด็ก ๆ วาดฟ้าไปแลกเปลี่ยนและได้อยู่กับตัวเองเยอะมากมาก เป็นช่วงเวลาที่คิดถึงเพราะจะพกไดอารี่ไปกับตัวเองตลอดเวลา ได้วาดรูปสเก็ตบุ๊ก ช่วงนั้นมีสเก็ตบุ๊ก 5-6 เล่มต่อปี เป็นวัยที่คิดถึงมาก เพราะตอนนี้ซื้อมาเล่มเดียวยังไม่หมดเลย สองปี มันเปลี่ยนไปมากมาก
เคยเอารูปในสเก็ตบุ๊กมาใช้กับงานเราบ้างมั้ย
เคยเอาไว้โพสต์ลง IG มากกว่า มีปกเพลง I’d probably die in my bed ที่พยายามจะสร้างให้เหมือนสเก็ตบุ๊กในแต่ละหน้า
จริง ๆ วาดฟ้าให้ความสำคัญกับการทำ MV มาก ๆ ถ้าเทียบกับวงอื่น
วาดฟ้ามองว่าสื่อทางภาพเป็นอีกศาสตร์หนึ่งที่สามารถสื่อสารเพลงของเราได้ค่อนข้างดี สมัยก่อนวาดฟ้าชอบถ่ายโน่นถ่ายนี่ไว้เป็นความทรงจำ แล้วเลือกเพลงที่ใช้มาตัดให้เข้ากัน กลายเป็นนิสัยของวาดฟ้าในวัยเด็กเหมือนกัน คือชอบทำวีดีโอ ไปไหนกับเพื่อนก็จะถ่ายวีดีโอไว้ พอจบทริปก็จะตัดวีดีโอเป็นเพลง ๆ ไป เลยกลายเป็นงานอดิเรกอีกอย่างของวาดฟ้า หลัง ๆ ก็อยากเลิกทำ MV ตัวเองมากเพราะว่าเหนื่อย (หัวเราะ) แต่ก็รู้สึกว่าเราเองเข้าใจเพลงเราที่สุดแล้ว แล้วเราควรสื่อสารมันออกมายังไง ก็เลยชอบทำ MV เอง
น่าลองทำหนังซักเรื่องนะ
อยากทำมากค่ะ
ถ้าเอาเพลงของเราไปประกอบหนัง คิดว่าจะเป็นหนังเรื่องอะไร
The Diary of a Teenage Girl ค่ะ แต่วาดฟ้าได้แรงบันดาลใจมาจาก Sing Street เยอะมาก แต่มันเป็นหนังในดวงใจตลอดกาล เลยไม่กล้ายัดเยียดเพลงตัวเองลงไปในหนังเขา (หัวเราะ)
อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นมากของวาดฟ้าคือสไตล์การแต่งตัว
คุณแม่เป็นคนชอบจับเราแต่งตัวตอนเด็ก ๆ ชอบพาไปซื้อของมือสอง มันก็กลายเป็นนิสัย หลัง ๆ มานี่ก็แต่งตามเทรนด์ด้วย วาดฟ้าชอบสไตล์ Japanese Street แต่งตามหนัง อย่าง Sing Street
ปกติชอบไปช็อปที่ไหน
เมื่อก่อนก็จะชอบไปคุ้ยเองที่ร้านชินจูกุค่ะ แต่หลัง ๆ ไม่ค่อยมีพลังแล้ว ก็จะ F อยู่บ้านใน IG (หัวเราะ) มีที่ที่ชอบมากคือ Treasure Factory กับ 2nd Street
อัลบั้มใหม่ต้องมาแล้วมั้ย
ประมาณกลาง ๆ ปีค่ะ จะพยายามทำงานหนัก ๆ ให้ทันปีนี้ค่ะ แต่จะมีไป feat กับศิลปินคนอื่นด้วย ยังบอกไม่ได้เพราะยังทำไม่เสร็จเลย (หัวเราะ)
การเป็นศิลปินหญิงในวงการดนตรียังมีอุปสรรคอะไรที่รู้สึกว่าไม่เท่าเทียมอยู่อีกมั้ย
วาดฟ้าไม่ได้รู้สึกถูกเลือกปฎิบัติในแง่ของการเป็นผู้หญิงนะ เรามองว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยฟังเพลงที่หลากหลายมากกว่าถ้าถามถึงอุปสรรคนะ
LUCfest ไต้หวันปีที่ผ่านมาเราก็ไปเล่นด้วย พอได้เห็นเมืองอื่นบ้างเรารู้สึกยังไงบ้าง เมื่อเทียบกับบ้านเรา
วาดฟ้าอาจจะไม่รู้ในรายละเอียดลึก ๆ แต่สิ่งที่เราเห็นคืองานที่จัดโดยรัฐบาลไต้หวัน เขาต้องการซัพพอร์ตศิลปินและส่งเสริมตลาดดนตรีของเอเชีย ตอนที่ไปก็มีหลากหลายวงจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งวงเล็ก ๆ วงใหญ่ ๆ มาเจอกัน ก็สนุกดีค่ะ อยากให้รัฐบาลไทยเปิดรับดนตรีหลากหลายแนวมากขึ้น อยากให้เราได้เชื่อมต่อกันมากขึ้นในตลาดดนตรีเอเชีย
กำลังจะได้ไปเล่นที่ Bangkok Desgin Week ปีนี้ด้วย รู้สึกยังไงบ้าง
ตื่นเต้นค่ะ วาดฟ้าเองก็เรียนดีไซน์มา ก็รู้สึกคาดหวังกับงานนี้ทุกปี ดีใจมาก ๆ ที่จะได้ไปเล่นก็อยากให้คนมาดูเยอะ ๆ
เคยแต่งเพลง i hate this city อยากรู้ว่ามุมมองของเราตอนนั้นเมืองมันไม่ดียังไง
วาดฟ้าเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาอยู่ในกรุงเทพ การมาอยู่ที่นี่มันเหงา ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด มันเป็นความรู้สึกคิดถึงบ้าน คิดถึงความเรียบง่ายของการอยู่บ้านเราด้วย ที่เราไม่ชอบเมืองเพราะการเดินทางที่แพง ขยะเต็มถนน ฟุตบาทไม่ดี รถติด แล้ววาดฟ้าก็ไม่ชอบความวุ่นวายและคุณภาพชีวิตแบบนี้
ถ้าได้มีส่วนในการออกแบบเมืองจะทำอะไรบ้าง
อยากให้มีสวนสาธารณะเพิ่มขึ้น อยากให้ห้างน้อยลง (หัวเราะ) อยู่กรุงเทพก็มีที่เที่ยวแค่ห้าง ห้าง ห้าง ห้าง แล้วห้างก็ทำให้รถติด อยากให้มันมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น อยากออกแบบผังเมืองในรถไม่ติดด้วย อยากให้มีไลฟ์เฮ้าส์เยอะ ๆ ก็น่าจะดี เพื่อนวาดฟ้าที่เป็นนักดนตรีจากต่างประเทศก็จะถามว่ามีไลฟ์เฮ้าส์ที่ไหนแนะนำบ้าง ก็แนะนำได้แค่ Blueprint กับ Lido Connect ซึ่งมันควรจะมีมากกว่านี้ ศิลปินก็เล่นได้แต่ร้านเหล้า มันควรมีพื้นที่สำหรับดนตรีบ้าง ให้คนได้มาเสพดนตรีจริง ๆ ตอนไปไต้หวัน เราเสิร์ชคำว่า Live House มันก็มีเยอะมาก เลือกดูวงที่เราอยากดูได้ ไปแค่ 4-5 วันก็สามารถหาดูได้ในช่วงเวลานั้น วาดฟ้าก็อยากให้กรุงเทพมีแบบนี้บ้าง
ชวนคนไปดูโชว์ของ Wadfah วันเสาร์นี้หน่อย
วาดฟ้าเป็นศิลปินสุดน่ารัก ตัวเล็ก ๆ (หัวเราะ) เอาใหม่ ๆ ฝากทุกคนมาดูวาดฟ้าด้วยนะคะ มาสัมผัสแนวดนตรียุค 2000 และพลังวัยรุ่นของประเทศไทย เป็นเพลงสากลน่ารักมุ้งมิ้ง สนุกแน่นอนค่ะ
Bangkok Design Week 2024 หรือเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2567 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Livable Scape” ที่รวมงานออกแบบและงานสร้างสรรค์เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้น ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 27 มกราคมเป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้ก็มีงานติดตั้งหรือเสวนาอีเว้นต์มากมายกระจายตัวไปทั่วเมือง และที่ขาดไม่ได้เลยคืองานดนตรีที่ปีนี้มีเยอะมาก โดยเฉพาะบริเวณหน้าไปรษณีย์กลางเจริญกรุงที่พาศิลปินมาเจอกับทุกคนมากมาย
และอีกหนึ่งโปรแกรมที่พลาดไม่ได้คือโปรเจกต์ ‘Music Exchange’ พาศิลปินไต้หวันและเกาหลี มาเจอกับศิลปินไทย ซึ่งเป็นไอเดียของทีมซอล์ฟพาวเวอร์แห่งชาติภายใต้ CEA เชื่อมความสัมพันธ์ของซีนดนตรีระดับเอเชียให้แน่นแฟ้นขึ้น พร้อมปล่อยไลน์อัพเต็มในโปรเจกต์นี้มาเรียบร้อย
วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์
Soft Pine
Wadfah
FORD TRIO
KIKI
วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์
Puzzleman (Taiwan)
Andr (Taiwan)
The FIX (South Korea)
ชอบไปคอนเสิร์ตเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และยังชอบแนะนำวงดนตรีใหม่ ๆ ผ่านตัวอักษรตลอดเวลา