Zulu ฮาร์ดคอร์อายุน้อย ผู้ไม่คล้อยตามธรรมเนียมสังคม

by Nattha.C
816 views

‘A New Tomorrow’ คือผลงานเพลงจาก Zulu วงอเมริกันฮาร์ดคอร์พังค์ที่กำลังมาแรงในซีนดนตรีฝั่งลอสแอนเจลิส ณ ขณะนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่สื่อดนตรีต่างประเทศให้ความสนใจอย่างมาก แถมติดอยู่ในลิสต์ Album of the Year ประจำปี 2023 ที่ทีมงานเดอะคอสมอสช่วยกันคัดเลือกแทบหัวระเบิด

นอกเหนือคอนเซ็ปต์ที่ปูทางการเฉลิมฉลองอันรุ่งโรจน์ของประวัติศาสตร์คนผิวดำ และการขับเคลื่อนอันทรงพลังสู่อนาคตของคนรุ่นใหม่แล้ว พวกเขายังทลายขีดจำกัดของตัวเองให้เป็นมากกว่าคำว่าดนตรี “ฮาร์ดคอร์” ผ่านการท้าทายแนวคิด เมสเสจสุดตรงไปตรงมา และสไตล์เพลงชวนเต้นรำเป็นหมู่คณะ กระทั่งจังหวะชวนทูสเต็ปที่สับขาหลอกแบบไม่ทันคาด จนใครก็ต้องหยุดชะงักด้วยความสงสัย

COSMOS Theory รอบนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จักพวกเขาผ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในผลงานใหม่ล่าสุด และสาเหตุอะไรที่ทำให้วงอายุน้อยวงนี้เป็นที่น่าจับตามอง!

Zulu © Alice Baxley

จากฉากหลังสู่ฉากหน้า
เดิมที “ซูลู” เป็นเพียงโปรเจกต์ชั่วคราวของ Anaiah Lei ฟรอนต์แมนที่ต้องการรวบรวมเหล่านักดนตรีเพื่อก่อตั้งวงฮาร์ดคอร์ที่มีสมาชิกเป็นคนผิวสีและผิวดำล้วน แต่ช่วงแรกมันกลับไม่ง่ายนักที่จะเฟ้นหาคนที่ชื่นชอบอะไรคล้ายกัน เพราะการทำเพลงในยุคปัจจุบันที่เราสามารถเลือกทำด้วยตัวเองได้แล้ว การแสดงสดยังคงเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างฐานแฟนคลับและนำเสนอดนตรีให้มีชีวิตชีวา

และในช่วงวัยที่เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ “พ่อแม่” ผู้เป็นทั้งเพื่อนสนิทและคนที่คอยแนะนำให้รู้จักบรรดาเพลงอัลเทอร์เนทีฟ พังค์ร็อก ไปจนถึงเฮฟวี่เมทัล อาทิ T.S.O.L. และ Adolescents สองวงดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1970s ถึง 1980s ประกอบด้วยสภาพแวดล้อมของครอบครัวที่ส่งเสริมกันและกัน อาไนยาจึงมีความผูกพันธ์ต่อสิ่งที่เขารักมาโดยตลอดอย่างการฟังเพลงและการเล่นดนตรี ทำให้ตัดสินใจฟอร์มวงการาจพังค์ The Bots ร่วมกับพี่ชายคนโตในปี 2007 ในขณะที่เขาค้นพบอาวุธคู่ใจอย่างดรัมเซ็ต แล้วเริ่มตีกลองจริงจังให้ Dare วงสเตรทเอด์จฮาร์ดคอร์ และอัลเทอร์เนทีฟร็อกแบนด์ชื่อ Culture Abuse ในปี 2018

แต่พอถึงคราวต้องก้าวเท้าออกจากฉากหลังในฐานะมือกลอง สู่ฉากหน้าของการเป็นนักร้องแห่งประวัติศาสตร์หน้าใหม่ อาไนยาก็รู้ตัวทันทีว่าเขาไม่สามารถทำด้วยตัวคนเดียวได้ แม้ช่วงแรกของการบันทึกเสียงส่วนใหญ่ใน EP ‘Our Day Will Come’ เขาต้องทำเองเกือบทั้งหมด โดยมีสมาชิกผลัดเปลี่ยนกันไปมา แต่สุดท้ายก็ได้ Dez Yusuf (กีตาร์), Braxton Marcellous (กีตาร์), Satchel Brown (เบส) และ Christine Cadette (อดีตมือกลอง) มาช่วยกันห่ำหั่นตั้งแต่ EP ‘My People…Hold On’ จนมาถึง ‘A New Tomorrow’ อัลบั้มที่เปรียบเสมือนแสงอำพันของพวกเขา

อัลบั้ม ‘A New Tomorrow’

สไตล์เพลงและแนวทางของซูลู
แน่นอนว่ามันคือดนตรีเมทัล-ฮาร์ดคอร์พังค์ในรูปแบบ Powerviolence ที่มาพร้อมการอัดกระแทกด้วยเสียงกรีดแทง ริฟฟ์กีตาร์ เบสไลน์ และจังหวะคิกดรัมอันรวดเร็ว แต่หากมองลึกลงไปในทุก ๆ สเปกตรัมบนผลงานเพลงของซูลู เราก็จะสัมผัสได้ว่าพวกเขาแสดงความเคารพรักต่อคนชาติพันธุ์เดียวกันอย่างไร

อย่างการเลือกถ่ายทอดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดที่พวกเขาล้วนต้องเผชิญ อาทิ การเหยียดเชื้อชาติ (Racist), การเหยียดเพศ (Sexism), การใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ (Police Brutality), การถูกปฏิเสธจากสังคม และการถูกริดลอนสิทธิทางการเมือง บนดนตรีที่มีส่วนผสมระหว่างแจ๊สแร๊ป ฮิปฮอป โซล อาร์แอนด์บี เรกเก้ ดั๊บ และงานฟังก์ร่วมสมัย ที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

สำหรับตัวผู้เขียนเองก็ประหลาดใจไม่น้อยว่าซาวด์ของพวกเขาค่อนข้างแตกต่างจากวงอื่น ๆ ในแง่วัตถุดิบดนตรี แม้ความลื่นไหลในแง่ของการฟังเป็นอัลบั้มเต็มอาจไม่ค่อยโฟลวเท่าผลงานชุดก่อนหน้า แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่าส่วนผสมที่มีความหลากหลายนั้นสวยงาม เมื่อถูกนำมาประกอบกับสตอรี่ที่พวกเขาตั้งใจสื่อสารและแสดงออกมาอย่างทรงพลัง ทั้งการควบรวมระหว่างบทกวีและเสียงเพลงแห่งการเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ อาทิ สุนทรพจน์ของ Malcom X ไปจนถึงกลิ่นอายแบบมิวสิคกรุ๊ป A Tribe Called Quest หรืออย่างแทร็ก ‘Lyfe Az A Shorty Shun B So Ruff’ ก็ได้อินสไปร์มาจากผลงานเพลง ‘C.R.E.A.M.’ ของคณะ Wu-Tang Clan

Zulu © Steven Ruud 2022

การเชื่อมต่อระหว่าง “ผู้คน” และ “ดนตรี” ในขณะที่ภาพลักษณ์ของวงดนตรีฮาร์ดคอร์โดยส่วนใหญ่มักถูกมองเป็นเพียงเครื่องมือที่ก่อให้เกิดความรุนแรงและความเกลียดชังต่อกัน แต่ซูลูและวงดนตรีสายหนักวงอื่น ๆ กลับมองว่า พวกเขาต้องการโอบรับผู้คนอย่างเท่าเทียมให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกับผู้คนที่รู้สึก “แปลกแยก” ไปจากสังคม ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน เพศอะไร อายุเท่าไหร่ หรือเป็นวงดนตรีสไตล์ไหน ฟังเพลงแนวอะไร ทุกคนก็สามารถเอนจอย และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับความหนักหน่วงที่มาพร้อมความสนุกสนานได้

วิธีการแสดงออกผ่านบทเพลงของพวกเขาโดยส่วนใหญ่ก็แสดงให้เห็นว่ายังมีแสงสว่างเรืองรองและศรัทธาในใจหลงเหลืออยู่ ซึ่งตอกย้ำถึงการต่อสู้ที่ยังคงดำเนินต่อไปในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังอย่างไม่ลดละ และความกล้าบ้าบิ่นเนี่ยล่ะ ที่ทำให้ซูลูได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้นปีต่อปี

“ผมหวังว่าในอีกหลายปีถัดจากนี้ ผู้คนจะมองดู Zulu เช่นเดียวกับที่ผมชื่นชมวง Bad Brains และมันจะทำให้พวกเรามีความสุขมากจริง ๆ ครับ” – บทสัมภาษณ์ Anaiah Lei บนเว็บไซต์ Loud and Quiet

+ posts

แบม นักเขียนน้องเล็กที่ชอบอ่านหนังสือและฟังเพลงในเวลาเดียวกัน ปัจจุบันกลับมาทำเพจ Listenist

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy