Ear Up Showcase 2023 งานที่ให้พื้นที่ศิลปินอิสระในฮ่องกงได้มาปล่อยพลังกันแบบไม่ยั้ง

by Montipa Virojpan
919 views
Ear Up Showcase 2023 Hong Kong review

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ถึง 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาทีม Ear Up Music โดย Renaissance Foundation ได้จัดงาน Ear Hub 2023 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเชื่อมศิลปินฮ่องกง เอเชีย และทีมงานที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลกให้ได้มาทำความรู้จักกัน คล้าย ๆ กับงาน Bangkok Music City ในบ้านเราแหละ โดยในงานนี้มีทั้ง Ear Up Showcase ที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ของฮ่องกงมาแสดงสด โดยเปิดให้เข้าชมฟรีทั้ง 4 วัน

และงาน ‘All Ears Asia’ ที่ศิลปินเอเชียและฮ่องกงได้มาแสดงต่อหน้าผู้ชมและ delegates จากทั่วโลก ทั้งสองงานก็เพื่อให้พวกเขาถูกมองเห็นและได้ยินมากขึ้น ถือเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสเพื่อให้ศิลปินได้ก้าวเข้าสู่การทำงานในระดับนานาชาติมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ก็มี International Music Industry Forum งานเสวนาที่บุคลากรในวงการมาแบ่งปันประสบการณ์และแนวคิดต่อหัวข้อต่าง ๆ ที่ส่งผลกับอุตสาหกรรมดนตรีโลก เพื่อที่ทุกคนจะได้ทำความเข้าใจและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน 

ต้องเกริ่นก่อนว่าการมาฮ่องกงรอบนี้เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมาก เดิมทีจะมาเที่ยวเพลิน ๆ แบบไม่ได้แพลนอะไรเยอะ แต่กะจะหาไลฟ์คอนเสิร์ตดู ในใจคิดว่าบ้านเขาคงคึกคักแบบซีนบ้านเราแหละน่า ปรากฏว่าพอลองเสิร์ชในเน็ตกลับไม่เจออะไรเลย! โชคดีที่รู้จักกับเพื่อนคนฮ่องกงที่อยู่วง Tofu Kingdom (ได้เล่น Clokenflap ปีล่าสุด) เพราะเขาส่งซีดีวงเขามาให้วงเรา ก็เกิดคอนเน็กกันขึ้นนับแต่ตอนนั้น การมาฮ่องกงรอบนี้ก็เหมือนเราต้องเอาซีดีวงเรามาแลก เลยถามไปด้วยว่ามีอีเวนต์อะไรน่าไปบ้าง เพื่อนก็ส่งลิงก์อีเวนต์นี้มาให้ เราก็ register showcase กับเสวนาเกือบทุกอัน ส่วนงานวันสุดท้ายทีมผู้จัดก็ส่งอีเมลมาเชิญเลยเพราะยังมีคอนแท็กกันอยู่ตั้งแต่ Clokenflap ปี 2017 ตื่นเต้นมากเพราะเห็นว่า KIKI กับ H3F มาเล่นด้วย ตามมาดูเพื่อนไกลถึงฮ่องกงเลยอะ ฮ่า บวกกับอยากดูอีกวงที่ได้ยินชื่อบ่อยจัดเพราะทำเพลงกับ Ford Trio นั่นคือ Helsinki Lambda Club เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเพลงเขาซิ่งใช้ได้ เรียกว่าจังหวะดีมากจริง ๆ 

งาน Ear Up Showcase จัดขึ้นที่ Freespace ซึ่งเป็นฮอลที่เพิ่งสร้างได้ไม่นานใน West Kowloon Cultural District โดยได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล ทีมงานซาวด์เอนจิเนียร์ หรือน้องกบเราเนี่ยแหละที่มาทำให้ KIKI บอกว่าระบบไฟกับเครื่องเสียงแผงคอนโทรลอะไรของเขามีจัดเต็มแบบที่บ้านเราไม่มี คือครบเครื่องมาก ด้านหน้ามีเป็น live house เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม กับวงอิสระมาเล่นสดทุกวีค แล้วตัว West Kowloon คือใหญ่มาก มีพิพิธภัณฑ์ M+ แล้วก็ Palace Museum รวมถึงสวนสาธารณะ ร้านอาหาร คาเฟ่ เดินทางสะดวก มีวิวริมน้ำเห็นตึกสูงฝั่งฮ่องกงแบบสวยจับใจ เรียกว่าเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของทุกเพศทุกวัยได้ดีจริง ๆ

สำหรับ COSMOS Voyage ตอนนี้เราจะขอรีวิว showcase แบบรวบรัด 4 วัน ทุกวันงานเริ่มตอนสองทุ่ม มีประมาณ 6 วง และแขกรับเชิญอีก 1-2 วง แต่ละวงหน้าใหม่ที่มาเล่นเขาได้เล่นกันคนละ 3 เพลง เราขอคัดไฮไลต์เน้น ๆ มาเล่าแล้วกันเนอะ 

Day 1 – 28 June 2023

ในวันนี้มีกันทั้งหมด 6 วง ได้แก่ After Tales เป็นวงแมธร็อก ผสมโพสต์ร็อก กับเสียงร้องใสแจ๋วคอนทราสต์กับเพลงคอมโพส สุดโหด มีเพลงที่เป็น spoken words เล่นโซโล่โปรเกรสซิฟ ได้ฟีลวงร็อกเอเชียนสายสกิลยุคสองพัน

แล้วก็เป็น 5gjm999 เป็นวงป๊อปกรูฟ นีโอโซล แต่แอบซ่อนลูกดั๊บ ลูกเร็กเก้ไว้ นึกถึงวงไทยอย่าง Camel Gel อยู่เบา ๆ ลีลาจัดจ้านมาก ที่เพลงเพราะโดนเส้น

ต่อด้วย Ashi อินเนอร์ป๊อปใสแฟนคลับมากเป็นจำนวนหนึ่ง ชวนนึกถึง ‘Smallroom ยุค 001’

และ dorothy. เป็น r&b แร็ปเท่ ๆ ลุคซ่า เราชอบเพลงชื่อ ‘綠野仙蹤 (Back From Oz)’ มาก คนเขียนพาร์ตดนตรีเก่งเอาเรื่อง ปรากฏว่าเพื่อนที่ทำงานโปรดักชันบอกว่าคนนี้เป็นทั้งผู้กำกับ วิชวลดีไซเนอร์ และอีกมากมาย อะไรจะ all rounder ขนาดนี้

ตามด้วย COPAK วงอินดี้ป๊อปกรูฟร่วมสมัย นึกถึงประมาณ Lucky Tapes ลุคบอยแบนด์แบบวง WaT แฟนเพลงเชียร์กันเต็มหน้าเวที เอาจริงสังเกตว่าหลายวงที่มาแรงในสายอินดี้ของฮ่องกงจริง ๆ ก็มีจุดร่วมเหมือนวงรุ่นใหม่ที่กำลังฮิตในบ้านเราเหมือนกันนะ

และตอนสี่ทุ่มก็เป็นโชว์ของแขกรับเชิญคือ GDJYB วงหญิงล้วนสี่คนที่เล่นโหดจัด มาเป็นโพสต์ร็อก แอมเบียนต์ แมธร็อก สกิลกีตาร์กับเบสคือไม่ธรรมดา มีใช้ singing bowl มาเคาะด้วยตอนต้นเพลง มีการผสมผสานเอาร็อกแอนด์โรล ฟังก์ แล้วก็อุปรากรจีนมาผสมในวิธีร้อง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นการแสดงที่เอาวัฒนธรรมดั้งเดิมมาใส่ได้น่าสนใจมาก ทั้งมีความ angelic ขณะเดียวกันก็มีความเป็นเพลงปลุกใจก่อนออกรบ หลากอารมณ์มากสำหรับวงนี้

Day 2 – 29 June 2023

วันนี้เข้างานเลตเพราะแอบหนีเที่ยวค่ะ ขออภัย มาถึงประมาณสามทุ่ม เจอวง Emmahotel กรูฟฟังก์ป๊อปโยก ซินธ์ฉ่ำ ๆ เสียงร้องเท่ เราชอบเพลงชื่อ ‘濛瀧1992’ มีแฟนคลับมาให้กำลังใจอย่างเหนียวแน่น ระหว่างเล่นอยู่มีการโยนของแจกคนดูตรงนั้นเลย

คนต่อมาคือ MAIA เป็นกรูฟฟังก์ที่ผสมซาวด์พื้นบ้านกับเร็กเกตอนด้วย บางเพลงมีความเป็น r&b สไตล์ K-pop เลย แล้วก็เป็น Ragpickers แร็ปร้องกรูฟขวัญใจวัยรุ่น นักร้องนำสองคนร้องสลับกัน ไฮป์คนดูกันสนุกสนาน คนดูก็ดูจอย ๆ แต่สำหรับเราคิดว่าดูเป็นป๊อปที่เอนเตอร์เทนเก่ง

ซาวด์วันนี้ลั่นมาก ย่านแหลมดังเกิน ไมค์ดังเกิน แล้ววงส่วนใหญ่ที่เล่นวันนี้คือป๊อป r&b vocal ดีว่าแผดเสียง อื้อหือ เทียบกับวันแรกคือเบาไปหน่อย เลยไม่ค่อยจอยเท่าไหร่ทั้งสไตล์เพลงกับคุณภาพซาวด์ ปิดท้ายด้วยแร็ปกรุ๊ป Yack Studio ที่ต้องยอมรับว่าบีตของเรามีความล้ำกว่า อันนี้จะเป็นติดแจ๊สฮอป ป๊อป ไม่ค่อยโชว์สกิลเน้นฟังสบายมากกว่า

Day 3 – 30 June 2023

Future Diary เปิดประเดิมเวทีเป็นวงแรก มาสไตล์ retro futuristic ป๊อปกรูฟ (อีกเช่นเคย) แต่มีความเป็น 80s อยู่สูง กีตาร์กับซินธ์ชวนขยับมีความ Daft Punk อยู่หน่อย ๆ

ต่อด้วย Esther Wu ที่จริง ๆ แล้วพาร์ตดนตรีเขาเท่สุด ๆ มีความเฮี้ยน แต่เหมือนไมค์กิ้งกลองมีปัญหา ซาวด์แปลก ๆ จม ๆ เบสบวมนำเสียงกลอง ต้องโฟกัสแต่ละเครื่องแล้วปรับหูตัวเองเอา วงนี้น่าสนใจเพราะใช้เพอร์คัสชันท้องถิ่นเยอะ ทั้งฉิ่งหรือไม้ไผ่ แล้วกีตาร์เอปิกมาก มีเปียโนคลอ ได้ฟีล Evanescene เพราะเสียงร้องที่ทำให้ดูเท่และวังเวง ชอบมาก มีเพลงที่เป็นทริปฮอปด้วย ชื่อว่า ‘Evening’ น่าเสียดายที่ซาวด์บาลานซ์ไม่ค่อยดีไม่งั้นจะว้าวสุด ๆ ไปเลย

แล้วก็เป็นวง Ngaimon อันนี้เอเนอร์จี้ดีมาก เอนเตอร์เทนคนดูเก่ง เป็นอินดี้ร็อกโดด ๆ ดูสนุก ร้องสลับชายหญิง แล้วก็มีเพลงที่ผสมดนตรีพื้นบ้านเข้ามาเป็นจังหวะกลาง ๆ น่ารักดี ส่วนอีกเพลงก็เป็นฟังกี้ห้าว ๆ ผสมบลูส์ หลากหลายสุด ๆ เป็นหนึ่งในโชว์ที่เราจอยมากเลย

ต่อด้วยอีกวงที่เรารอดูคือ before the night ends คือตั้งแต่วันแรก มันจะมีเพลงนึงที่เขาเปิดระหว่างรอเซ็ตเวที แล้วเพลงเพราะมาก shazam ไม่เจอเพราะเพลงในฮอลเบาจัด เลยถามน้องคนข้าง ๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันเลยฟังเนื้อเพลงภาษากวางตุ้งแล้วเซิร์ชเอา ปรากฏว่าเป็นของวงนี้แหละ ละวันนี้เขาก็เล่นทั้งเพลงสนุก ๆ Euro disco ไปจนป๊อปสบาย ๆ ที่ซินธ์ช่วงฮุกรอบสองเพราะจัด แล้วก็เป็นเพลง ‘輕不著地’ (อ่านไม่ออก แต่เผื่ออยากลองฟังจะได้ไปเซิร์ชกัน) เล่นสดเพราะม้าก เป็นวงที่เขียนเมโลดี้ป๊อปได้โกงจริง ๆ เป็นป๊อปง่ายแต่อร่อยทรงนั้น

ก่อนจะเป็นวง 馬幫樂隊 วงจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เราอ่านชื่อวงเขาไม่ออก ฮือ แต่เพลงเท่มาก เหมือนเอาเพลงชนเผ่า ท้องถิ่น มาผสมกับอิเล็กทรอนิก ร็อก ร้องอัดออโต้จูนยับ มีเอเนอร์จี้ปีศาจมาก แล้วอีกเพลงก็ใช้แซ็กโซโฟนใส่เอฟเฟกต์ พลังพุ่งสุด ๆ นอกจากนี้ก็มีเพลงที่เป็นสโลวร็อก มีเพลงที่เอาพิณจีนมาเล่น ตอนแรกนึกว่าหมอลำ ม่วนจัด แต่ก็แทรกคีย์บอร์ดแจ๊สซี่เข้ามา เป็นส่วนผสมที่ประหลาดมาก ก่อนจะขึ้นจังหวะโจ๊ะ ๆ ชวนทุกคนวิ่งไปรอบ ๆ เป็นวงกลม ไฟตอนนี้ก็จัดให้แบบดิสโก้ซิ่ง ๆ มีท่อนดรอปเป็นเร็กเก้ดั๊บ โซโล่กลอง ทรัมเป็ต รับส่งกันสนุกมากกกกกกกก เป็นโชว์ที่เหนือความคาดหมายสุด ๆ

ปิดท้ายค่ำคืนที่ 3 ไปด้วย Sunwoo Jung-a นักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ที่อยู่เบื้องหลังศิลปินเคป๊อปหลายราย ทั้ง  IU, GD & TOP, 2NE1, Lee Hi คือตอนเห็นชื่อก็เหวอเหมือนกัน เราไม่เคยฟังเพลงเขาแต่ว่าเพื่อนที่ชอบสายเกาหลีคือแนะนำมาทุกคน โชว์ของเธอเรียบง่าย พูดอธิบายแต่ละเพลงไปเรื่อย ๆ แบบถ่อมตัว แต่พอร้องเพลงเท่านั้นแหละ เพลงที่ดูเหมือนจะซิมเปิ้ลก็มีไดนามิกที่สะกดเราได้อยู่หมัด คอมโพสเพลงบัลลาดของเกาหลีโหดเสมอ ไม่รู้เขาไปมีเซนส์พวกนี้มาจากไหนกัน มีเพลงที่เป็น spoken words บ่นพึมพำกับดนตรีที่เล่นแบบมินิมัลมาก กับการใช้เสียงแอดลิบที่เทคนิคไม่ธรรมดา ซอนอูจองอาคือคุมสเตจได้อยู่หมัดจริง ๆ

Day 4 – 1 July 2023

วันนี้เป็นวันเสาร์ ที่งานก็เลยมีการปรับเป็น 2 เวที คือไลฟ์เฮาส์ด้านหน้าจะเป็น instrumental night มีวงสายบรรเลงสายสกิลสุดโหดมายึดเวทีถึง 3 วง และด้านในก็มีวงที่เราอยากดูมาก ๆ อยู่วงนึง ซึ่งเรามาไม่ทัน Logic Lost จากอินโดนีเซีย คือฟังเพลงเขาแล้วเท่มาก เสียดายมาก ๆ ไม่รู้ว่าเขาเล่นเป็นวงแรกมัวแต่ไปเดินเที่ยวอยู่ ฮือ

พอมาถึงก็เจอวงชื่อ CODE ซึ่งท่อนอิมโพรไวส์สุดเท่ก็ทำให้เราหยุดดูไม่ยอมเข้าไปข้างใน แล้วก็เข้าไปดู Rosemances วงอินดี้ป๊อปที่เสียงร้องเพราะมาก กับเมโลดี้ที่เพราะไม่แพ้กัน

ต่อด้วย Just a Broken Machine ที่เสียงร้องใส แต่คุมไดนามิกดี แล้วอีกเพลงก็อยู่ดี ๆ หวด ๆ สาดพลังมาแบบไม่ทันตั้งตัวกับคีย์บอร์ดที่คลั่งใช้ได้

ตอนใกล้ห้าทุ่ม Carsick Cars วงจากจีนก็ขึ้นเล่น คือดิฉันทับใจมาว่าซาวด์บริตป๊อป 90s จ๋า ๆ Pulp ก็หลายเพลง แล้วมีเพลงที่ได้ฟีลแบบ The Velvet Underground ท่อนดรอปสตรัมกีตาร์ขึ้นมาร้องพึมพำแบบ Lou Reed เอาคันชักมาเล่นกีตาร์เสริมสร้างเสียงเฮี้ยนเข้าไปในโชว์ แบบใครชอบทางนี้โดนใจวงพี่เขาแน่ ๆ เก๋ามาก

พอจบเราก็ออกมาดู Virgin Vacation ด้านนอกแปปนึง โอ้โห นี่ก็สุดพลังไม่ยอมข้างในกันเลย (จริง ๆ แอบรู้สึกว่าวงสาย instrumental เหล่านี้ควรได้เล่นด้านในมาก ๆ เพราะตัวธรรมชาติซาวด์หรือ performance ของวงเหมาะจะให้ไประเบิดพลังด้านในจริง ๆ)

ขอจบทั้ง 4 วันของ Ear Up Showcase ไว้เพียงเท่านี้ เดี๋ยวเราจะมาต่อกันในตอนต่อไปสำหรับ All Ears Asia พบกับ KIKI และ H3F ผู้เป็นตัวแทนของหมู่บ้าน และ Helsinki Lambda Club ที่เราอยากพิสูจน์ความซ่าของพวกเขาเสียจริงในงานวันสุดท้าย

+ posts

อิ๊ก นักเขียนสายดนตรีที่เกือบจะต้องวางมือ แต่คงหนีไม่พ้นเพราะยังอยากพูดถึงวงและเพลงดี ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ

Related Articles

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy